มังกรลินด์เกรนที่มีตาสีแดง บทเรียนการอ่านนอกหลักสูตรเกี่ยวกับผลงานของ Astrid Lindgren ฉันต้องการเขียนสำหรับผู้อ่านดังกล่าว
ภายใต้เชอร์รี่
แปลโดย N. Belyakova
ในตอนเย็นของฤดูร้อน แอนนั่งอยู่ใต้ต้นซากุระและมองดูนกนางแอ่นบิน เชอร์รี่ถูกปกคลุมไปด้วยดอกไม้สีขาวเหมือนหิมะ โอ้เธอช่างสวยงามเหลือเกิน! เธอจะยืนอยู่บนท้องฟ้าเพื่อให้นางฟ้าตัวน้อยสามารถแกว่งกิ่งก้านของเธอได้ บางทีเธออาจเคยยืนอยู่บนสวรรค์ แล้วพระเจ้าก็ย้ายเธอมาที่โลก เพื่อที่แอนจะได้นั่งอยู่ใต้เธอในตอนเย็นของฤดูร้อน ใครจะรู้! บางทีต้นไม้มหัศจรรย์นี้อาจมีมนต์ขลังและสามารถตอบสนองความต้องการทั้งหมดได้หรือไม่? และไม่มีใครรู้ แอนตัดสินใจลองใช้ทันที แต่การขอพรหลายๆ อย่างพร้อมกันไม่ใช่เรื่องดี เพราะไม่มีใครขออะไรจากต้นไม้ต้นนี้มานานแล้ว มันจึงสูญเสียนิสัยในการเติมเต็มความปรารถนา คุณไม่สามารถรับและปรารถนาได้ทันที ... ตัวอย่างเช่นม้าตัวเล็ก สามารถเป็นที่ต้องการได้ในภายหลังเมื่อคุ้นเคยกับการทำสิ่งที่คุณขอ แอนไม่อยากโลภและตัดสินใจขออะไรที่เบากว่านี้
“ตอนนี้ฉันต้องการใครสักคนที่เดินไปตามถนนเพื่อพูดคุยด้วย” เธอพูดเสียงดังขณะมองดูดอกซากุระสีขาว แอนรออยู่ และจำเป็น! เพียงห้านาทีต่อมา ป้าของฉันก็ปรากฏตัวขึ้นที่ถนน แอนไม่รู้จักเธอ เธออาจอาศัยอยู่ในหอพักใกล้ๆ
น้าหยุดและมองไปที่แอน โอ้ ช่างช่างงดงามเสียนี่กระไร สาวน้อยแสนสวย นัยน์ตาสีฟ้าชวนฝัน นั่งอยู่ใต้ต้นซากุระที่สวยงามตระการตา
แอนยิ้มให้เธออย่างเชิญชวน
- สวัสดีตอนเย็นเพื่อนของฉัน - ป้าพูด - คุณนั่งอยู่คนเดียวไหม
- ใช่ - แอนตอบ - คุณอยากนั่งกับฉันไหม
แอนรู้ดีว่าอย่าพูดว่า "เธอ" กับผู้ใหญ่ แต่ถ้าคุณไม่สามารถพูดว่า "คุณ" กับพวกเขาได้ คุณจะคุยกับพวกเขาได้อย่างไร และการไม่พูดอะไรกับผู้ใหญ่ก็น่าอาย และแอนก็พูดโดยไม่ลังเลว่า:
- คุณอยากนั่งกับฉันไหม
แน่นอน ป้าของฉันอยากเลี้ยงแอน เธอนั่งลงอย่างมีความสุขบนม้านั่งสีเขียวข้างแอน ลูบหัวสีบลอนด์ของเธอแล้วถามว่า:
คุณดูตัวเล็กและโดดเดี่ยว
“ใช่” เธอพูดพลางถอนหายใจ “ฉันเหงา
- แม่ของคุณอยู่ที่ไหน? ถามป้า
- แม่ของฉันเสียชีวิต
มีความเงียบ
“เด็กยากจน” ป้าพูดในที่สุด แอนชี้ไปที่บ้านหลังใหญ่สีขาวหลังสวน
- แม่อาศัยอยู่ที่นั่นตอนที่เธอยังมีชีวิตอยู่
- แค่นั้นแหละ - ป้าพูดอย่างเห็นใจ
“แต่เธอไม่ได้เกิดที่นั่น” แอนเล่าต่อ
- แล้วเธอเกิดที่ไหน?
- ไม่มีใครรู้ว่า. แม่ของฉันเป็นเด็กกำพร้า ในบ้านสีขาวหลังนี้มีเจ้านายและผู้หญิงคนหนึ่งอาศัยอยู่ พวกเขาเป็นปู่ย่าตายายของฉัน รู้ไหม? แล้วเช้าวันหนึ่งพวกเขาก็ออกไปที่สวนและพบแม่อยู่ใต้ต้นเชอร์รี่นี้
ดูเหมือนป้าจะไม่เชื่อเรื่องนี้จริงๆ
“ใช่ ใช่ มันเป็นเรื่องจริง” แอนยืนยันกับเธออย่างชัดเจน แม่นอนอยู่ใต้ต้นไม้ ห่มผ้าสกปรก ปู่ย่าตายายของฉันไม่มีลูกและดีใจที่ได้พบแม่ของฉัน
“ใช่ และนั่นจะไม่เกิดขึ้น” ป้าที่ไม่คุ้นเคยคิด
และพวกเขารู้ว่าใครเป็นคนวางมันไว้ที่นั่น? ถามป้า
- คุณคิดอย่างไร? พวกเขาค้นพบอย่างแน่นอน - แอนตอบ
- อย่างแท้จริง? และมันเป็นใคร?
- ยิปซี พวกเขาขับรถผ่านบ้านของเราในตอนกลางคืนและพาแม่ไปด้วย ไม่มีใครรู้ว่าทำไมพวกเขาถึงวางเธอไว้ใต้ต้นไม้ เมื่อแม่ของฉันอายุได้ 3 ขวบ วันหนึ่งเธอนั่งอยู่ใต้ต้นไม้บนม้านั่ง ตอนนี้เราเป็นอย่างไร และเดาว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ?
- ฉันจะรู้ได้อย่างไร!
- พวกเขามาอีกครั้งและพาแม่ของฉันไป เข้าใจไหม? พวกเขาคว้าและยัดเข้าไปในเกวียนของพวกเขาและรีบออกไปเพื่อให้เกิดประกายไฟจากใต้ล้อเท่านั้น โอ้คุณย่าร้องไห้อย่างไร!
- สำหรับฉัน ดูเหมือนว่าคุณจะนั่งและประดิษฐ์นิทานทุกประเภท
- ไม่เลย. เพราะนี่คือแม่ของฉัน และฉันรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเธอ
“แต่เธอดูไม่เหมือนพวกยิปซีเลย” ป้าพูด มองดูดวงตาสีฟ้าและผมสีทองของหญิงสาว
- ฉันดูเหมือนพ่อของฉัน
“แล้วเกิดอะไรขึ้นกับแม่ของคุณ”
- คุณแม่เรียนร้องเพลง เต้น และทำท่าต่างๆ ที่ใดที่พวกยิปซีมา เธอก็เต้น แล้วก็ไปรอบ ๆ ด้วยหมวกสีแดงและเก็บเงิน
- ว้าว! - ป้าพูด
- และในเวลานี้ปู่ย่าตายายกำลังมองหาแม่อยู่ทุกที่ - แอนพูด - เหนือสิ่งอื่นใดคือพวกยิปซี แต่พวกยิปซีทั้งหมดเหมือนกันและเป็นการยากที่จะหาเธอเจอ แต่เย็นวันหนึ่ง...
