ประวัติอักษรจีน. ศิลปะการเขียนพู่กันจีน

“วงกลม Enso ของญี่ปุ่นเป็นจุดสุดยอดของศิลปะเซนในแง่ที่บริสุทธิ์ที่สุด มันไม่ได้ถูกสร้างขึ้นโดยศิลปินมืออาชีพ แต่โดยคนธรรมดาที่เดินไปตามเส้นทางแห่งการตรัสรู้และตื่นขึ้นสู่ความเข้าใจในธรรมชาติที่แท้จริงของจิตใจ Enso สะท้อนถึงประสบการณ์ส่วนตัวและความรู้เกี่ยวกับความเป็นจริง แต่ไม่ใช่หลักคำสอนเชิงปรัชญาที่เป็นนามธรรม Enso เป็นภาพวาดวงกลม มักใช้พู่กันวงกลมเส้นเดียว ภาพวาดมักจะมาพร้อมกับคำบรรยายที่บ่งบอกถึงความหมายบางอย่าง รวมถึงเบาะแสเพิ่มเติมและคำอธิบาย ซึ่งบางครั้งก็ชวนให้นึกถึงโคอันแบบดั้งเดิม ในฐานะที่เป็นศิลปะในแบบของตัวเอง การประดิษฐ์ตัวอักษรของ Enso ได้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความบริสุทธิ์และความแข็งแกร่งของสุนทรียศาสตร์ของญี่ปุ่น ภาพของวงกลมดึกดำบรรพ์สะท้อนให้เห็นถึงสภาพจิตใจของศิลปิน สื่อถึงธรรมชาติและกระบวนการของการตระหนักรู้ทางจิตวิญญาณ

เอนโซ คัมภีร์อักษรวิจิตรของคันจูโร ชิบาตะ XX

คันจูโร ชิบาตะ XX เอนโซ (円相
On-yumishi Kanjuro Shibata XX (ib ata師 ō代柴田勘十郎 Shibata Kanjuro เกิดในปี 1921 เกียวโต ประเทศญี่ปุ่น เสียชีวิตเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2013 ที่เมืองโบลเดอร์ สหรัฐอเมริกา) เขาอยู่ในอันดับที่ 20 ของอาจารย์ Kyudo (ศิลปะการต่อสู้ยิงธนูของญี่ปุ่น) ของประเพณี Heki Ryu Bishu Chikurin-ga (日置流尾州竹林派) ตั้งแต่ปี 1980 ชิบาตะได้ก่อตั้งมากกว่า 25 kyūjō ในสหรัฐอเมริกา แคนาดา และยุโรป

Enso (ภาษาญี่ปุ่น 円相, enso, หยวนเซียงจีน, “ภาพของวงกลม”, “เครื่องหมายสมบูรณ์แบบ”) เป็นสัญลักษณ์การประดิษฐ์ตัวอักษรเซนในรูปแบบของวงกลม เป็นที่เชื่อกันว่า enso เป็นการแสดงออกถึง "ความเป็นเช่นนั้นจริง" "ธรรมชาติดั้งเดิมของพระพุทธเจ้า" "รูปธรรมแห่งความเป็นจริง" "ธรรมชาติของธรรมะ" การตรัสรู้ที่สมบูรณ์แบบ ใบหน้าเดิม "กายจักรวาลของพระพุทธเจ้า" สัญลักษณ์ที่คล้ายกับ enso คือพระจันทร์เต็มดวง

Enso เป็นหนึ่งในตัวละครที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในการเขียนพู่กันญี่ปุ่น - เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่าตัวละครของศิลปินนั้นแสดงออกอย่างเต็มที่ในลักษณะที่เขาวาดด้วย enso; มีเพียงคนเดียวที่มีจิตวิญญาณที่บริสุทธิ์และสมบูรณ์เท่านั้นที่สามารถสร้างเอนโซที่แท้จริงได้ นักประดิษฐ์ตัวอักษรหลายคนใช้เวลาหลายชั่วโมงในการฝึกวาด enso วาดมันทุกวัน จึงรวบรวม "ไดอารี่ทางจิตวิญญาณ" ของพวกเขา

สัญลักษณ์นี้มีความหมายศักดิ์สิทธิ์บางอย่างสำหรับเซน - ผู้เชี่ยวชาญหลายคนมักใช้เป็นลายเซ็นในภาพวาด

Bankei Yutaku (1622-1693) เป็นอาจารย์ชาวญี่ปุ่น Rinzai Zen และเจ้าอาวาสของ Rimon-ji และ Nyoho-ji เขาเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีจากการพูดถึง Neverborn ในขณะที่เขาเรียกมันว่า

ปรมาจารย์ด้านการประดิษฐ์ตัวอักษร Shoko Kanazawa

สมบัติประจำชาติอายุ 400 ปีแขวนอยู่ในห้องโถงใหญ่ของวัด Kenninji ซึ่งเป็นวัดเซนที่เก่าแก่ที่สุดในเกียวโต
ภาพวาดนี้โดย Sotatsu Tavaraya ชื่อ "เทพเจ้าแห่งสายลมและฟ้าร้อง" แสดงถึงสิ่งมีชีวิตบนท้องฟ้าสองคน คนหนึ่งถือถุงลมขนาดใหญ่ และอีกกลองที่สร้างฟ้าร้อง


นอกจากนี้ การแขวนในวัดยังเป็นการคัดลายมือของผลงานชิ้นเอกชิ้นนี้ในปี 2006 ด้วยตัวอักษรจีนสำหรับเทพเจ้าสายฟ้าและเทพเจ้าแห่งสายลมที่วาดด้วยหมึกสีดำบนพื้นหลังสีขาวขนาดยักษ์

