ทำไมผู้ชายถึงรักษาระยะห่างจากผู้หญิง? ศิลปะแห่งระยะห่างที่ถูกต้องในความสัมพันธ์ระหว่างชายและหญิง

เกี่ยวกับผู้หญิงและผู้ชายไม่ให้ค้ำประกันเมื่อพบกัน วิธีปฏิบัติตามกฎการใช้ผู้หญิงเพื่อให้เธอยังคงรัก ทำอาหารอย่างเอร็ดอร่อย และยังคงซื่อสัตย์? ปฏิบัติตามกฎการใช้ผู้ชายอย่างไรให้ดูแลไม่ไปไหนและรัก?

เราพบเนื้อคู่ เริ่มออกเดท พิชิตมัน และหยุดการต่อสู้ แต่ความสัมพันธ์เป็นกระบวนการต่อเนื่อง จะทำอย่างไรต่อไป? เราได้เขียนคู่มือฉบับสมบูรณ์เกี่ยวกับความสัมพันธ์

1. พึ่งตนเองได้

หลายคนมองหาความสุข โชค และความสนุกสนานในความสัมพันธ์ใหม่ๆ พวกเขาหวังว่าคนอื่นจะเติมเต็มช่องว่างทางวิญญาณทั้งหมด แต่นี่เป็นกับดัก จนกว่าคุณจะมีความสุขด้วยตัวเอง คุณจะไม่มีความสุขกับใครเลย บุคคลอื่นจะไม่ชดเชยการละเลยและความล้มเหลวทั้งหมด สิ่งสำคัญคือต้องเรียนรู้ที่จะมีความสุขและค้นหาตัวเองให้ได้ก่อน

ทำงานในอาชีพของคุณ วางแผน กำหนดเป้าหมาย ทำความเข้าใจกับสิ่งที่ไม่รู้จัก ท่องเที่ยว สนุกสนานกับเพื่อนๆ ครึ่งหลังสามารถเติมเต็มความสุขและไม่เปลี่ยนจากลบเป็นบวก พึ่งตนเองได้เต็มที่และมีความสุข มันจะเป็นการรวมตัวของคนสองคนที่แข็งแกร่งและมีความสุข

2. รักษาระยะห่าง

หลังจากรู้จักกันทั้งคู่ก็เริ่มสำรวจกัน พวกเขาเรียนรู้ลักษณะนิสัย ความปรารถนา นิสัย ความคิด และความฝันของคู่รัก คู่รักกระโดดเข้าสู่โลกภายในของคนอื่นและเปิดโลกของตัวเอง พวกเขากำลังพยายามที่จะกลายเป็นหนึ่งเดียวโดยไร้ร่องรอย แสดงทุกแง่มุมของตัวละครและชีวิตอย่างเต็มเปี่ยม เมื่อถึงจุดหนึ่ง พันธมิตรจะชัดเจนและเข้าถึงได้ง่ายเกินไป ชายและหญิงสูญเสียข้อจำกัด ความรู้สึกแปลกใหม่และความสนใจ

เป็นสิ่งสำคัญที่จะไม่เกาะติดและไม่เบื่อ แต่ให้รักษาระยะห่างไว้ เป็นอิสระ เป็นอิสระ และไม่พยายามควบคุมซึ่งกันและกัน ระยะทางที่ประดิษฐ์ขึ้นนี้จะทำให้มีโอกาสที่จะยังคงน่าสนใจและกำจัดกิจวัตรที่ทุกคนเกลียด

3. รู้วิธีพูด

บทสนทนาระหว่างคู่รักส่วนใหญ่จบลงด้วยการประลอง ใครถูกและใครผิด? การกล่าวหาซึ่งกันและกัน การเจรจาต่อรอง และข้อกล่าวหาเริ่มต้นขึ้น แต่คู่รักต้องการการสนทนาจากใจถึงใจเป็นประจำ สำหรับสิ่งนี้ ไม่จำเป็นต้องเปิดเผยรายละเอียดและความคิดทั้งหมด เพียงพอที่จะหารือเกี่ยวกับแผนงาน ความวิตกกังวล ความกลัว ความขุ่นเคือง สาเหตุของความหึงหวงและประเด็นที่น่าตื่นเต้นอื่นๆ

คู่รักต้องเข้มแข็ง ซื่อสัตย์ และเป็นผู้ใหญ่ การพูดคุยระหว่างกันตามปกติจะช่วยรักษาความใกล้ชิดทางอารมณ์และบรรเทาความขัดแย้งที่เกิดขึ้น (ดูความสัมพันธ์ระยะยาว)

4. ออกจากอาณาเขตส่วนตัว

ทุกคนมีความปรารถนาที่จะอยู่คนเดียว เขาต้องการพื้นที่ส่วนตัว มุม และชีวิตของเขา คุณไม่จำเป็นต้องใช้เวลาทุกนาทีร่วมกัน ผลประโยชน์ของพวกเขาไม่ควรถูกละเมิดโดยแผนทั่วไปอย่างต่อเนื่อง ผู้ชายและผู้หญิงอาจมีงานอดิเรกที่แตกต่างกัน เธอมีความสนใจในการออกกำลังกาย ถ่ายภาพ และร้องเพลง เขาไปยิม เล่นเป็นวงดนตรี และสนุกกับการตกปลา

มันจะเหมาะที่จะมีห้องนอนที่แตกต่างกัน ก่อนหน้านี้คุณตื่นเต้นกับความคิดที่ว่าคืนนี้คุณจะอยู่คนเดียว และหกเดือนต่อมา ร่างกายที่เปลือยเปล่าของเธอไม่ได้ทำให้เกิดอารมณ์แจ่มใสเช่นนี้ เกิดอะไรขึ้น นี่เป็นเรื่องธรรมดา มันจะดีกว่าที่จะนอนในห้องต่าง ๆ ชุดนอนและอย่าเปลือยกายเปล่า ๆ

5. ห้ามเล่น

การจัดการ แบล็กเมล์ การคุกคาม การบีบบังคับ ความสงสาร มีอีก 101 เทคนิคเพื่อให้ได้สิ่งที่คุณต้องการด้วยเกมสกปรก แต่ทำไม? คุณสามารถเล่นตามกฎและรักษาความเคารพซึ่งกันและกัน มีความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับความคิด ความปรารถนา และคำขอของคุณ นี่เป็นเรื่องจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับระนาบที่ใกล้ชิด

6. อยู่ในสไตล์

ตั้งแต่สมัยโบราณ ตระกูลปรมาจารย์ได้แสดงอัตราการรอดชีวิตที่ดีที่สุด ผู้ชายไม่ควรหย่อนและแสดงให้ผู้หญิงเห็น เขาเป็นผู้ชาย ผู้นำ คนรัก และหัวหน้าฝูง ถ้าเขาอ่อนแอลง เขาก็จะไม่คู่ควรกับสาวสวยของเขา ถึงเวลาแล้วที่ผู้หญิงจะฉลาดขึ้นและละทิ้งอคติสมัยใหม่ นักสตรีนิยมและผู้สนับสนุนสิทธิสตรีคนอื่นๆ ได้สูญเสียโอกาสแห่งความสุขของผู้หญิงไป ถึงเวลาเลิกพยายามรับผิดชอบในความสัมพันธ์ และเรียนรู้ที่จะยอมจำนนต่อผู้ชายคนหนึ่ง นี่ไม่ใช่จุดอ่อนของผู้หญิง แต่เป็นความแข็งแกร่งของเธอ ผู้หญิงที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่สามารถ "ส่ง" ให้ผู้ชายได้ แล้วผู้ชายล่ะ? ในสถานการณ์เช่นนี้ เขาถูกบังคับให้แข็งแกร่งและฉลาดขึ้น ผู้ชายที่แข็งแกร่งรับบทบาทของเขา แต่ผู้หญิงสามารถอ่อนแอและปกป้องได้ (ดูความสัมพันธ์ครอบงำ)

7. หวงแหนความสัมพันธ์

ดูแลความสัมพันธ์ของคุณและกันและกัน ทำไมต้องทดสอบความสัมพันธ์เพื่อความแข็งแกร่งและทดสอบความแข็งแกร่งของความรัก? ทำไมต้องกดจุดอ่อน ยั่วยุ เจ็บ?