- และเกิดอะไรขึ้นในเย็นวันนั้น? - ด้วยความสนใจถามป้า
- วันหนึ่งพวกยิปซีกำลังขับรถไปตามถนนสายนี้อีกครั้ง และแม่ของฉันก็นั่งเกวียนคันเดียวกัน เธอลืมปู่ย่าตายายของเธอ และเมื่อเธอเห็นเชอร์รี่นี้ เธอพูดเสียงดัง: "ดูนี่ นี่คือเชอร์รี่ของฉัน"
ปู่และย่ากำลังนั่งอยู่บนม้านั่งนี้และได้ยินสิ่งนี้ พวกยิปซีตั้งค่ายอยู่ที่ทุ่งหญ้านั้น ตอนกลางคืนคุณปู่ของฉันแอบเข้าไปในนั้นและขโมยแม่ของฉันกลับคืนมา ผู้นำยิปซีตื่นขึ้นและยิงใส่คุณปู่ แต่ปู่ซ่อนแม่ของฉันไว้ใต้แจ็กเก็ต วิ่งกลับบ้านให้เร็วที่สุดและล็อคประตู
ป้าที่ไม่คุ้นเคยกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ในขณะนั้นเกวียนก็ปรากฏขึ้นบนถนน มีเกวียนมากมาย มันกลิ้งผ่านค่ายยิปซี แอนหน้าซีด เธอจับมือป้าแน่นแล้วตะโกน:
- ช่วยฉัน! พวกเขาต้องการขโมยฉัน! พวกเขาต้องการพรากฉันจากปู่ย่าตายาย เหมือนกับที่พวกเขาพรากแม่ฉันไป ช่วยฉัน!
ป้าของฉันก็กลัวเช่นกัน เธอคิดว่าแอนกำลังแต่งเรื่องอยู่ และตอนนี้เธอไม่รู้ว่าจะคิดอย่างไร
“ช่วยฉันด้วย” แอนกระซิบ
แต่ก่อนที่ป้าของเธอจะรู้ว่าต้องทำอะไร แอนรีบปีนต้นไม้และซ่อนตัวอยู่ในกิ่งก้านที่บานสะพรั่ง
เกวียนยิปซีหยุดใกล้ป้า ป้าเอามือกุมหัวใจไว้ ชัดเจนว่าประหม่ามาก ชายผิวคล้ำนั่งในเกวียนคันแรกโบกแส้เป็นคำทักทายถามว่า:
- พวกเราจะกางแคมป์ที่นั่นในทุ่งหญ้านั้นได้ไหม?
ทุ่งหญ้าไม่ได้เป็นของป้าคนนี้เลย แต่เธอกรีดร้องด้วยความตกใจ:
- ไม่ ไม่มีทาง! ออกไปจากที่นี่! คุณไม่สามารถหยุดที่นี่
ชาวยิปซีคำรามด้วยความโกรธผ่านฟันของเขา:
- เราหยุดที่ทุ่งหญ้านี้เสมอ! เราเป็นคนซื่อสัตย์ เราไม่ได้ขโมยอะไรเลย
“เราไม่ขโมยอะไรทั้งนั้น!” ป้าคิดในใจ “ขโมยแต่เด็ก”
- หนีไป! เธอกรีดร้อง
พวกยิปซีสาบานและเกวียนกลิ้งไป แอนรีบกระโดดลงจากต้นไม้
- ทำได้ดีมาก คุณทำได้ดี - เธอพูดพร้อมปรบมือให้ป้าของเธออย่างเห็นด้วย น้าโอบแขนโอบไหล่แอนราวกับปกป้องเธอ ไม่มีใครกล้าขโมยเด็กที่น่ารักคนนี้ เธอจะปกป้องเธอ
“อยากรู้มั้ยว่าเกิดอะไรขึ้นกับแม่ของฉัน” แอนถาม
“แน่นอนค่ะ” น้าของฉันตอบ
- คุณรู้ไหม แม่ของฉันชอบเชอร์รี่นี้มาก และคืนหนึ่ง หลังจากที่คุณปู่ขโมยมันกลับมาจากพวกยิปซี เธอปีนขึ้นไปบนนั้น ตอนนี้ฉันเป็นแบบนี้ เธอเพิ่งไปถึงจุดสูงสุด จากนั้นเธอก็ล้มลงนอนตายอยู่บนพื้นหญ้า สีขาวราวกับดอกซากุระ
“อ่า เด็กยากจน” ป้าอุทานด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย
แต่ทันใดนั้นใบหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยสีสัน และเธอก็ลุกขึ้นจากม้านั่งทันที แอนไม่ได้สังเกต
“บนท้องฟ้าแบบนี้มีเชอรี่มากมาย” แอนพูดอย่างเพ้อฝัน - และมีแม่กับเทวดาคนอื่น ๆ แกว่งไปมาบนกิ่งไม้
- หุบปาก! - ป้าไม่พอใจ “คุณไม่ละอายที่จะประดิษฐ์เรื่องไร้สาระเช่นนี้” อยากให้คนเชื่อว่าแม่คุณตายตั้งแต่ยังเป็นเด็ก! ลาก่อน เจ้าคนโกหกน้อย เธอพูดแล้วเดินจากไป
“แม่ของฉันตายไปตั้งแต่เธอยังเล็ก” แอนตะโกนไล่ตามเธออย่างโกรธเคือง
แต่เธอก็ลืมป้าที่ไม่คุ้นเคยไปในทันที เธอนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ที่ให้ความปรารถนา เมื่อมองดูดอกซากุระ แอนก็พูดเสียงดัง:
- ฉันต้องการม้าตัวน้อย!
เธอนั่งรอ แต่ม้าไม่ปรากฏขึ้น แต่ป้าอีกคนก็ปรากฏตัวขึ้นในสวนด้วยดวงตาเหมือนฝันและผมสีทองเหมือนของแอน
“เอาล่ะที่รัก ได้เวลานอนแล้ว” เธอกล่าว - คุณยายและคุณปู่กำลังโทรหาคุณเพื่อทานอาหารเย็น
- โอเคแม่ฉันไป - แอนพูดอย่างเชื่อฟัง
แต่เธอไม่จากไปทันที กลีบดอกไม้ร่วงหล่นบนศีรษะของเธอ แต่เธอไม่สังเกตเห็น แอนน้อยนั่งอยู่ใต้ต้นซากุระและมองดูนกนางแอ่นบิน
ที่สามารถทำปาฏิหาริย์ได้
และเด็ก ๆ ก็ทำการอัศจรรย์
ก. ลินด์เกรน.
ฟังดูเหมือนละครเพลง
ครู.วันนี้ คุณและฉันกำลังเดินทางไปเยี่ยมนักเขียนที่เรียกว่า "แม่มดจากสตอกโฮล์ม" หรือ "แม่มดจากสวีเดน" นี่คือ Astrid Lindgren (เสียชีวิต 28 มกราคม 2002) และเธอก็ถูกเรียกว่า "แอนเดอร์เซ็นในสมัยของเรา" ทำไมคุณถึงคิด?