ตอนซื้อมือถือใหม่ เช็คความแรงกันหรือยัง? แรงกดที่หน้าจอรับได้ จะตกจากที่สูงแค่ไหนก็ได้ ไม่ว่าจะขีดข่วนอย่างแรง เปียกน้ำ หรือซื้อเคสฟิล์มกันรอยมาดูแล? โทรศัพท์มีการเปลี่ยนแปลงไม่มากก็น้อย แต่เรายังคงพยายามทำให้มันอยู่ในสภาพที่ดีที่สุด เราดูแลและปกป้องรถยนต์ เครื่องใช้ในครัวเรือน เสื้อผ้า แต่ความสัมพันธ์ส่วนตัวล่ะ?

ทำลายความสัมพันธ์และคนที่คุณชอบทำไม ถนอม ถนอม และดูแล จะดีกว่าไหม? นี่คือผลประโยชน์ร่วมกันของเรา อย่าแข่งขันในความเห็นแก่ตัว ดูแลซึ่งกันและกัน รักกัน. และมีเซ็กส์มากขึ้น!

ระยะทางในความสัมพันธ์ - จำเป็นหรือไม่? ดูเหมือนว่ายิ่งเราผูกพันกับบุคคลมากเท่าไหร่เราก็ยิ่งอยากอยู่ใกล้เขามากขึ้นเท่านั้น อย่างไรก็ตามทุกอย่างไม่ง่ายนัก

ไกลและใกล้

ลองนึกภาพวงแหวนบนเลื่อยตัดต้นไม้: เราอยู่ที่แกนกลาง ใกล้ชิดกับเรามาก - ครอบครัวของเรา ยิ่งไกลออกไป - เพื่อนและญาติ ข้างหลังพวกเขา - เพื่อนร่วมงาน เพื่อน ผู้บังคับบัญชา และคนรู้จักทั่วไป ที่ขอบสุดคือผู้คนที่เราพบและแยกย้ายกันไปในทันที: เพื่อนนักเดินทางในการขนส่ง, สัญจรไปมา, ผู้ขายในร้านค้า

และถ้าคุณต้องการมีเพื่อนแท้ สามีภรรยาที่อุทิศตน และลูกๆ ที่กตัญญู ให้เรียนรู้ที่จะรักษาระยะห่างและเคารพพื้นที่ส่วนตัว ทั้งของตัวเองและของผู้อื่น

เพื่อน: ทำเครื่องหมายขอบเขตในเวลา

มิตรภาพที่ยาวนานมีความลับอย่างหนึ่ง - ระยะทางที่เหมาะสม เพื่อนสามารถหักหลังได้ - แต่เมื่อพวกเขารู้ความลับทั้งหมดของคุณเท่านั้น เพื่อนสามารถพาสามีออกไปได้ แต่ยิ่งคุณเชิญเธอไปปิกนิกและทานอาหารเย็นกับครอบครัวน้อยเพียงใด โอกาสที่เธอจะทำเช่นนั้นก็จะยิ่งน้อยลง

มิตรภาพมีทั้งหญิงและชายตลอดชีวิต แต่นี่คือความขัดแย้ง: ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดอย่างแท้จริงเป็นไปได้ด้วยระยะทางที่กำหนดไว้ล่วงหน้า พรมแดนที่กำหนดในเวลาที่เหมาะสมจะช่วยให้สามารถรักษาความเป็นอิสระ รักษาระยะห่าง และไม่สร้างพื้นที่สำหรับการดูหมิ่นซึ่งกันและกัน

เด็ก ๆ : ปล่อยให้ไปเที่ยวบินฟรี

ในวัยรุ่น เราย่อมเพิ่มระยะห่างระหว่างตัวเรากับพ่อแม่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ กระบวนการนี้เจ็บปวด แต่เรื่องอื้อฉาวในครอบครัวและความขัดแย้งทั้งหมด ทั้งหมดร้องไห้ด้วยการละเว้น "คุณไม่เข้าใจฉัน" เป็นเพียงหินก้าวไปสู่การเปลี่ยนแปลงสู่วัยผู้ใหญ่

ดังนั้น ในครอบครัวจึงต้องรักษาระยะห่างระหว่างกันในสองทิศทาง: ด้านหนึ่ง เด็กจำเป็นต้องเรียนรู้ที่จะตัดสินใจโดยไม่มีแรงกดดันจากผู้ปกครอง และในทางกลับกัน ผู้ปกครองจำเป็นต้องปล่อยให้เด็กมีอิสระมากขึ้น

เมื่อเริ่มเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านนั้น เด็กต้องการอิสระมากขึ้น ตามกฎแล้ว ผู้ปกครองพยายามลดระยะห่าง จากนั้นปฏิกิริยาของวัยรุ่นก็จะยิ่งก้าวร้าวมากขึ้น พยายามเพิ่มระยะทางในขณะที่ยังคงควบคุมสถานการณ์อย่างเงียบๆ และคุณสามารถหลีกเลี่ยงปัญหามากมาย

คู่สมรส: อยู่และปล่อยให้มีชีวิตอยู่

เราไม่ค่อยนึกถึงพื้นที่ส่วนตัวและขัดขืนของคนที่อาศัยอยู่ข้างๆ ราวกับว่าตราประทับในหนังสือเดินทางเป็นตั๋วแลกเงิน การโอนคนที่คุณรักหรือที่รักไปยังทรัพย์สินที่ไม่มีการแบ่งแยกของเรา ดังนั้นเมื่อผู้ใหญ่สองคนและคนอิสระเริ่มอยู่ด้วยกัน - แม้แต่ความรักที่ยิ่งใหญ่ที่สุด - ความขัดแย้งและความขัดแย้งก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้

การอยู่เคียงข้างกัน สิ่งที่ยากที่สุดคือการสร้างและรักษา Comfort Zone นั้นไว้ ซึ่งจำเป็นสำหรับเราแต่ละคน ไม่ใช่การอยู่ด้วยกัน เป็นเรื่องยากสำหรับเราที่จะเข้าใจว่าผู้เป็นที่รักสามารถมีความลับและความลับเล็กๆ น้อยๆ ของตัวเอง ความปรารถนาของพวกเขาที่แตกต่างจากของเรา หรือแม้แต่ความเหงา "ของตัวเอง"

การรักษาระยะห่างในการแต่งงานเป็นศิลปะในการใช้ชีวิตของตนเองและปล่อยให้อีกฝ่ายหนึ่งมีชีวิตอยู่ ทำให้เขาหลุดพ้นจากการเป็นผู้พิทักษ์เล็กๆ น้อยๆ และการควบคุมที่น่าอับอาย แม้ว่าดูเหมือนว่าคุณและเขาจะเป็นหนึ่งเดียวกันและไม่มีอุปสรรคระหว่างคุณ คุณแต่ละคนต้องการห้องลับเล็กๆ ที่ซึ่งในบางครั้งเขาจะเกษียณเพื่ออยู่คนเดียวโดยสิ้นเชิง

เกี่ยวกับตัวเขา เกี่ยวกับผู้หญิง

การไม่สามารถรักษาระยะห่างเป็นปัญหาของผู้หญิงทั่วไป ผู้ชายเริ่มเข้าใจกฎของเกมในระดับที่เป็นธรรมชาติและมักจะอยู่ห่างกันเล็กน้อย รักษาระยะห่างให้เท่ากัน ผู้หญิงโดยอาศัยธรรมชาติของพวกเขามีช่วงเวลาที่ยากลำบากกว่ามาก