ลินด์เกรนเป็นผู้เขียนหนังสือมากกว่า 35 เล่ม และได้รับรางวัลระดับประเทศและระดับนานาชาติของสวีเดนมากมาย ในหมู่พวกเขามีเหรียญที่ได้รับที่บ้านซึ่งมีชื่อของหนึ่งในวีรบุรุษที่มีชื่อเสียงที่สุดของวรรณกรรมเด็ก Niels Hogelson Nils คนเดียวกับที่บินไปทั่วสวีเดนพร้อมกับฝูงห่าน ลินด์เกรนยังมีเด็กชาวโปแลนด์มอบให้กับนักเขียนเด็กอันเป็นที่รักอีกด้วย รวมถึงเหรียญทองระดับนานาชาติ Andersen ซึ่งมอบให้แก่นักเขียนเด็กที่ดีที่สุด
สตอกโฮล์มเป็นเมืองหลวงของสวีเดน จะหามันบนแผนที่ได้อย่างไร? บนแผนที่โลก เกือบจะอยู่ที่ขั้วโลกเหนือ เราจะเห็นสุนัขขนดกตัวใหญ่ ทาสีน้ำตาลและเหลือง นี่คือคาบสมุทรสแกนดิเนเวีย ประกอบด้วยสองประเทศเหนือสุดในยุโรป - นอร์เวย์และสวีเดน สตอกโฮล์มตั้งอยู่บนชายฝั่งของช่องแคบและเกาะสิบสี่เกาะที่เชื่อมต่อกันด้วยสะพานสูง แม่มดของเราอยู่ที่นั่นนานกว่าห้าสิบปี และเธอเกิดทางตอนใต้ของสวีเดนในสมอลแลนด์ พวกจะพูดถึงมัน
เรื่องราวในวัยเด็กของนักเขียน
นักเรียนคนที่ 1เมื่อวันที่ 14 (29) 2450 ในหนังสือพิมพ์ของเมือง Vimmerby เล็ก ๆ ของสวีเดนภายใต้หัวข้อ "Born" ท่ามกลางประกาศอื่น ๆ ได้รับการตีพิมพ์: "ผู้เช่า Samuel August Erickson มีลูกสาว Astrid Anna Emilia"
Småland เป็นประเทศที่มีทะเลสาบและโขดหิน เป็นป่า ดุจป่า และสวยงาม มีโบสถ์เก่าแก่และซากปรักหักพังมากมายที่ปกคลุมไปด้วยหญ้า เทพนิยาย ตำนาน และตำนานอาศัยอยู่ในภูมิภาคนี้ ในตอนเย็นทางเหนือที่ไม่มีวันสิ้นสุด เด็กๆ เล่านิทานให้กันและกันฟัง เรื่องราวของแอสทริดเป็นเรื่องที่น่าสนใจและลึกลับที่สุด เด็กๆ ก็เล่นกันอย่างสนุกสนาน พวกเขาปีนขึ้นไปบนหลังคาของบ้าน ซ่อนตัวอยู่ในอก ในกองขี้เลื่อย กองหญ้า กระโดดจากกองกระดาน
นักเรียนคนที่ 2แต่ตั้งแต่อายุหกขวบพวกเขาคุ้นเคยกับการทำงาน: พวกเขาทำให้หัวผักกาดบาง ๆ ช่วยผู้ใหญ่เก็บเกี่ยวพืชผล เก็บตำแยสำหรับไก่ ขนน้ำไปยังเครื่องตัดหญ้าในทุ่ง
ในเวลาว่างจากการทำงานและการเล่น เด็ก ๆ อ่านหนังสือ Astrid ได้รู้จักกับนิทานของนักเขียนรายใหญ่ที่สุดของสแกนดิเนเวีย: นักเล่าเรื่องจากฟินแลนด์ Topemus เรื่องราวของ Selma Lagerlöf, Dane H.-H. Andersen ซึ่งเธอชอบมากที่สุด
ครู.จินตนาการในวัยเด็กของ Astrid พี่ชายและน้องสาวของเธอวาดชีวิตประจำวันของพวกเขาด้วยสีสันแห่งเทศกาลทำให้เธอมีความยอดเยี่ยม เช้าวันหนึ่งในเดือนเมษายน “ปาฏิหาริย์” เกิดขึ้น แอสทริดและกุนนาร์เข้าไปในโรงเลี้ยงหมูเพื่อดูลูกสุกรแรกเกิด ใกล้ๆ กับหมูตัวใหญ่ หมูตัวเล็กๆ หลายสิบตัวเบียดเสียดกันอยู่บนฟาง และทันใดนั้น เด็ก ๆ ก็ดูเหมือนตรงมุมที่พวกเขาเห็นมังกรเขียวเกิดใหม่ที่มีดวงตาชั่วร้ายเล็กน้อย แล้วจินตนาการของเด็กที่ดื้อรั้นก็ได้รับแล้ว
มันคืออะไร? กุนนาร์ถาม
เขาแปลกใจมากจนพูดไม่ออก
ดูเหมือนว่าจะเป็นมังกร - แอสทริดตอบ - หมูให้กำเนิดลูกหมูสิบตัวและมังกรหนึ่งตัว
และเกมใหม่ก็เริ่มต้นขึ้น ทุกวัน แอสทริดและกุนนาร์นำอาหารมาให้มังกรในตะกร้า ไม่ว่าจะเป็นปลายเทียน หนัง จุกไม้ก๊อก และสิ่งอื่น ๆ ที่พวกเขาคิดว่ามังกรชอบ เกมดำเนินไปจนกระทั่งเด็กๆ เหนื่อย แล้วมังกรก็ "หายไป" อย่างไรก็ตาม การจากไปกับเขาเป็นเรื่องที่น่าเศร้า
ฟังดูเหมือนเพลงเศร้า
เย็นวันนั้น หมูกับลูกสุกรถูกปล่อยเข้าไปในทุ่งหญ้า กุนนาร์และแอสทริดดูแลพวกเขา อากาศหนาว เด็กก็หนาว พวกเขากำลังกระโดดเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น และทันใดนั้น มังกรก็เข้ามาใกล้แอสทริด เขาวางอุ้งเท้าเย็นบนแก้มของหญิงสาว ดวงตาสีแดงของเขาเต็มไปด้วยน้ำตา และทันใดนั้น - เหมือนปาฏิหาริย์ - เขาบิน มังกรค่อยๆ กลายเป็นจุดสีดำเล็กๆ ปะทะกับดวงอาทิตย์สีแดงที่ลุกเป็นไฟ และพวกเด็กๆ ได้ยินว่าเขากำลังร้องเพลงอยู่ ร้องเพลงด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา
ฉันหัวเราะจนค่ำ
แต่ลองสัมผัสฉันสิ
ฉันไม่กลัวใคร!
สองผมเปียและกระ
ใช่บวกกับถุงน่องที่แตกต่างกัน
ฉันชื่ออะไรนะรู้ยัง
โดยไม่ต้องแจ้งคุณทันที
(พวกเขาจำ Pippi ได้)
ใช่พวกคุณเดาว่าฉันเป็นใคร ตอนนี้ฉันจะบอกคุณว่าฉันเข้ามาในโลกนี้ได้อย่างไร คาริน ลูกสาวตัวน้อยของแอสทริด ซึ่งอายุได้เจ็ดขวบป่วยมาหลายเดือนแล้ว และทุกเย็นจะขอให้แม่บอกอะไรบางอย่างกับเธอ วันหนึ่ง แอสทริดถามเธอว่า "คุณต้องการบอกอะไรฉันอีก" “บอกฉันเกี่ยวกับ Pippi Longstocking” ลูกสาวตอบ เธอคิดชื่อนี้ขึ้นมาในขณะนั้น และเนื่องจากเป็นเรื่องไม่ปกติ แอสทริดจึงคิดชื่อผู้หญิงที่ไม่ธรรมดาให้เข้ากับชื่อ ผมสีแดงสด ร่าเริง ผมเปียตั้งตรง
และตอนนี้ฉันจะทำแบบทดสอบให้คุณและตัดสินใจว่าใครในพวกคุณที่รู้จักหนังสือเกี่ยวกับ Pippi ดีที่สุด รางวัลรอเขาอยู่
แบบทดสอบ
Pippi มีพ่อแม่หรือไม่และอยู่ที่ไหน?
Pippi นอนหลับได้อย่างไร?
ถุงน่องของเธอสีอะไร?
Pippi ทำอะไรในคณะละครสัตว์?
หญิงสาวทำสำเร็จอะไร?
Peppy ทำอะไรกับยาที่เธอซื้อ?
Pippi เขียนจดหมายถึงใครและใครเป็นคนรับ
ครู. พวกสิ่งที่ดึงดูดเราให้ Peppy?
(ปิ๊บปี้กล้าหาญและมีจินตนาการอันน่าทึ่ง เธอมีพละกำลังมหาศาล สามารถยกนักแสดงละครสัตว์ กระจายตำรวจและโจรไปในทิศทางที่ต่างกัน เธอมักจะปกป้องผู้อ่อนแอและต่อสู้เพื่อความยุติธรรม)
คาร์ลสันบินรอบโลก
ใครร้องเพลงนี้
เผาด้วยไฟ
และเราจะร้องเพลงกับคุณ:
อูตี้, บอส, บัส, เบส,
บีส ไปพักผ่อนกันเถอะ
ให้ถือซาลาเปาพันก้อน
สำหรับวันเกิดของเรา
และเราจะจัดที่นี่
อูตี้, บอส, บัสส์, กาปุต,
Bisse และเดินเตร่
แน่นอนว่านี่คือคาร์ลสัน ผู้ชายร่าเริงกับใบพัด บนหลังคาหลังปล่องไฟ มีบ้านหลังเล็กๆ ที่มีบานประตูหน้าต่างสีเขียว ระเบียงและป้ายว่า “คาร์ลสันอาศัยอยู่บนหลังคา คาร์ลสันที่ดีที่สุดในโลก
ลินด์เกรนบอกด้วยวิธีที่น่าสนใจอย่างยิ่งว่าคาร์ลสัน "บิน" ไปหาเธอในตอนแรกได้อย่างไร
นักเรียน.“ฉันเห็นเขา หรือมากกว่านั้น ในตอนแรกฉันได้ยินในคืนหนึ่งที่ฉันนอนไม่หลับ ฉันนอนไม่หลับอาจเป็นเพราะบางสิ่งบางอย่างส่งเสียงพึมพำอยู่นอกหน้าต่างเป็นเวลานาน แล้วเขาก็บินเข้าไปในห้อง นั่งบนเตียงถามว่าจะหาเด็กคนนั้นได้ที่ไหน ฉันขยี้ตา - ไม่ นี่ไม่ใช่ความฝัน: บนเตียงของฉันในอพาร์ทเมนต์ในสตอกโฮล์มมีชายร่างอ้วนตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งนั่งบนหลังของเขาและมีปุ่มบนท้องของเขา “คุณเป็นใคร” ฉันถาม “คุณบินมาหาฉันทำไม” “ผมคือคาร์ลสันที่ดีที่สุดในโลกที่อาศัยอยู่บนหลังคา” เขาตอบ “และผมก็บินไปหาคุณเพราะคุณเขียนหนังสือที่น่าสนใจเกี่ยวกับ Pippi Longstocking”
จึงมีหนังสือเกี่ยวกับคาร์ลสัน ใครไม่รู้ถึงความตลกขบขันของชายร่างเล็กคนนี้! ผู้ชายคนนี้อยู่ในช่วงวัยทองของเขา! จำเทคนิคของเขา ในการพบกันครั้งแรกเขา ... อย่างไรก็ตาม ในการประชุมครั้งแรกเขาทำอะไร? (ระเบิดเครื่องจักรไอน้ำ.)
(อ่านฉากที่ 1 ตามบทบาท)
คาร์ลสันมาจริงๆ จำสิ่งที่มาลิชและคาร์ลสันทำไว้
พวกเขาแบ่งปันขนมอย่างไร? (จัดฉาก.)
ในส่วนที่สอง - "คาร์ลสันที่อยู่บนหลังคาบินอีกครั้ง" - นางเอกคนใหม่ปรากฏขึ้น - แม่บ้านนางสาวบ๊ก (อ่านข้อความที่ตัดตอนมา) แม่ไปหาย่าของเธอ ไม่มีใครอยู่บ้าน ยกเว้นคุณบ็อคกับมาลิช ปัญหาเริ่มต้นทันที เมื่อเด็กกลับมาจากโรงเรียน ในครัวไม่มีทั้งแม่และโกโก้ที่มีขนมปังอยู่ในครัว ตอนนี้คุณบกขึ้นครองราชย์ที่นั่น และไม่อาจพูดได้ว่าการปรากฏตัวของเด็กทำให้เธอมีความสุข (อ่านข้อความที่ตัดตอนมา) เด็กเดินไปที่หน้าต่างและมองออกไปที่ถนน เขายืนขึ้นและคิดว่าตัวเองไม่มีความสุขและเศร้าแค่ไหนเมื่อไม่มีแม่
ใครสามารถช่วยเขาได้ในเวลานี้? แน่นอน คาร์ลสัน
(ดูข้อความที่ตัดตอนมาจากการ์ตูนเกี่ยวกับคาร์ลสันหรือการแสดงละครแต่ละตอนของเรื่อง)
พวกคุณชอบคาร์ลสันไหม? ทำไม ท้ายที่สุดเขาเล่นแผลง ๆ นำเด็กที่ถูกลงโทษด้วยอุบายของเพื่อนของเขาเป็นคนโลภกินทุกอย่างที่หวาน
น่าจะเป็นคาร์ลสันดูเหมือนพวกที่อ่านเกี่ยวกับเขา พวกเขารักชายร่างเล็กคนนี้เพราะความร่าเริง กล้าหาญ นิสัยดี สิ่งประดิษฐ์ที่ไม่ระมัดระวัง พวกเขาให้อภัยจุดอ่อนในวัยเด็กที่ตลกด้วยรอยยิ้ม เมื่อพูดถึงเรื่องจริงจัง คาร์ลสันจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง
ถ้าคุณจำได้ Carlson เห็นด้วยกับ Kid เกี่ยวกับระบบลับของสัญญาณที่จะถูกส่งโดยใช้การโทร
หนึ่งสายคือ "บินทันที!" สองสาย - "อย่าบินด้วยวิธีการใด ๆ !" และการโทรสามครั้งหมายความว่า: "ช่างเป็นพรที่มีชายร่างเล็กที่หล่อเหลา ฉลาด กินอาหารดีพอประมาณและกล้าหาญ โลกอย่างคุณ คาร์ลสันที่ดีที่สุดในโลก!”
ทำไมฉันต้องเรียกสิ่งนี้ - เด็กประหลาดใจ
จากนั้นเพื่อน ๆ จะต้องพูดสิ่งที่ถูกใจและให้กำลังใจทุกๆ ห้านาที
ครู.ช่างเป็นพรที่ Astrid Lindgren เขียนเทพนิยายของเธอ พวกเขาส่งถึงทุกคนที่มีจิตใจดีและมีอารมณ์ร่าเริง ซึ่งสามารถหัวเราะเยาะเรื่องตลกและร้องไห้ให้กับเรื่องเศร้า กับพวกคุณทุกคน และถึงผู้ใหญ่ทุกคนที่ยังไม่ลืมว่าพวกเขาเคยเป็นเด็กมาก่อน มากดกริ่งกัน และบางทีคาร์ลสันจะบินเข้าไป มิฉะนั้น Peppy จะแวะมา และมันจะกลายเป็นเรื่องที่น่าสนใจและสนุกสนานมากขึ้นในการมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ เสียงระฆังดังขึ้นในเทพนิยายของลินด์เกรนทั้งหมด มันทำให้เรานึกถึงสิ่งที่ดูเหมือนเรียบง่าย เช่น ความเมตตา ความยุติธรรม ความเสียสละ ในปี 1998 พิพิธภัณฑ์ประเภท "Junibakken" - "June Hill" ถูกสร้างขึ้นในสตอกโฮล์ม นี่คือลินด์เกรนแลนด์ประเภทหนึ่ง ซึ่งคุณสามารถเห็นตัวละครเกือบทั้งหมดในหนังสือของนักเขียน และดาวเคราะห์ดวงเล็กอีกดวงได้รับการตั้งชื่อตาม Astrid Lindgren เมื่อผู้เขียนรู้เรื่องนี้ เธอกล่าวว่า “ในที่สุด ฉันจะบิน! ฉันฝันถึงสิ่งนี้มาทั้งชีวิต!”
ถึงผู้อ่าน.
สวัสดีที่รัก!
คุณรู้ไหมว่าบางครั้งคุณต้องการให้เทพนิยายอยู่ใกล้ ๆ อีกครั้งเพราะมันเกิดขึ้นเฉพาะในวัยเด็กเมื่อคุณรู้ว่าชายป่าชราอาศัยอยู่ใต้ต้นไม้ใดและในเสียงนกเค้าแมวคุณเดาเคล็ดลับของคุณปู่ . และบางครั้งคุณต้องการเป็นแม่มดด้วยตัวเองหรืออย่างน้อยก็เป็นคุณย่า - เม่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณเป็นแม่!