“ เราทุกคนรู้ - บ่อยครั้งจากประสบการณ์อันขมขื่นของเรา - ครูที่ตีโพยตีพายซึ่งนำนักเรียนคนหนึ่งเข้ามาใกล้ตัวเองมากขึ้นและทำให้เขาเป็นคนโปรดหรือทำให้เขาแปลกแยกจากตัวเองอย่างรวดเร็วกล่าวหาว่าเขาทำบาปทั้งหมดและนำอีกคนเข้ามาใกล้มากขึ้น - นักจิตวิทยา Olga Arnold กล่าว -

สิ่งนี้ยังถูกใช้โดยภรรยาและแม่หลายคน ไม่จำเป็นต้องมีลักษณะนิสัยตีโพยตีพาย บางครั้งดูเหมือนว่าพวกเขาจะพอใจกับการดึงเชือกแล้วปล่อยมันไป ช่วงเวลาของความใกล้ชิดที่จริงใจที่สุดจะถูกแทนที่ด้วยช่วงเวลาแห่งความแปลกแยกซึ่งส่งผลกระทบต่อสมาชิกในครอบครัวทุกคนอย่างเจ็บปวด

การตำหนิรูปแบบหนึ่งที่ใช้โดยผู้หญิงเหล่านี้คือการเพิกเฉยต่อผู้กระทำความผิด พวกเขารู้วิธีที่จะเงียบบางครั้งพวกเขาไม่ให้เกียรติคนที่รักด้วยการสนทนาเป็นเวลาหลายวัน ซึ่งมักจะมีพลังมากกว่าการสบถและน้ำตา เช่นเดียวกับการลงโทษใดๆ การลงโทษจะมีผลอย่างยิ่งเมื่อนำไปใช้ในเชิงธุรกิจน้อยมาก น่าเสียดาย หากความรู้สึกของสัดส่วนเปลี่ยนไป บางครั้งการปลดเปลื้องทางอารมณ์ก็อาจนำไปสู่ความพังทลายของสายสัมพันธ์ในครอบครัว - และครอบครัวเอง

วิธีการเรียนรู้ที่จะรักษาระยะห่างของคุณ?

1. แม้จะอยู่ตามลำพังกับคนใกล้ชิดที่สุด จำไว้ว่าคุณเป็นคนที่มีความเป็นอิสระและเป็นอิสระ

2. รับรู้สำหรับตัวคุณเองและเพื่อผู้อื่นถึงสิทธิที่จะมีความคิดเห็นของคุณเอง

3. อย่าละลายในคนที่คุณรักโดยไร้ร่องรอย - ไม่ว่ามันจะฟังดูเย้ายวนแค่ไหนก็ตาม

4. ทำความเข้าใจว่าความรักของคุณมีพื้นฐานมาจากอะไร มักเกิดขึ้นที่ชายและหญิงมักจะรักกันเพราะความกลัวและความไม่สงบภายใน ดูเหมือนว่าพวกเขาจะสามารถรักษาความสัมพันธ์ได้ด้วยการซ่อนตัวเท่านั้น แต่นี่เป็นภาพลวงตา รักแท้ทำให้คนมีอิสระ จะไม่มีที่สำหรับควบคุมและความปรารถนาที่จะติดต่อกันตลอดเวลา แต่จะมีความเคารพซึ่งกันและกันสำหรับเสรีภาพส่วนบุคคลของทุกคน

5. ในการสื่อสารกับเพื่อนร่วมงาน อย่าให้มีความคุ้นเคยโดยไม่จำเป็น เป็นมิตรให้มากที่สุด แต่ในขณะเดียวกัน - ไม่สามารถเข้าถึงได้สำหรับการสื่อสารด้วยขาที่สั้นเกินไป

ใหญ่เห็นแต่ไกล

เมื่อออกแบบพื้นที่ส่วนตัวของคุณ อย่ากลัวที่จะอยู่คนเดียว ความสามารถในการรู้สึกและรักษาระยะห่างเป็นหนึ่งในความลับหลักของการสื่อสาร นี่เป็นเพียงกรณีที่คุณไม่ควรรีบเร่ง และยิ่งระยะห่างระหว่างผู้คนช้าลง ความผิดหวังก็จะรอพวกเขาน้อยลง

แต่ที่สำคัญที่สุด ระยะนี้มีข้อดีมากกว่า

พวกคุณหลายคนรู้แล้วว่า "รักษา" อะไร (จากสถานการณ์) ที่ฉันกำหนดบ่อยที่สุดในการปรึกษาหารือส่วนตัวของฉัน: ความสามารถในการรักษาระยะห่างจากผู้ชาย อาการของ “โรค” (ปัญหาและปัญหาในความสัมพันธ์กับผู้ชาย) อาจแตกต่างกัน แต่สิ่งแรกที่ฉันสนใจคือวิธีที่ผู้หญิงคนนั้นเกี่ยวข้องกับการเว้นระยะห่าง และเธอเชี่ยวชาญทักษะนี้อย่างไร

ระยะห่างที่สัมพันธ์กับผู้ชายทำให้ผู้หญิงสามารถรักษาสภาพของเธอไว้ได้เสมอโดยไม่ปะปนกับอารมณ์พฤติกรรมของผู้ชายที่เธอรัก ดังนั้นผู้หญิงจึงได้รับโอกาสที่จะยังคงเป็นแบบที่เธอต้องการในขณะนี้ ระยะทางแนะนำให้ผู้หญิงแยกพลังงานเมื่อจำเป็น เพื่อสะสมและประหยัด นอกจากนี้ยังป้องกันการสะท้อนโดยตรงกับบุคคลอื่นเพื่อป้องกันวิธีที่รุนแรงในการรักษาคนที่คุณรัก (การปฏิเสธ ความผิดหวัง การหนีจากความสัมพันธ์)

และที่สำคัญที่สุด ทักษะการเว้นระยะห่างช่วยให้ผู้หญิงยังคงความเบา ขี้เล่น มีเสน่ห์สำหรับสถานการณ์ที่ซ้ำซากจำเจ งานประจำ หรือสถานการณ์ที่ยากลำบากที่สุด

แมวของฉันลืมวิธีการเล่นไปหมดแล้ว ... เมื่อเวลาผ่านไปลูกแมวขี้เล่นกลายเป็น "ผู้ชาย" ตัวจริงซึ่งไม่ได้วิ่งตามไม้ที่มีเชือกบิดเป็นเกลียวและขนที่สดใสในตอนท้ายอีกต่อไป ทันทีที่ฉันเริ่มล่อให้เขาเข้าเกม เขาก็ใช้กำลังฉวยไม้กายสิทธิ์จากมือฉันทันที แทะมันอย่างแรง ฉีกขนทั้งหมดอย่างโกรธเคือง และพลาดไปแล้วว่าเขาชนะไปแล้วและไม่มีอะไรมากไปกว่านี้แล้ว เล่นกับ! ฉันได้ยินเสียงร้องคร่ำครวญของเขาเหนือศัตรูที่พ่ายแพ้ ฉันดุเขา ยืดไม้ที่เปราะบาง คลี่เชือก เย็บขนนกใหม่ แล้วบอก "คนเถื่อนคนนี้" ว่าเกมนี้ไม่ใช่การล่า แต่เป็นธรรมเนียมบางอย่าง งานอดิเรกที่ง่ายและสวยงามที่เขาต้องเล่นด้วย ฉันวิ่งกระโดดตามเชือกคว้าเพียงครึ่งฟันปล่อยเวลาจากนั้นคุณสามารถ "โกรธ" และให้ความสุขแก่กันอย่างมีความสุขตลอดไป ฉันสอนเขาให้อ้าปากทันเวลาและไม่บดขยี้ทุกอย่างที่ฉันมีไว้สำหรับเกม

แม้ว่าฉันจะไม่ได้อ้างสิทธิ์ในแมวก็ตาม ให้เขาเป็นผู้ชาย ฉันเองที่ควรจะมีประสิทธิภาพมากกว่านี้ สามารถหยอกล้อและหยอกล้อเขา วาดภาพ "นกบิน" เพื่อให้ฟันของเขาคลิกผ่านเป้าหมายอย่างดัง อุ้งเท้าของเขาจับ "อากาศ" อย่างตะกละตะกลาม และขนเองก็จั๊กจี้เบาๆ จมูกของเขา เป็นการยากที่จะบอกว่าใครเบื่อเกมนี้มากกว่า: "เกม" หรือนักล่าเอง เช่นนั้น ความเบื่อหน่ายกับแมวโตเต็มวัยเป็นไปไม่ได้อีกต่อไป คุณต้องมีความคิดสร้างสรรค์และเล่นโวหาร!