คุณเห็นไหมว่าคงจะวิเศษมาก เธอสั่งให้ล้างจาน เสื้อผ้า - ซัก, รีด, ย่อยสลายบนชั้นวาง; แยกถุงเท้าออกเป็นคู่ ๆ แล้วเธอก็บินไปทำงาน (ด้วยไม้กวาดแน่นอน) อย่างรวดเร็วและไม่มีรถติด
แน่นอนว่าความฝันมีประโยชน์มากซึ่งเป็นสาเหตุที่ Tales ของ Yanina ถือกำเนิดขึ้นซึ่งมีตัวละครในเทพนิยายอยู่ แต่ตัวละครหลักคือแม่ธรรมดา ดีหรือผิดปกตินิดหน่อย
Masha ต้องการป่วยอย่างไร แต่ตัวเธอเองจบลงด้วยการเป็นคนงานให้ Baba Yaga
กาลครั้งหนึ่งมีพ่อ Vasily และแม่ Yana และพวกเขามีลูก: ลูกสาวคนโต - มาเรียและลูกชายคนสุดท้อง - อีวาน
พวกเขาไม่เสียใจ: พ่อไปทำงานทุกวันแม่พา Masha ไปโรงเรียนและ Vanyushka ถูกพาไปโรงเรียนอนุบาล - ทุกอย่างดำเนินไปตามปกติ
เย็นวันหนึ่ง เมื่อลูกๆ กำลังจะเข้านอน คุณแม่ดึงผ้าม่านที่หน้าต่างด้วยคอร์นฟลาวเวอร์ และเริ่มเลือกนิทานอ่านให้พวกเขาฟังก่อนเข้านอน
ทันใดนั้น Vanya ก็คร่ำครวญ:
- แม่! คอของฉันเจ็บมันเจ็บที่จะกลืน
“เปิดปากของคุณแล้วพูดว่า “A” แม่ถามแล้วเธอก็มองเข้าไปในปากของเขา
- แดง - แม่อารมณ์เสีย - ไม่มีอะไร: เราจะปฏิบัติต่อ
- พรุ่งนี้ฉันไม่ไปสวนหรือ อีวานถามและหยุดสะอื้นทันที
- ใช่! เป็นเช่นนั้นเสมอมา! อีกครั้ง Vanka จะอยู่บ้านกับแม่ของเขาและฉัน - ไปโรงเรียน, ไปโรงเรียน, เรียน, เรียน, ทำการบ้าน, ทำมัน - ไม่ใช่ชีวิต แต่เป็นทาสบางประเภท ถ้าฉันป่วยได้ ฉันจะอยู่บ้าน กินแยมราสเบอร์รี่ ดูการ์ตูน แล้วแม่ก็อยู่ใกล้ๆ! แมรี่อิจฉา
แม่มองมาช่าด้วยดวงตาสีเขียว
อันที่จริง ดวงตาของแม่ของยานะเป็นสีชา โดยมีสีเขียวเล็กน้อย แต่เมื่อแม่ของฉันโกรธ ดวงตาของเธอเปลี่ยนเป็นสีเขียว เขียวมาก - Masha และ Vanya และแม้แต่ Papa Vasya ก็รู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี
แม่ของฉันมองด้วยดวงตาสีเขียวของเธอและพูดว่า:
- คุณมาเรียอย่าอิจฉาพี่ชายของคุณและอย่าเรียกโรคนี้ แต่จะไม่มีใครไปโรงเรียนและโรงเรียนอนุบาลในวันพรุ่งนี้ - พรุ่งนี้เป็นวันเสาร์
แม่ให้วันยาดื่มนมอุ่น ๆ กับน้ำผึ้งห่อคอด้วยผ้าพันคออุ่น ๆ นั่งลงข้างเตียงและเริ่มอ่านหนังสือ - เทพนิยาย "ห่านหงส์"
เด็กๆ ฟังนิทาน แล้วตาก็ติดกัน เสียงแม่ เหมือนผ้าห่มหนาๆ ห่มผ้า ให้ความอบอุ่น
ดูเหมือนว่าตอนนี้ Masha จะอยู่บนเตียงของเธอ ผ้าม่านที่มีคอร์นฟลาวเวอร์กำลังสั่นไหวต่อหน้าต่อตาเธอ และเธอกำลังยืนอยู่ในที่โล่งกลางป่า และหญ้ารอบๆ ก็กระวนกระวาย แมลงก็ส่งเสียงหึ่งๆ ในมือของมาเรียตะกร้าว่างเปล่าและในทุ่งโล่งรอบ ๆ มีสตรอเบอร์รี่อย่างเห็นได้ชัด - ไม่เช่นนั้น Masha มาที่ป่าเพื่อสตรอเบอร์รี่ หญิงสาวมองไปรอบๆ แล้วคิดว่า: “ตอนนี้ฉันจะเก็บสตรอเบอร์รี่ ฉันจะพากลับบ้าน แม่จะต้องดีใจแน่!”
มาช่าเริ่มเก็บสตรอว์เบอร์รีและสตรอว์เบอร์รี่ก็สีแดง ใหญ่ หอม Masha หนึ่งในปากของเธอ - หนึ่งในตะกร้า สองในปากของเธอ - หนึ่งในตะกร้า ... เธอถูกพาตัวไปจนทำตะกร้าหาย แต่ฉันกินผลเบอร์รี่ที่หอมหวานจนอิ่ม มากเกินไป - ฉันปวดท้อง!
Masha ลุกขึ้นมองไปรอบ ๆ - เธอไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน เธอยืนครู่หนึ่งนั่งลงบนตอไม้ - เขาเพิ่งจะอยู่ใกล้ - และจากที่ไม่มีอะไรทำเธอร้องไห้ น้ำตาไหลอาบแก้ม:
- แย่ฉันไม่มีความสุข! และฉันเสียตะกร้า -a-ala และท้องของฉันเจ็บและมันและไม่มีใครสงสารฉัน!
ทันใดนั้น Masha ได้ยิน:
- นี่คือใครในสตรอเบอรี่ของฉันที่หอนเหมือนหมาป่าร้องไห้ออกมา? - เสียงเหมือนคุ้นเคยแต่จำไม่ได้ว่าใคร
เธอเงยหน้าขึ้นและในดวงตาของเธอทุกอย่างก็เต็มไปด้วยน้ำตา ผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่หน้ามาช่า ไม่แก่ ไม่หนุ่ม แต่งกายอย่างน่าพิศวง - สวมรองเท้าบาส สวมผ้ากันเปื้อนสีขาวทับเสื้อเชิ้ตตัวยาว และผ้าพันคอที่ผูกไว้อย่างน่าพิศวงบนศีรษะของเธอ แค่เห็นหน้าก็น้ำตาไหลแล้ว
- ฉัน - สะอื้น Marusya กล่าว - Masha
- ลุกขึ้นมาช่าเป็นคนงานของเรา ตอนนี้คุณจะอยู่กับฉัน ดูแลบ้านของฉัน และเล่านิทานในตอนเย็น ฉันชอบฟังนิทานเหมือนความรัก แต่คุณจะไม่ไป! ดังนั้นฉันจะกินคุณ
เธอจับมือมาเรียแล้วลากเธอไปด้วย:
คุณจะเรียกฉันว่าป้ากัลยา
ไม่มีอะไรทำ - Masha เริ่มอาศัยอยู่กับป้าคนนี้ ตั้งเตา พกน้ำ ทำอาหารเย็น กวาดพื้น ให้อาหารห่านและเสื้อผ้าสาป และเล่านิทานในตอนเย็น
พูดตามตรงทุกอย่างกลับกลายเป็นว่าไม่ดีสำหรับ Masha มันแยกฟืนและท่อนไม้กระโดดไปในทิศทางต่าง ๆ พวกเขาไม่ต้องการเผาในเตา เธอจะไปหาแอกน้ำ - ไม่ว่าเธอจะจมถังหรือเธอจะสะดุด - และเธอเองจะตีและน้ำจะกระเซ็น เธอจะป้อนอาหารห่าน ห่านจะขู่และวิ่งไล่ตามมรุสยา สองสามครั้งที่ห่านบีบขาเธออย่างเจ็บปวด เจ็บปวดมาก โดยทั่วไปสิ่งที่มาเรียของเราจะไม่ทำ - ทุกสิ่งไม่ได้มาจากมือของเธอ นิ้วและพวกนั้นถูกแทงด้วยเข็มเจาะ ป้ากัลยาแค่ยกมือขึ้น - พวกเขาพูดว่าเงอะงะมาจากไหนบนหัวของเธอ
และด้วยเทพนิยายนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น ตอนแรก Masha ต้องการเล่านิทานที่แม่ของเธออ่านให้เธอฟังในตอนกลางคืน ที่นั่น: "The Frog Princess", "Marya Morevna", ... และป้า Galya จะฟังฟังนิทานเรื่องนี้ แต่ เมื่อเธอเริ่มกรีดร้อง: “คุณไม่ได้บอกอย่างนั้น! มันไม่ใช่แบบนั้น!" มารุสยาจะโกรธเคือง พองตัว หันหลังให้กำแพง และป้าของเธอเล่าเรื่องอื่นให้เธอฟัง เขาพูดว่า: "แล้วฉันจะกิน!"