อีกครั้งที่ถอนหายใจ: คุณต้องพยายามมากแค่ไหนเพื่อเล่นกับผู้ชายคนหนึ่ง! คุณต้องเป็นนก แต่ฉันขอเห็นด้วยอย่างเป็นมิตรเกี่ยวกับกฎง่ายๆ ของเกม: อย่ากัดหรือทำให้ใครขุ่นเคือง แต่แค่อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดไป ลูบขนของกันและกันและหลังใบหูอย่างเสน่หา!

แต่ฉันมีข่าวร้ายมา: เป็นการยากที่จะเจรจาอะไรกับผู้ชาย! โดยเฉพาะในเรื่องของเกม ทุกคนรักเกมนี้ แต่น้อยคนนักที่จะรู้วิธีเล่น!ยิ่งกว่านั้น สิทธิในการเริ่มเกมนั้นเป็นสิทธิ์ของผู้หญิงคนหนึ่ง ไม่ใช่ผู้ชาย แต่เกมนี้ต้องการระยะห่าง และถ้าคุณพยายามที่จะกลายเป็นส่วนรวมที่แยกไม่ออกกับคนที่คุณรัก และกลัวที่จะทำลายความอ่อนโยนของคุณด้วยการพนันและอารมณ์ที่คาดเดาไม่ได้ คุณจะไม่ประสบความสำเร็จ! ในเกมที่ไม่มีคู่หูห่าง จะมีแต่น้ำตา ไม้หัก และขนขาด!

การสร้างสายสัมพันธ์และการเว้นระยะห่าง

คุณต้องสามารถแยกแยะและติดตามสองแผนการที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงในความสัมพันธ์กับผู้ชายคนหนึ่ง นั่นคือ การสร้างสายสัมพันธ์และระยะห่างระหว่างกัน

เมื่อเราใกล้ชิดกันมากขึ้น เราเปิดใจให้กันและกัน เราพยายามค้นหาทุกอย่างเกี่ยวกับผู้ชายของเรา เราซาบซึ้งในความสัมพันธ์ที่จริงใจ เราสาบานว่ารักและซื่อสัตย์ เราเชื่อในความเข้าใจที่ไร้ขอบเขต การกอดที่อ่อนโยน ในความสัมพันธ์ที่สนิทสนม เราผ่อนคลาย ผ่อนคลาย เรียกร้อง และยืนยันในความแน่นอน ความรักมักเข้าใจได้ว่าเป็นกระบวนการสร้างสายสัมพันธ์และการเปิดเผยตนเองในมือที่เชื่อถือได้ของคู่ครอง การเปิดเผยตัวเองตามด้วยพันธะที่ปลอดภัยกับพันธมิตร…

แต่! การสร้างสายสัมพันธ์มีผลที่ไม่พึงประสงค์:ความสงสัย ความหึงหวง ความเข้มงวด ความเจ็บปวดจากความจริงที่เปิดเผย กิจวัตร ความสดและความแปลกใหม่ในความสัมพันธ์หายไปอย่างรวดเร็ว

ดูเหมือนว่าจะมีทางออกง่ายๆ: การเว้นระยะห่างชั่วคราว, การระบายความร้อนโดยเจตนา, การบังคับให้เลิกบุหรี่ - เพื่อที่จะได้สัมผัสรสชาติของความใกล้ชิดและการสอดใส่อีกครั้งเพื่อให้คุณสามารถตกลงทุกอย่างได้อย่างสบาย ๆ กระซิบเบา ๆ ในหูของคู่ของคุณเกี่ยวกับคำขอของคุณ พูดคุยเกี่ยวกับปัญหา ... สด: สองขั้นตอนสู่กันและกันและถอยหลัง - เพื่อป้องกันและปรับปรุงความสัมพันธ์!

ข่าวร้ายที่สอง:นี่เป็นแบบจำลองที่อ่อนแอและไม่เพียงพอสำหรับความสัมพันธ์ที่จริงจังกับผู้ชาย!

ฉันต้องการดึงความสนใจของคุณไปที่ความจริงที่ว่าการเว้นระยะห่างไม่ใช่วิธีการเสริมเพื่อสร้างความใกล้ชิด ไม่ใช่ภาพลวงตา และไม่ "ทำให้คู่รักอบอุ่นด้วยการทำให้เย็นลง" แต่เป็นหัวใจสำคัญของความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด

ความสนิทสนมระหว่างชายและหญิงสามารถเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว จากนั้นแทนที่จะเป็นระยะควบคุมที่ล่าช้า กระบวนการทางธรรมชาติของการปฏิเสธและความเย็นชาของผู้ชายจะเริ่มต้นขึ้น หรือในทางกลับกันความใกล้ชิดเกิดขึ้นอย่างช้าๆด้วยความยากลำบากเพราะผู้หญิงทำตัวเย็นชาและ "หนาวจัด" - เธอดึงกลับมาล่วงหน้าราวกับว่าเธอขุดตัวเองในคูน้ำและไม่สามารถเอาชนะความเฉื่อยของเธอและ กลัวความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด ผู้หญิงคนนี้พิจารณาคู่ครองภายใต้กล้องจุลทรรศน์และคุณสามารถมอบตัวเองให้กับผู้ที่น่าเชื่อถือและได้รับการพิสูจน์มากที่สุดเท่านั้นซึ่งจะไม่ทำให้คุณผิดหวังหรือหลอกลวง การห่างเหินในความสัมพันธ์ระหว่างผู้ชายกับผู้หญิงแอบแฝงแอบแฝงเป็นสิ่งที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง! เราเคยพูดถึง “หลุมหญิง” มาหลายครั้งแล้ว - เมื่อผู้หญิงล้มลง ล้มลงจากชีวิต และสร้างชีวิตในคุกใต้ดินของกระจกโค้งตามแบบแผนของความจริงของผู้หญิง

อย่างไรก็ตาม แมวของฉันค่อนข้างน่าเชื่อถือหรือไม่? เป็นไปได้ไหมที่จะเล่น "เบอร์ดี้ของเขา" กับเขาอย่างเสียสละ?

ครั้งสุดท้ายที่เขาไม่อยู่บ้านเป็นเวลาสามวัน เราเป็นห่วงเขามากที่เดชา เขามาแบบขาดๆ หายๆ มีกลิ่นเหม็น และมีความสุข การปิกนิกข้างถนนกับแมวของเพื่อนบ้านก็ประสบความสำเร็จ!

ฉันควรจะรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหนและกับใครตลอดเวลาเพื่อที่จะเล่นกับเขาอีกครั้งและเติมกระท่อมด้วยความอ่อนโยนของแมว? และโดยทั่วไปแล้วทันใดนั้นเขาก็ได้รับหมัดหรือพระเจ้าห้ามหนอน???

แต่ที่นี่เขานั่งอยู่บนพื้น อย่างอิ่มเอมใจและอวดดีตรงหน้าฉัน เขาเอาไม้นกเสียบเข้าที่ฟันของเขา และด้วยคำพูดทั้งหมดของเขาที่ว่า มาเล่นกันเถอะ! คุณจะปฏิเสธคำขอที่ไร้เดียงสาเช่นนี้ได้อย่างไร?

การเว้นระยะห่างคืออะไร?