ชอบหรือไม่ชอบก็ไม่มีอะไรทำ ฉันต้องบอกคนอื่น
Masha บอก "Kolobok" และ "Three Bears" แล้ว เขาคิดว่า: “พรุ่งนี้ฉันจะบอกเรปก้า แล้วฉันจะทำอย่างไร? ป้าจะกินฉัน!"
วันนั้นจึงผ่านไปด้วยแรงงานและการทำงาน ตามปกติแล้วมาเรียก็ผลักท่อนซุงที่ยังไม่ได้แยกออกเข้าไปในเตาอบ - เธอเกือบจะเริ่มไฟ ฝุ่นบนพื้นถูกกวาดด้วยไม้กวาดมากจนผนังและหน้าต่างเต็มไปด้วยฝุ่น เทน้ำห้าถังลงบนทางเดิน ฉันเผาชิ้นเล็กชิ้นน้อยและ Borscht ก็ต้มเอง เวลาเย็นมาถึง - ถึงเวลาเล่านิทานและศีรษะ Marusya ของเราเป็นเหมือนเหล็กหล่อแขนและขาของเธอเต็มไปด้วยตะกั่ว - เธอไม่สามารถยกมันขึ้นได้และเธอก็ตัวสั่นไปทั้งตัวและห่อตัวด้วยผ้าห่ม ช่างเป็นเทพนิยายที่นี่ - ฟันเป็นเศษส่วนและเคาะออก
น้ากัลยามองมาที่เธอแล้วพูดว่า:
- Masha ที่สวยงามของฉันคุณไม่สบายหรือเปล่า? ก็ไม่มีอะไร! ดื่มชากับแยมราสเบอร์รี่ ผูกผ้าพันคออุ่นๆ ไว้รอบคอแล้วเล่าเรื่อง แล้วก็กิน!
Mashenka กระโดดขึ้นไปที่สิ่งนี้ราวกับว่าเธอไม่ได้ถูกแช่แข็ง กระทืบเท้าของเธอและเธอกรีดร้องอย่างไร:
- ฉันอยากกลับบ้าน! ฉันอยากไปโรงเรียน! ฉันต้องการเรียนรู้บทเรียน! อยากเจอแม่! - และกองกำลังมาจากไหน
น้ากัลยาก็ลุกขึ้นจากวอร์ด ขมวดคิ้วไปทั่วแล้วไปหามรุสยา และมาชาก็มองไปรอบ ๆ คว้าสิ่งที่อยู่ในมือ - เธอต้องการโยนมันให้ป้ากัลยา และปัดฝุ่นอยู่ใต้วงแขนของเธอ ซึ่งเธอไม่ได้ใส่เข้าไปแทนเมื่อเธอปัดฝุ่นรอบๆ กระท่อม ตะกร้อในมือของเธอหมุนวนและเต้นราวกับมีชีวิต และรีบวิ่งผ่านประตูที่เปิดอยู่ แต่มารุสยาไม่มีเวลาคลายนิ้วและติดป้ายหลังไม้กวาด เธอเพียงแค่กระพริบตาและไม้กวาดของเธอก็อุ้มเธอขึ้นไปสูงภายใต้ท้องฟ้า Masha หลับตาลงด้วยความกลัวและลืมตาขึ้น - เธอนอนอยู่ที่บ้านในห้องของเธอเอง เตียงและผ้าม่านของเธอเอง น่ารักด้วยดอกไม้ชนิดหนึ่งที่หน้าต่างกระพือปีก
Marusya กระโดดลงจากเตียงและวิ่งไปที่ห้องครัวก่อนอื่น - เธอได้ยินแม่ของเธอกำลังล้างจานที่นั่น เธอวิ่งเข้าไปในครัว และวิธีที่เธอโอบแขนของเธอไว้กับแม่ของเธอ เธอบีบตัวเธอกับตัวเองอย่างไร และเธอก็ร้องไห้ เธอหยุดไม่ได้
- เอาล่ะ Marusya คุณเป็นอะไร? ราวกับว่าเธอไม่ได้เห็นฉันเป็นเวลาหนึ่งศตวรรษ! เดี๋ยวก่อนฉันจะทอดแพนเค้ก - เราจะกิน ใช่ คุณป่วยหรือเปล่า - แม่ถามและโน้มตัว - เธอต้องการจูบ Masha ที่หน้าผาก
Masha กระโดดขึ้นและลง:
- คุณเป็นอะไรแม่! ฉันสบายดี! ฉันจะไปนอน ล้างหน้า แปรงฟัน และหลังอาหารเช้าฉันจะทำการบ้าน - เพื่อให้มีเวลาเหลืออยู่กับคุณในตอนเย็น
แม่มองมารุสยะด้วยตาเหมือนชา ยิ้มเจ้าเล่ห์เล็กน้อยแล้วพูดว่า:
- ไปกันเถอะ Masha คนงานของเรา
Marusya หันกลับมาอ้าปากและแม่ของเธอเป็นเจ้าภาพที่เตาแล้ว - แป้งกำลังเทลงในกระทะ แป้งสั่นและแม่ของฉันพลิกกระทะอย่างช่ำชอง - แพนเค้กบาง ๆ บาง ๆ ออกมาเหมือนลูกไม้ลายฉลุ ดังนั้น Masha จึงต้องการแพนเค้กเหล่านี้ - เธอลืมสิ่งที่เธอต้องการถาม หันหลังกลับและรีบวิ่งไปทำงานบ้านตอนเช้าให้เสร็จเพื่อจะได้ทันอาหารเช้า
….
ในตอนเย็นเมื่อเด็ก ๆ อยู่บนเตียงแล้วแม่ยานาก็ยืดผ้าห่มดึงผ้าม่านด้วยคอร์นฟลาวเวอร์และเริ่มเลือกเทพนิยายสำหรับเย็นนี้:
“บางทีเราควรอ่าน The Frog Princess?”
- ไม่! มารุสยาร้องไห้
- ถ้าอย่างนั้นเกี่ยวกับ "Maria Morevna"?
- ไม่แม่! - Masha ปฏิเสธอีกครั้ง - อย่าอ่านเทพนิยายที่ Baba Yaga อยู่ มาอ่านเรื่อง Nutcracker หรือ Cinderella กันดีกว่า
แม่ยิ้มและในมุมของรอยยิ้มของเธอมีเคล็ดลับซ่อนอยู่:
- โอเค - แม่พูด - มาเริ่มอ่านเทพนิยายใหม่กันเถอะวันนี้
- เกี่ยวกับอะไร? วรรยาถาม
“เกี่ยวกับประเทศที่ลูกหลงหาย” แม่ตอบ แล้วหยิบหนังสือเล่มเล็กๆ ขึ้นมาจากชั้น บนหน้าปกมีเรือฟริเกตโบราณที่มีปืนใหญ่อยู่ด้านข้างและมีธงโจรสลัดอยู่บนเสาหลัก
– โจรสลัด! Vanya กล่าวอย่างเพ้อฝัน และทันใดนั้นเขาก็ถาม:
- แม่ แต่มี Babka-Hedgehogs อายุน้อยด้วย ... ไม่แก่เหรอ?
- ทำไมคุณถึงถาม? แม่ถาม.
- คุณเห็นไหมว่าในเทพนิยาย Baba Yaga นั้นแก่ชราอยู่เสมอ แต่เธอไม่สามารถเกิดมาเช่นนั้นได้ เธอเคยเป็นเด็กผู้หญิง เล่นกับของเล่น เรียนรู้ที่จะคิดในใจ โตแล้ว แต่งงานหรือเปล่า?