ฉันแยกแยะความแตกต่างสามประเภทในความสัมพันธ์กับผู้ชาย และเช่นเคย ฉันจัดเรียงตามความซับซ้อน: จากทักษะง่าย ๆ ไปจนถึงทักษะที่ซับซ้อนมากขึ้น จากต่ำสุดไปสูงสุด ความเข้าใจของอาจารย์เกี่ยวกับหลักการของระยะทาง

ประเภทแรก: การเว้นระยะห่างในแนวนอน. เกิดขึ้นในระนาบเดียวกันและแตกต่างกันในระยะทางที่กำหนดกับพันธมิตร จำเป็นต้องจัดการระยะทางด้วยขั้นตอนง่ายๆ: การสร้างสายสัมพันธ์ - การกำจัด, เย็นชา, ไม่ชอบ, ค้นหาและหลงทาง, ออกไปและกลับมา, สัญญาและกลับคำพูดของคุณ, โกรธเคืองและให้อภัย ... การเว้นระยะห่างแนวนอนหมายถึงความเท่าเทียมกัน ของพันธมิตร ทุกคนมีความสนใจของตนเอง และภารกิจหลักเรื่องระยะทางคือการสร้างข้อตกลงที่ดีระหว่างฝ่ายที่เท่าเทียมกัน "ความยุ่งเหยิงทางประชาธิปไตย" เช่นนี้มักหวังให้เกิดปาฏิหาริย์ เช่น "เราต้องคุยกัน" และ "ค้นหาทุกอย่างอย่างสงบ"

การเว้นระยะห่างในแนวนอนยังหมายถึงการไล่ระดับของตัวเองด้วย มีพฤติกรรมหยาบคายของผู้หญิงเมื่อไม่เข้าใจความโกรธ ไม่ได้แปลเป็นรูปแบบที่มีเสน่ห์บางเบา แต่เพียงกระเด็นไปเหนือธรรมชาติของผู้หญิง

สำหรับรูปแบบที่หยาบคายของการเว้นระยะห่างของผู้หญิง ฉันได้รวมความคิดและการกระทำของผู้หญิงดังต่อไปนี้:

• กำลังจะไปหาแม่
• ฉันจะวิ่งหนีไปในคืนที่ดวงตาของฉันมองไป
• ฉันจะพาแฟน
• เมากับแฟนแล้วตกหลุมผู้หญิง
• ฉันจะไปเที่ยวพักผ่อนคนเดียว
• ห่างกันสักพัก
• อีกนิดเดียวจะผิดหวังตลอดไป
• ฉันไม่คุยกับคุณแล้ว!
• หย่า
• ความจริงของผู้หญิง: "ฉันไม่เห็นเขา!"
• เดินลึกลับคาดเดาไม่ได้และผิดปกติ
• หยุดทำงานบ้าน
• ฉันจะปิดโทรศัพท์ฉันจะไม่รับ SMS ฉันจะลบออกจากเครือข่ายสังคมออนไลน์ (รายการไม่มีที่สิ้นสุด)

รูปแบบที่หรูหราของการเว้นระยะห่างของผู้หญิงที่ผู้หญิงนำไปใช้โดยไม่ต้องออกจากห้องที่มีความขัดแย้งหรือความเข้าใจผิดกับผู้ชายมีรายชื่ออยู่ในการสัมมนา "สาระสำคัญของการแต่งงานที่มีคู่สมรสคนเดียว" ในเดือนมีนาคม 2017 ซึ่งดูเหมือนว่าฉัน ผู้อ่านของฉันหลายคนละเลยอย่างไม่สมควร แม้ว่าในการสัมมนาครั้งนี้ฉันได้ให้คำตอบสำหรับคำถามที่ยากที่สุดในชีวิตครอบครัว

การเว้นระยะห่างในแนวนอนเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อไม่ให้ยึดติดกับคู่ครอง ไม่มีความรู้สึกเป็นเจ้าของบุคคลอื่น ไม่มีการเดิมพันใด ๆ เกี่ยวกับความอดทนของผู้หญิงหรือการทำโทษตนเองที่ไม่รู้จบของเธอ ผู้หญิงมีหัวกะทิที่สดใสมีความไวต่อความแตกต่างและเธอไม่ควรเพิกเฉยต่อสิ่งนี้ ในทางกลับกัน ความรู้สึกที่ละเอียดอ่อนนี้ไม่ควรกลายเป็นเสาหินแห่ง "ความจริงของผู้หญิง" ซึ่งสามารถนำมาใช้เพื่อทำให้ผู้ชายตกตะลึงและเรียกร้อง "ความเคารพต่อผู้หญิง"

หากผู้หญิงไม่รู้วิธีแยกตัวออกจากผู้ชายอย่างสง่างามเมื่อมีบางสิ่งที่ไม่เหมาะกับความสนใจของเธอหรือเธอถูกละเมิดอย่างมากเธอก็เริ่มทนทุกข์และ "ออกไป" และผู้ชายเองก็เปิดกลไกในการเลือก ผู้หญิง (ฉันขออ้างอิงถึงบันทึกของการสัมมนาเรื่อง "แก่นแท้ของการแต่งงานที่มีคู่สมรสคนเดียว")

การเว้นระยะห่างหญิงประเภทที่สองเกี่ยวข้องกับการกำหนดระยะทางพื้นฐานผ่านการสร้างความสัมพันธ์แบบลำดับชั้น "หญิง-ชาย" ในลำดับชั้นนี้ ผู้ชายได้รับมอบหมายให้เป็นผู้นำ มาจากสามีของเธอ (ไม่ใช่ข้างกาย) ที่ผู้หญิงเรียนรู้ที่จะเชื่อฟังอย่างภาคภูมิใจ เพื่อเรียนรู้วิธีจัดการอย่างภาคภูมิใจในด้านอื่นๆ ที่สำคัญต่อเธอ ในการเลี้ยงลูก การดูแลบ้าน การสร้างวิถีชีวิตของเธอ วงสังคม ที่ทำงาน และอื่นๆ การเว้นระยะห่างแบบนี้ (เจ้านาย-ทาส) ไม่ได้ทำลายครอบครัว แต่เป็นรากฐาน การเว้นระยะห่างตามลำดับชั้นจากสามีทำหน้าที่เป็นคำสั่งแนะนำอย่างมีสติ การสร้างสายสัมพันธ์ การดึงดูดพันธมิตรเป็นเรื่องรอง กระบวนการเหล่านี้ต้องสอดคล้องและกำหนดขึ้นภายในลำดับที่กำหนด

อะไรทำให้ความสัมพันธ์เป็นแบบที่สองของการเว้นระยะห่างแบบลำดับชั้น

ประการแรกความเคารพซึ่งกันและกันการกำหนดขอบเขตของการสื่อสารความเสี่ยงที่ดีความแปลกใหม่ความสดของความรู้สึกความตื่นเต้น การผจญภัยและการเดินทาง ความซื่อสัตย์และความมีสติสัมปชัญญะ คำเตือน. รักกันยาวนานและลึกซึ้งต่อกัน ความสมดุลของความสัมพันธ์เกือบจะคาดเดาได้-ไม่ทราบ

ในประเภทที่สอง ผู้ชายจะเว้นระยะห่างจากผู้หญิง ผู้หญิงยอมรับกฎนี้โดยสมัครใจ เขาเป็นคนที่รู้สึกอิสระในครอบครัว ผู้หญิงเองยึดมั่นในผู้ชายเมื่อเขาทำตัวเหมือนอาจารย์ ในความสัมพันธ์แบบลำดับชั้นเช่นนี้ ทุกคนควรรู้จักตำแหน่งของตน ผู้ชายกำหนดพลวัตของความสัมพันธ์ผู้หญิงเป็นศูนย์กลางของแรงโน้มถ่วง ผู้ชายยินดีจัดระเบียบชีวิตของเขา "รอบและรอบ" ผู้หญิงคนนี้ แต่ไม่เคยยอมจำนนต่อเธออย่างสมบูรณ์และไม่ขึ้นอยู่กับเธอ (อีกครั้ง - การสัมมนา "สาระสำคัญของการแต่งงานแบบคู่สมรสคนเดียว") นี่คือความสัมพันธ์ที่ยาวนานที่สุด

การเว้นระยะห่างหญิงประเภทที่สาม: (ยิ่งยากขึ้นไปอีก) - การห่างไกลไม่ได้อยู่กับสามีของเธออีกต่อไปด้วยสถานะที่ต่ำต้อยของเขา แต่อยู่กับตัวเธอเอง การแยกตนเองขั้นพื้นฐานไปสู่สถานะสูงและต่ำและห่างไกลจากหลัง . ซึ่งหมายความว่าผู้หญิงสามารถเปลี่ยนจากโหมดพฤติกรรมหนึ่งไปอีกโหมดหนึ่งได้อย่างรวดเร็ว. ไม่แข็ง ไม่เจ็บ ไม่ล้ม ไม่เจ็บ ไม่หนี ไม่เจ็บตัว แต่ทำตัวดีในสถานการณ์ที่ยากลำบาก

พฤติกรรมประเภทที่สามจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเชี่ยวชาญการเว้นระยะห่างแบบลำดับที่สองเท่านั้น พลังแห่งระเบียบนั้นแปลโดยตัวเธอเองว่าเป็นเกม ความเบา การแสดงออกที่สดใส ความกล้า ความบันเทิงและความสบายใจ แต่! ฉันยังคงเล่นตามกฎ ฉันรู้ที่ของฉัน และไม่ทำลายลำดับชั้น นี่เป็นพฤติกรรมของเลดี้ ไม่ใช่แม่ครัวเจ้าอารมณ์ ผู้หญิงคนนั้นยังสามารถโกรธ แต่มีเสน่ห์และสง่างาม อีกช่วงเวลาที่สวยงามคือความเงียบของเธอ

เมื่อคุณพัฒนาทักษะการเว้นระยะห่างแบบที่สาม คุณจะเริ่มเข้าใจว่าในกรณีส่วนใหญ่ผู้ชายไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับมันเลย เราพร้อมที่จะข่มขู่เขาเหมือนเอซกระติกน้ำร้อนเมื่อเราไม่ชอบอะไรเพราะเขาอยู่ตรงหน้าเราและเราอยากจะเชื่อว่าเหตุผลอยู่ในตัวเขาอย่างแม่นยำไม่ใช่ใน ความเกียจคร้านและความช้าของเราเอง แต่! หากผู้หญิงไม่มีเวลาตอบสนองอย่างถูกต้อง - ผู้ชายไม่ต้องตำหนิ! เขาสามารถอยู่อย่างที่เป็นอยู่ได้ และผู้หญิงคนนั้นไม่ปรับตัวเข้ากับเขา เธอเลือกคำตอบที่ถูกต้องจากทักษะที่หลากหลายของเธอ เหตุผลคือการเปลี่ยนรูปแบบพฤติกรรมอย่างรวดเร็ว “เรียบง่าย เป็นธรรมชาติทั้งหมด”, “ผู้หญิงในแบบที่เธอเป็น” - ทำได้เพียงเว้นระยะห่างในแนวนอนเพื่อหนีความสัมพันธ์ และการตัดสินใจที่ยากลำบาก ผู้หญิงชั้นยอดถูกสร้างขึ้นในความตระหนัก ในการแบ่งแยกตนเองออกเป็น "ของตัวเอง" และ "เอเลี่ยน" เป็นพฤติกรรม "ต่ำ" และ "สูง มีค่าควร" สถานะ วิธีคิด

ให้ฉันกล่าวว่าความรักที่มีต่อผู้หญิงควรแสดงออกเป็นหลักตามรสนิยมทางไกลของเธอ และสามีของเธอ (เข้าสู่ลำดับชั้น) และสภาพที่ไม่น่าสนใจ เน่าเฟะ และป่วยของเธอ เงื่อนไขเหล่านี้มีอยู่ในทุกคน ความสามารถในการแยกตัวออกจากความชั่วร้ายเข้ามาแทนที่ความมุ่งมั่นของผู้หญิง หากคุณสามารถ (ดูถูกและเด็ดขาด) ได้อย่างถูกต้อง (ดูถูกและเด็ดขาด) ให้พูดกับตัวเองหรือผู้อื่นว่า “FU!” ของคุณ และ "FI!" (และมีความแตกต่างกันมากระหว่างทั้งสองทีม!) นี่คือก้าวแรกที่สำคัญในการฝึกฝนศิลปะการเว้นระยะห่างของผู้หญิง

เป็นไปได้ไหมที่จะหัวเราะหรือล้อเล่นกับคนที่รักที่กลับมาบ้านหลังเที่ยงคืนมานานและไม่ชัดเจนว่าเขาอยู่ที่ไหนตลอดเวลานี้? ไม่มีอะไรขัดขวางคุณไม่ให้เป็นเรื่องง่าย ยกเว้นการเดิมพัน "ความใกล้ชิด" ของคุณเอง ที่เข้าใจเพียงฝ่ายเดียว เป็นกระบวนการสร้างสายสัมพันธ์เท่านั้น ใช่หลังจากหายตัวไปหลายชั่วโมงชายผู้นั้นละเมิดหลักการสร้างสายสัมพันธ์ แต่ไม่ได้ละเมิดหลักการของระยะทาง งานของคุณคือการเป็นศูนย์กลางของความสนใจสำหรับผู้ชายที่มีค่าควรและไม่ใช่ศูนย์กลางของการปฏิเสธคนขี้เมาที่โกหก

และอีกครั้งเกี่ยวกับแมว:

ฉันสามารถเป็น "นกของเขา", "ละมั่งหนีเสือ", "ความงามที่หลับใหล" - เมื่อแมวยืนอยู่กับฉันในตอนเช้าง่วงนอนและเรียกร้องการตื่นของฉันด้วยการจูบที่อ่อนโยน "แม่มดโลภ" ผู้ซึ่ง แจกขนมแมว-กุ้ง-อย่างเคร่งครัด เช้า บ่าย เย็น ฉันไม่เคยเบื่อกับแมวของฉัน เพราะฉันมักจะแตกต่างกับมันเสมอ ฉันคิดว่านั่นเป็นเหตุผลที่เขาตอบฉันด้วยพฤติกรรมที่หลากหลายของเขา สำหรับฉัน เขาเกือบจะเป็นผู้ชายแล้ว และฉันก็รู้สึกขอบคุณเขามากสำหรับเรื่องนั้น!

บางทีอาจมีคนเรียกความสัมพันธ์ของเราว่า "cat-centrism" แต่ทั้งแมวและฉัน - เราทั้งคู่มีความสุขและชนะ! ดังนั้นฉันจึงพูดเสมอในกรณีเช่นนี้: อย่าอิจฉา!

เรียนรู้ที่จะทำให้ผู้ชายคนหนึ่งมีข้อเสนอที่เขาไม่สามารถปฏิเสธได้! แล้วคุณจะแข็งแกร่ง ทรงอิทธิพล น่าสนใจ แต่สำหรับสิ่งนี้ คุณต้องแยกตัวออกจากตัวเอง: ง่วง เกียจคร้าน ช้า และเรียนรู้ที่จะบรรลุสภาวะที่ประเสริฐ หายาก ประณีต และสวยงามยิ่งขึ้น และมอบให้กับผู้ชายของคุณ

อย่าลืมรักษาระยะห่าง! นี่คือวิธีสร้างความเป็นผู้หญิง

Maria Fleureau ของคุณ

(ชุดภาพถ่ายยอดเยี่ยมนี้มีชื่อว่า "Little Girl and Cat Tom" เด็กหญิง Katerina เป็นลูกสาวของช่างภาพชาวรัสเซีย Andrey Prokhorov บนอินเทอร์เน็ต เขาเป็นที่รู้จักกันดีในนามแฝง Andy Prokh)

ทำไมชายหนุ่มถึงรักษาระยะห่างของเขา? อะไรทำให้เขากลัวด้วยตราประทับในหนังสือเดินทาง? ทำไมเขาไม่รีบร้อนที่จะแต่งงาน?

คุ้นๆ ไหม กับสถานการณ์ที่คนหนุ่มสาวรู้จักกันมานาน เจอกันเป็นประจำ รู้สึกดี อยู่ด้วยกัน ถึงกับพูดถึงเรื่องแต่งงาน แต่ไม่รีบร้อนไปสำนักทะเบียน?