- แต่งงานแล้ว?! แม่หัวเราะ
- ใช่! เธอมีลูกสาวคนหนึ่ง - Vasilisa the wise คุณจำเทพนิยาย "ไปที่นั่น - ฉันไม่รู้ว่าที่ไหน เอามันมา - ฉันไม่รู้ว่าอะไร"? และเนื่องจากมีลูกสาวคนหนึ่งหมายความว่ามีงานแต่งงาน - Vanya โต้แย้ง - ... และบางทีเธออาจมีลูกชาย เขาแค่ไม่เข้าเรื่อง
“และก็มีลูกชาย” ไม่ว่าแม่ของฉันก็เห็นด้วยหรือพูดซ้ำ - และสิ่งที่อาจเป็นได้ก็คือ Girls-Hedgehogs
- และตอนนี้มี? เด็กๆ กระโดดลงจากเตียงพร้อมกัน
และไหวพริบของแม่ของฉันก็เพิ่มขึ้นในสายตาของเธออีกครั้ง:
- มาอ่านเทพนิยายกันดีกว่ามิฉะนั้นจะสายเกินไป!
ฉันมักจะนึกถึงมังกรของเรา
ฉันจะไม่มีวันลืมเช้าเดือนเมษายนเมื่อฉันเห็นเขาครั้งแรก
ฉันกับน้องชายเข้าไปในโรงนา เราอยากดูลูกหมูที่เกิดในคืนนั้น
แม่หมูนอนอยู่บนฟาง และลูกหมูสีชมพูตัวเล็กสิบตัวก็คลำหาหน้าท้องอันอบอุ่นของเธอ
ตรงมุมหนึ่ง มีมังกรเขียวตัวเล็กที่อ่อนแอยืนอยู่ด้วยดวงตาสีแดงโกรธ
นี่อะไรน่ะ?” พี่ชายของฉันถาม
ฉันคิดว่ามันเป็นมังกร ฉันตอบ
แม่พิกกี้ให้กำเนิดลูกหมูสิบตัวและมังกรหนึ่งตัว!
ดังนั้นจึงเป็น และสิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้อย่างไรไม่มีใครรู้
ฉันคิดว่าแม่หมูก็ประทับใจเหมือนเรา
แน่นอนว่าเธอไม่พอใจ แต่ค่อยๆ ชินกับมังกรน้อย สิ่งเดียว: ฉันไม่สามารถชินกับความจริงที่ว่าเขากัดทุกครั้งที่มาดื่มนม
Khavronya ไม่คุ้นเคยกับมันจนในที่สุดเธอก็หยุดให้อาหารเขา
ดังนั้นผมกับพี่ชายจึงต้องมาที่ยุ้งฉางทุกวันและนำอาหารมาให้มังกร
พวกเขานำมา - ต้นเทียน, เชือกผูกรองเท้า, ไม้ก๊อกและทุกอย่างที่มังกรกินด้วยความยินดี
ไม่ต้องสงสัยเลย ถ้าไม่ใช่เพราะพี่ชายกับฉัน เขาคงตายเพราะความอดอยาก
ลูกหมูทั้งหมดส่งเสียงฮึดฮัดเมื่อเราเปิดประตูโรงนา แต่มังกรยืนนิ่งจ้องมาที่เราด้วยดวงตาสีแดงกลมโตของมัน ขณะรับประทานอาหาร เขาไม่ส่งเสียง แต่เมื่อเขาอิ่ม แต่ละครั้งเขาจะสะอึกเสียงดังและสะบัดหางอย่างพอใจ ใช่ มันเกิดเสียงกรอบแกรบ หากหมูตัวใดพยายามคว้าชิ้นส่วนจากเชือก ปลายเทียน หรือจุก พวกมันก็โกรธมากและกัด: อย่างไร! สารพัดเป็นของเขาคนเดียว! เขาเป็นคนใจร้ายจริงๆ
แต่พี่ชายของฉันและฉันชอบมังกรตัวนี้และมักจะเกาหลังของมัน ดูเหมือนว่าเขาจะสนุกกับมัน ดวงตาของเขาฉายแสงสีแดงสดทันที และเขายืนนิ่งเหมือนหนู ปล่อยให้ตัวเองถูกขีดข่วนและลูบ
ฉันยังจำได้ว่าครั้งหนึ่งเขาล้มลงในรางหญ้าที่มีอาหารหมูได้อย่างไร มันมาได้ยังไง เขามาได้ยังไงก็ไม่รู้
แต่ฉันจะไม่ลืมช่วงเวลาที่มังกรว่ายอยู่ในรางหญ้า
สงบ มั่นใจ มีความสุข จากการว่ายน้ำ เขารู้วิธีว่ายน้ำ!
พี่ชายของฉันเอาไม้ใหญ่มาตกปลาแล้ววางบนฟางให้แห้ง มังกรน้อยปัดฝุ่นจนเปลือกมันฝรั่งบินไปด้านข้าง และหลังจากนั้นเขาก็หัวเราะออกมาดังๆ จ้องมาที่เราด้วยตาสีแดง
บางครั้งเขาสามารถนั่งเล่นเป็นวันๆ โดยไม่รู้สาเหตุ
จากนั้นเขาก็แสร้งทำเป็นไม่ได้ยินอะไรเลยถ้ามีใครพูดกับเขา แค่ยืนอยู่ในมุมหนึ่งและเคี้ยวหญ้าแห้ง ทำตัวแปลกอย่างน่าประหลาด
ในกรณีเช่นนี้ เราโกรธมากและตัดสินใจ: ทุกอย่าง! ไม่มีอาหารอีกต่อไป!
คุณได้ยินไหม หัวดื้อของคุณ? - พี่ชายของฉันหันไปหามังกรเมื่อเขาแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินอีกครั้ง
คุณจะไม่ได้ปลายเทียนอีกอัน ปิลุตต้า ปิลุตต้า ปิลุตต้า!
(คำว่า "ปิลุตตะ" ถูกพูดครั้งแล้วครั้งเล่า และมีความหมายเดียวกับคำว่า "จำหลัก")
ไม่ แค่จินตนาการ! จากนั้นมังกรก็เริ่มร้องไห้ น้ำตาจางๆ ไหลออกมาจากดวงตาสีแดงของเขาและทำให้เกิดความรู้สึกสงสารอย่างสุดจะพรรณนา
อย่าร้องไห้ - ฉันพูดเร็ว - เราไม่จริงจัง คุณจะได้รับต้นขั้วเทียนจากต้นคริสต์มาสมากที่สุดเท่าที่คุณจะกินได้!
และมังกรน้อยก็หยุดร้องไห้ หัวเราะและกระดิกหาง
ทุกปี คือวันที่สองของเดือนตุลาคม ฉันจำมังกรตั้งแต่วัยเด็กได้ เพราะเป็นวันที่ 2 ตุลาคมที่เขาหายตัวไป...
ในวันนั้นพระอาทิตย์ตกดินช่างสดใส ท้องฟ้าทอแสงด้วยสีสันที่อธิบายไม่ได้ และมีหมอกจางๆ ปกคลุมทุ่งหญ้า
เป็นค่ำคืนหนึ่งที่ความฝันอันเงียบสงบมาถึง คลุมเครือ ราวกับหมอกบางๆ ของหมอกเดียวกัน
มังกรน้อย ลูกหมู และแม่ของพวกมันกำลังเล็มหญ้าอยู่ในทุ่งหญ้า
ฉันกับพี่ชายดูแลพวกเขา
อากาศยามเย็นที่มีหมอกหนาและเราก็เย็น
เพื่อที่จะไม่หยุดนิ่ง พวกเขาจึงกระโดดขึ้นและให้กำลังใจกัน ฉันคิด:
ในไม่ช้าฉันจะกลับบ้านนอนบนเตียงอุ่น ๆ และก่อนนอนฉันจะอ่านนิทาน
ในขณะนั้นเองที่มังกรน้อยเข้ามาหาฉัน เขาแตะแก้มฉันด้วยอุ้งเท้าเย็นชา... และดวงตาสีแดงของเขาเต็มไปด้วยน้ำตา
แล้ว... ไม่ มันแปลกมาก... เขาออกตัว
เราไม่รู้ว่ามังกรบินได้ แต่เขาก็ขึ้นไปในอากาศและบินตรงไปที่ใจกลางพระอาทิตย์ตก ในไม่ช้าเราก็เห็นมันเป็นจุดเล็กๆสีดำในดวงอาทิตย์สีแดงที่ลุกเป็นไฟ และเราได้ยินเขาร้องเพลง เขาร้องเพลงด้วยเสียงที่ชัดเจนสดใสและบิน ฉันคิดว่ามังกรมีความสุข...