ผู้ชายมักจะรักษาระยะห่างในความสัมพันธ์ แม้ว่าพวกเขาจะถือว่าความสัมพันธ์นั้นจริงจังและไม่อยากเสียคนรักไป ความสนิทสนมที่เกิดขึ้นหลังการแต่งงานและผู้หญิงต้องการอย่างมากตามความเห็นของผู้ชายคนหนึ่ง อาจทำให้เขาอ่อนแอได้ และเขาพยายามทุกวิถีทางเพื่อป้องกันการพัฒนาความสัมพันธ์ต่อไปเพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งนี้

มีสาเหตุหลายประการที่ทำให้ผู้ชายไม่รีบร้อนที่จะแต่งงานนี่เป็นความเชื่อมั่นภายในว่ายังเร็วเกินไปสำหรับเขาที่จะเริ่มต้นครอบครัว และเพื่อน ๆ แนะนำให้เขาไม่รีบเร่ง - ไม่มีอะไรดีที่นั่นและพ่อแม่ของเขาไม่เห็นด้วยกับการเลือกของเขา หากผู้ชายแต่งงานแล้ว ประสบการณ์ที่น่าเศร้าทำให้เขาไม่สามารถไว้ใจเจ้าสาวคนใหม่ได้ จนกว่าเขาจะมั่นใจเต็มที่ว่าเธอไม่เหมือนภรรยาเก่าของเขา

เหตุผลที่เป็นความลับและชัดเจนที่ทำให้ผู้ชายไม่สามารถเริ่มต้นชีวิตครอบครัวนั้นเกิดจากความกลัวที่แท้จริงของเขา และมีในหมู่พวกเขาหลักที่ยากที่สุดที่จะเอาชนะ

กลัวเสียอิสรภาพ

ทันทีที่การสนทนากลายเป็นหัวข้อของครอบครัวและการแต่งงาน ผู้ชายเริ่มรู้สึกเหมือนสัตว์เดรัจฉานที่ถูกผลักเข้าไปในกรงและต้องการกีดกันเสรีภาพส่วนตัวของเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าความรู้สึกดังกล่าวมาจากวัยเด็กเมื่อด้วยเหตุผลบางอย่างครอบครัวของพ่อแม่สามารถควบคุมงานอดิเรกของหัวหน้าครอบครัวได้อย่างเต็มที่

หากภรรยาในอนาคตกำลังยุ่งอยู่กับการโทรหาเขาทางโทรศัพท์และค้นหาว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนและกำลังทำอะไรอยู่ สิ่งนี้จะยิ่งตอกย้ำความกลัวของเขาเท่านั้น ใช่ ปล่อยให้เขาพบเพื่อน ไปฟุตบอล หรือดื่มเบียร์ - นี่เป็นสิทธิ์ของเขา! เสรีภาพส่วนบุคคลรวมถึงพื้นที่ส่วนตัวเป็นองค์ประกอบสำคัญของการแต่งงานที่ประสบความสำเร็จ คุณยังมีธุระและความสนใจของตัวเอง มีแฟนสาวที่ต้องการอุทิศเวลา และที่สำคัญที่สุด - มีโอกาสที่ยอดเยี่ยมในการดูแลรูปร่างหน้าตาของคุณ เยี่ยมชมร้านทำผมและร้านเสริมสวย ให้ดูดีที่สุดและทำให้เขาประหลาดใจด้วยความงามที่แปลกประหลาดของคุณเมื่อเขาโทรหาคุณอีกครั้งเพื่อเสนอให้พบ

คุณต้องแสดงให้เขาเห็นในทุก ๆ ทางที่เป็นไปได้ว่าคุณเชื่อใจเขาอย่างเต็มที่และไม่มีความคิดเช่นนั้นเพื่อควบคุมเขาและตรวจสอบว่าเขาอยู่ที่ไหนและใช้เวลาอย่างไร จากนั้นเขาจะทำให้แน่ใจว่าคุณเป็นคนเดียวที่เขาต้องการสนิทด้วย และมันจะเป็นความผิดพลาดที่จะไม่แต่งงานกับคุณ

กลัวความรับผิดชอบ

ผู้ชายมักจะเห็นภาพจำนวนพนักงานที่แต่งงานแล้วและคนรู้จักเท่านั้นที่กังวลเกี่ยวกับปัญหาการหาเงินให้กับครอบครัว พวกเขาต้องทำงานตั้งแต่เช้าจรดเย็นและหลายงานเพื่อเลี้ยงดูภรรยาและลูกๆ โดยเฉพาะถ้าลูกยังเล็กและภรรยาไม่ได้ทำงาน จากนั้นเขาก็มีความปรารถนาที่จะหลีกเลี่ยงชะตากรรมดังกล่าวโดยไม่ได้ตั้งใจ ทำไมต้องรับผิดชอบในการแก้ปัญหาทางการเงินของครอบครัว ในเมื่อคุณสามารถพบปะและสนุกสนานต่อไปได้?

ภูมิปัญญาของผู้หญิงเท่านั้นที่จะช่วยเกลี้ยกล่อมผู้สนับสนุนมุมมองดังกล่าวให้แต่งงานคุณจะต้องแสดงให้เขาเห็นว่าคุณสามารถจัดการครัวเรือนได้อย่างประหยัดและรอบคอบ เห็นว่าของขวัญราคาแพงนั้นเกินความจำเป็น และคุณจะไม่เป็นภาระสำหรับเขาอย่างแน่นอน เพราะคุณสามารถหาเงินได้ด้วยตัวเอง สิ่งสำคัญที่สุดคืออย่าลืมปรึกษากับเขาเมื่อวางแผนการใช้จ่ายเงินจำนวนมาก

กลัวการเปลี่ยนแปลง

การเปลี่ยนแปลงใดๆ ในชีวิตคือการก้าวออกจากเขตสบายของคุณ คนรู้ว่าทุกอย่างอยู่ที่นี่และตอนนี้ทุกอย่างเหมาะกับเขา เขากลัวการเปลี่ยนแปลง เพราะเขาไม่แน่ใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้และไม่รู้ว่าสิ่งนี้จะนำไปสู่อะไร

ดังนั้นจึงปลอดภัยกว่าที่จะไม่ทำอะไรเลย คนรักของคุณสบายใจกับคุณ - ผู้หญิงที่คุณรักอยู่ใกล้ ๆ และทุกสิ่งที่วิญญาณของเขาปรารถนา และบ่อยครั้งที่ผู้ชายไม่ได้เกิดขึ้นด้วยซ้ำว่าความสัมพันธ์ของคุณพร้อมสำหรับการแต่งงานมานานแล้ว คุณจะต้องทำงานอธิบายและช่วยให้ชายหนุ่มเข้าใจว่าการกระชับความสัมพันธ์ของคุณเป็นเรื่องดีเพราะสถานการณ์ปัจจุบันไม่เหมาะกับคุณมากนัก

และแม้ว่าในตอนแรกตำแหน่งของคุณอาจทำให้คนที่คุณเลือกประหลาดใจ ด้วยความอุตสาหะ คุณสามารถโน้มน้าวให้เขาแต่งงานที่สำนักงานทะเบียนได้

จะช่วยชายคนหนึ่งจากการรับรู้เชิงลบของการแต่งงานที่มีข้อกำหนดที่เด็ดขาดจะไม่ทำงาน สิ่งนี้สามารถทำได้ด้วยความช่วยเหลือจากสติปัญญาและความอดทนของผู้หญิง และหลังจากค้นพบเหตุผลที่แท้จริงที่ขัดขวางไม่ให้คนที่คุณรักยื่นข้อเสนอให้คุณแล้ว ให้หาวิธีกำจัดมัน และคุณจะมีความสุขอย่างแท้จริงเมื่อเขายื่นมือและหัวใจให้คุณ