เย็นนี้ฉันไม่ได้อ่านนิทาน
ฉันนอนอยู่บนเตียงและคร่ำครวญมังกรเขียวของเราด้วยดวงตาสีแดง
ฉันกำลังเขียนเป็นครั้งแรก โปรดอย่าตัดสินอย่างเคร่งครัด ... น้องชายของฉันบอกสิ่งนี้กับฉัน (ตอนแรกฉันไม่เชื่อ แต่ในไม่ช้าฉันก็นึกถึงคำพูดของเขา)
พี่ชายของฉันและฉันไม่ค่อยเดินด้วยกันนักพูดที่แย่มากและสมองของฉันก็เดือดจากเขา ... เราตัดสินใจที่จะไปที่ที่เขาจะเงียบแน่นอนนี่คือสุสาน ... บางทีที่เงียบที่สุดที่ฉัน คิดว่าที่นั่นคุณสามารถพูดคุยเกี่ยวกับชีวิตและโดยทั่วไปแล้วความสงบเป็นสิ่งที่ฉันชอบมากดังนั้นเราจึงไปที่นั่น พอไปถึงก็เริ่มมืดเราก็ไปที่หลุมศพของแม่ของเขา ... เรานั่งกันซักพักแล้วกลับบ้าน มันเริ่มมืดแล้วและเขาเล่าเรื่องนี้ให้ฉันฟังระหว่างทาง ... ต่อไปกับเขาเหมือนเดิม
- รู้ไหม ฉันนอนหลับไม่สนิท... พวกมันมาหาฉันตลอดเวลา... พวกเขาต้องการให้ฉันทำอะไรสักอย่าง แต่พวกเขาไม่พูด... คุณมีไม่จำกัด ดูสิ่งมีชีวิตตัวน้อยด้วย ตาสีแดง ... พวกเขาดูเหมือนมังกรตัวเล็ก - ฉันหัวเราะ
- เกมของคุณมันบ้ามาก - ใครจะเชื่อ - โอเค ถ้ามันง่ายขึ้น ฉันจะเห็น
- เมื่อวานเด็กผู้หญิงมาตอนกลางคืน - ฉันยังคงร้องและบิดใกล้วัดของฉัน - เธอให้สิ่งนี้แก่ฉัน (แสดงของเล่น) บอกว่าถ้าฉันวางไว้ใกล้เตียงพวกเขาจะไม่มาหาฉัน ...
- แบรด... หยุดเล่นแล้วกลับบ้าน
เราเลิกกัน... ใครจะเชื่อได้ล่ะ? เขาอายุแค่ 15 แล้วยังเล่นอยู่...วัยรุ่น...คุณไม่มีทางรู้หรอกว่าเขาเห็นหรือคิดอะไร (เขาชอบ) กลับบ้านตอน 11 โมง เข้านอนกับแล็ปท็อปแล้วมาดู "เจ้าตัวเล็ก" เหล่านี้ในอินเทอร์เน็ต มังกรตาแดง" ไม่พบอะไร ปีนป่ายตัดสินใจเข้านอน แต่ไม่มี ... นี่มันตีสองแล้ว ฉันไม่ได้อยู่คนเดียว แต่อยู่กับยายและน้องสาวสองคนที่เล็กที่สุด กรีดร้องตอนกลางคืน ... เด็กกระสับกระส่าย ... คุณนอนไม่หลับภายใต้เสียงร้องเช่นนี้ เธอเริ่มรอจนกว่าเธอจะสงบลงหรือย่าจะให้ยาแก่เธอ ... สามโมงแล้ว ... คอมพิวเตอร์ปิดอยู่ทุกอย่างดูเหมือนจะเรียบร้อย ... จากนั้นคุณยายก็บินเข้ามาและเริ่ม เพื่อพูดว่า:“ ทำไมคุณถึงไปที่สุสาน สายไหม คุณไม่สามารถไปที่นั่นหลังจากสี่ขวบ! เหมือนเด็กน้อย! ตอนนี้ Valya (น้องสาวของฉัน) กำลังฝันถึงแม่ของเธอโทรหาเธอ!” ฉันมองเธอด้วยรอยยิ้ม (ฉันไม่เชื่อในทั้งหมดนี้) คุณยายจากไป ... และเด็กน้อยดูเหมือนจะสงบลง .... เธอนอนลงและหลับตาด้วยความคิดที่ในที่สุดฉันก็จะทำ นอน. ฉันหลับตา ได้ยินเสียงฝีเท้าใกล้เตียง และเสียงหัวเราะที่คุ้นเคยก็ดังขึ้น ฉันลืมตาขึ้น ไม่มีใครเลย ... ฉันคิดว่าฉันปรากฏตัวแล้ว แต่หลับไปอย่างนั้นไม่ได้ ฉันนอนอยู่อย่างนั้นจนบ่ายโมงครึ่ง สิบโมงเช้า และฉันตัดสินใจว่าตอนนี้ฉันจะผล็อยหลับไปอย่างแน่นอน หันหลังให้กับกำแพง มองดูเวลาแล้วหลับตาลง ฉันรู้สึกว่ามีคนผลักและโทรหากระซิบ ฉันคิดว่าวันนี้เป็นวันแล้วจริงๆ น่าจะเป็นพี่ชายมาและจะขอบุหรี่ ฉันจะไม่ลุกขึ้นปล่อยให้เขาคิดว่าฉันกำลังนอนหลับอยู่ เขาเรียกอีกครั้งดังขึ้นและแรงขึ้นเท่านั้นดันไปด้านหลัง ฉันคิดว่าคุณจะทำตอนนี้ ฉันลืมตา ... ราวกับว่าชั่วร้ายดวงตาของฉันมืดลงและหัวของฉันก็หมุนไป เธอดึงตัวเองเข้าหากันแล้วหันกลับมา ไม่มีใครหัวเราะซ้ำแล้วซ้ำอีก ... มันน่าขนลุก ... จากนั้นเด็กน้อยก็ตื่นขึ้นมาวิ่งมาหาฉันแล้วพูดว่า: "และคุณมีที่นี่" เธอแหย่ใต้โซฟา "เจ้าตัวเล็กสีดำที่มีสีแดง ตา!” และเธอก็ยื่นมือของเธอราวกับว่ากำลังถืออะไรบางอย่าง - ดูสิ "ฉันบิดมันใกล้วัดของฉันแล้วพูดว่า:" อะไรนะ ไม่มีอะไร ... " ซึ่งเธอตอบว่ามีจำนวนมากและถาม ทำไมฉันไม่เห็นพวกเขาและไม่ต้องการที่จะเติมเต็มความปรารถนาของพวกเขา ... บางทีเด็กอาจมีเพื่อนในจินตนาการคุณไม่มีทางรู้ ... ต่อมาพี่ชายของฉันมาแน่นอนฉันไม่ได้บอกอะไรเขา แต่เขาบอกว่าแม่ของเขามาหาเขาบอกว่าเราจะเรียกนักบวช ฉันหัวเราะเยาะเขาอีกครั้ง แต่ตอนนี้ฉันคิดว่าอาจจะไร้ประโยชน์? ถ้าเขามาหาเราตอนนี้เขาไม่ง่วงและไปนอนกับเราเขาบอกว่าที่บ้านพวกเขาไม่ให้พักผ่อน ... ใช่และด้วยเหตุผลบางอย่างฉันก็นอนไม่หลับอีกต่อไปในอพาร์ตเมนต์ของฉันแม้ว่าฉันจะ ไม่อยากจะเชื่อในไสยศาสตร์นี้ เพราะฉันไม่ใช่คนตัวเล็กและไม่เห็นคำอธิบายอื่นใด ...
แก้ไขข่าว โอเมกอน - 27-09-2012, 12:56