ฉันอายุ 29 เขาอายุมากกว่า 50 ปี ฉันอาศัยอยู่ในหมู่บ้าน เขาอยู่ในหมู่บ้าน เขามักจะไปเยี่ยมแม่ของเขาในหมู่บ้านใกล้เคียง เราทั้งคู่เป็นนักล่า บางครั้งฉันพบเขาเมื่อเขาไปทำธุระหรือในป่า เมื่อฉันผ่านเขาไปตามถนน เขาจึงกะพริบไฟหน้าเป็นการทักทาย ดีมากสำหรับฉัน ฉันยิ้มให้เขาไม่เหมือนใคร ก่อนที่ฉันจะพบเขาเป็นการส่วนตัว ฉันมักจะเพิกเฉยต่อเขา ผู้ชายกับผู้ชายอะไรสักอย่าง .. ตัวเขาเองเป็นความลับปิดคนแปลกหน้าไม่ช่างพูด เมื่อเพื่อนบ้านของฉันขี่จักรยาน เขาก็หยุดและพวกเขาก็คุยกัน เขาวิ่งหนีจากฉัน เขาตัดสินใจว่าจะจบการสนทนาเมื่อใด บทสนทนาสั้นและตรงประเด็น แต่ฉันอยากคุย ถามเขา อย่างน้อยก็เกี่ยวกับการล่า ยังมีความคิดมากมายในหัวของฉัน แต่เขาหันหลังแล้วจากไป ความรู้สึกไม่พอใจ ทุกคนที่มีส่วนร่วมในการล่าสัตว์ไม่มากก็น้อยถามฉันว่าฉันเป็นอย่างไรฉันเป็นอย่างไร คนนี้ไม่เคยขออะไร ฉันสามารถยืนคุยกับเพื่อนบ้านส่วนใหญ่ได้ครึ่งชั่วโมงหรือหนึ่งชั่วโมง แต่คนนี้ถามในห้านาทีว่าอะไรจำเป็นและวิ่งหนีไป ใบไม้เหมือนถูกเฆี่ยน ฉันแข็งแรง ฉันตัวเล็ก เขาอยู่บนไหล่ สถานการณ์ค่อนข้างตลกถ้าไม่ใช่สำหรับระยะทางที่ชัดเจนที่เขาเก็บไว้
ฉันต้องการขายอะไรบางอย่าง เราตัดสินใจกับเพื่อนบ้านผ่านนักล่าคนนี้ เพื่อนบ้านพบเขาขอคุยกับฉันเกี่ยวกับคดีนี้ เขาพูดว่า- ฉันกลัวเธอ. สักพักเราก็ขับรถขึ้นไปทำงานของเขา เขาออกมาพบทุกอย่าง แล้วเพื่อนบ้านก็โพล่ง - กลัวไหม !! นักล่าของฉันอายแน่นอน แต่ดึงตัวเองเข้าด้วยกัน
ถ้าคุณขออะไรซักอย่าง จะทำได้ทุกอย่าง
ฉันวิเคราะห์พฤติกรรมของเขา - กับคนอื่น ๆ ผู้ชายที่เขารู้จักมาเป็นเวลานานเขาเป็นมิตรสามารถสื่อสารได้นานแค่อยู่บนถนนหยุดรถ และดูเหมือนว่าหญิงสาวจะกลัว ... ไม่มีอารมณ์บนใบหน้าของเธอ แต่เธอพยายามจากไปเร็วขึ้น

ฉันเจอเขาแบบนั้นเป็นการส่วนตัว - ฉันมาถึงที่นอกหมู่บ้านของเขา ฉันนั่งรถ ฉันเตรียมเหยื่อล่อสัตว์ เขาขึ้นมา (ตามล่าที่ไหนสักแห่งในบริเวณใกล้เคียง) ฉันทักทายถาม - คุณกำลังคิดอะไรอยู่ ฉันกำลังเตรียมเหยื่อ ฉันจะตั้งกับดัก เขาและสุนัขของฉันถูกจับได้ถ้า? ฉัน - มาเจรจากันเถอะ คุณจะไปที่ไหน? เขา- ฉันไปทุกที่ หันไปรอบ ๆ และซ้าย ในวันเดียวกันนั้นเอง ฉันบอกเพื่อนบ้านคนหนึ่งที่พบฉันระหว่างทางว่าเขา "วิ่งมา" ฉัน เขาพูด - เขาไม่ชอบที่คุณกำลังวางกับดักที่นี่ เขาเคยล่าที่นี่คนเดียว และตอนนี้คุณก็มาด้วย แต่ไม่เป็นไร.
จากนั้น ในฤดูหนาว เธอทำถุงมือหายที่นั่น ฉันรู้ว่าไม่มีใครไปที่นั่นยกเว้นเรา และฉันจะสามารถรับเธอได้ภายในหนึ่งสัปดาห์เมื่อฉันมีเวลา ฉันมาถึงในหนึ่งสัปดาห์และถุงมือของฉันติดไม้พิงพิงต้นไม้ เหล่านั้น. เขาพบมันแล้วติดมันไว้บนกิ่งไม้ วางไว้บนต้นไม้เพื่อให้มองเห็นได้ และเขาสามารถโยนมันลงในแม่น้ำที่ไหลจากที่นี่ 10 เมตรโดยไม่เป็นอันตรายหรือไม่พอใจ
ไม่นานมานี้มันมาที่หมู่บ้านของเราเพื่อตามหาสุนัขของเขา (มันมักจะวิ่งมาหาเรา) ฉันเอาหมาไป ฉันพูดว่า ทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ ฉันจะโทรไปเมื่อเธอมา สิ่งที่คุณต้องห้อยอีกครั้ง เขายังคงนิ่ง การสนทนาย้ายไปที่หัวข้ออื่น ฉันกำลังบอกคุณ ฉันอยากจะบอกคุณว่าฉันวางกับดักไว้ที่นั่นและที่นั่น ระวังสุนัขด้วย เขากลัวสุนัขเล็กน้อย แต่ก็ดึงตัวเองเข้าหากัน แล้วฉันก็ถาม ตรงนี้ ตรงนี้ ฉันยังอยากอยู่ใกล้คุณมากกว่านี้ สามารถ? เขา-ฉันไม่ไปที่นั่น แม้ว่าในฤดูหนาวเขาปรากฏตัวที่นั่นซ้ำแล้วซ้ำเล่า แล้วเขาจะจากไป เขาออกเดินทางแล้ว เอ่อ ฝากเบอร์โทรไว้ด้วย? เขาสบายดี เขียนมันลงไป บงการ บอกจะวางกับดัก จะเขียนถึงเธอต้องเตือนคนดี
และเมื่อสองปีที่แล้ว ตอนที่เราไม่รู้จักกันและเขาไม่รู้ว่าฉันเป็นนักล่าแต่ฉันไม่มีรถ เขาเสนอให้ขี่ฉัน-เขาชะลอเวลาฉันเดินกลับบ้าน . ฉันโบกมือปฏิเสธ ไม่ช้าลงอีกต่อไป

อะไรคือสาเหตุของระยะทางนี้? โดยคำนึงถึงข้อเท็จจริงที่ว่าคนสองคนที่หลงใหลในงานอดิเรกของตนเห็นได้ชัดว่ามีเรื่องจะพูดถึง บุคคลไม่หลีกเลี่ยงฉัน แต่เขาก็รักษาระยะห่างอย่างเห็นได้ชัด แต่ทำไมเขาถึงกลัวฉันอย่างที่เพื่อนบ้านบอกฉันหลังจากคุยกับเขา? คนนี้เป็นคนเฮฮาเฮฮา กลัวสาวติดบ่า ...
และเขามองดูสุนัขของฉัน ลูกสาวของสุนัขของเขา ผลจากการมาเยี่ยมหมู่บ้านของเราเป็นเวลานานด้วยความสนใจ แม้จะมีความอ่อนโยนบ้าง ... และเมื่อเธอยังเด็กฉันมองดูเธอจากระยะไกล - เราไม่รู้จักกันเลยมาอยู่กับเขา