ส่วนนี้น่าสนใจด้วยเหตุผลหลายประการ ความสมมาตรของโคลงสั้น ๆ ขององค์ประกอบทั้งสองนั้นน่าประหลาดใจเพราะนักคัดลายมือ Shoko Kanazawa ไม่เคยเห็นแผงของ Tavarai ก่อนวางหมึกลงบนกระดาษ
และคานาซาว่าก็ไม่ใช่นักคัดลายมือธรรมดา เธอมีดาวน์ซินโดรมและไม่เข้าใจสิ่งที่เธอเขียนเสมอไป
อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ไม่ได้หยุดเธอจากการกลายเป็นหนึ่งในศิลปินที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่น ผลงานของเธอซึ่งแขวนอยู่ในวัดวาอารามและพิพิธภัณฑ์ทั่วประเทศ เป็นที่รู้กันว่าทำให้คนร้องไห้
เธอเป็นลูกคนเดียว
พ่อแม่ของเธอตกหลุมรักกันหลังจากพบกันในชั้นเรียนของโนห์ ละครโนะเป็นรูปแบบดั้งเดิมของละครเพลงญี่ปุ่น
พ่อผู้ล่วงลับของเธอดำเนินกิจการกลุ่มบริษัท แม่ของเธอเป็นครูสอนคัดลายมือ
คุณยาสุโกะ คานาซาวะเล่าว่า “ฉันแต่งงานมาหกหรือเจ็ดปีก่อนที่โชโกะจะมาด้วย
เธอเสียใจมากเมื่อรู้ว่าลูกของเธอมีดาวน์ซินโดรม ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่ทำให้พัฒนาการทางสติปัญญาล่าช้า

คุณคานาซาว่าใช้เวลานานในการเอาชนะความรู้สึกผิดและความเศร้าโศกของเธอ Shoko ตามที่เธอเล่น บทบาทใหญ่ในการช่วยเธอ
- เธอเป็นคนฉลาด ฉลาด และมีความรักมาก เธอทำให้ฉันรู้ว่าพระเจ้าไม่ได้สร้างสิ่งที่ไม่จำเป็น

Shoko มีความสุขมากกับเพื่อน ๆ ของเธอและเป็นคนสร้างอารมณ์ที่แท้จริง
ในช่วงเวลานี้ คุณคานาซาวะตัดสินใจเริ่มชั้นเรียนการประดิษฐ์ตัวอักษรให้กับโชโกะและเพื่อนร่วมชั้นอีกสองสามคน “โชโกะเป็นคนเดียวที่สามารถจับแปรงได้อย่างเหมาะสม ฉันคิดว่าเธอมีศักยภาพ”
เมื่อโชโกะอายุได้ 10 ขวบ เธอต้องลาออกจากการเป็นปฐมวัย โรงเรียนประถมเพื่อเข้าเรียนในโรงเรียนสำหรับเด็กที่มีความต้องการพิเศษ โรงเรียนอยู่ไกลจากบ้านของพวกเขา และแม่ของเธอกังวลว่าลูกสาวของเธอจะมีปัญหากับสภาพแวดล้อมใหม่
เพื่อรับมือกับความทุกข์ของเธอ Kanazawa-sama เริ่มสอน Shoko วิธีเขียนคันจิ 272 ตัว (เขียนตัวอักษรจีน ญี่ปุ่น) ตามตัวอย่าง "พระสูตรหัวใจ" พระสูตรที่มีชื่อเสียงของพระพุทธศาสนามหายาน - ฉันค่อนข้างเข้มงวดและมักจะโกรธเมื่อโชโกะไม่เข้าใจ ฉันระบายความหงุดหงิดใส่เธอ แต่ทุกครั้งที่เธออ่านกลอนจบ เธอจะพูดกับฉันว่า "ขอบคุณครับแม่"
โชโกะเขียนพระสูตรสิบครั้ง
คุณคานาซาว่า “เธอไม่เคยพูดว่าจะจากไป แม้ว่าเธอจะร้องไห้ และน้ำตาของเธอร่วงหล่นลงบนผ้าปูที่นอน กระดาษฟาง. นั่นคือเหตุผลที่ฉันเรียกพระสูตรนี้ว่าน้ำตาแห่งพระสูตรหัวใจ
- เธอดูแลฉันตั้งแต่ตอนที่เธออยู่ในเปล แม่โชโกะจำได้ว่าเธอรู้ถึงความเศร้าโศกของฉัน เธอต้องการให้ฉันมีความสุข และนั่นคือแรงจูงใจหลักของเธอ นั่นเป็นเหตุผลที่เธอพัฒนาทักษะของเธอ
ในปี 2542 พ่อของโชโกะซึ่งขณะนั้นอายุ 52 ปี เสียชีวิตด้วยอาการหัวใจวาย
แม่เรียกลูกสาววัยสิบสี่ปีมาบอกกับเธอว่า “วิญญาณของพ่อเข้ามาในจิตวิญญาณของคุณ”

เมื่อโชโกะอายุ 18 ปี คุณคานาซาว่าจำสิ่งที่สามีผู้ล่วงลับบอกกับเธอได้
-เขาชื่นชมการประดิษฐ์ตัวอักษรของโชโกะมากกว่าที่ฉันทำ และบอกว่าเธอควรมีนิทรรศการของตัวเอง เขาเชื่อว่าเราไม่ควรปิดบังสภาพของโชโกะ เราควรใช้นิทรรศการเพื่อบอกผู้คนว่าโชโกะทำได้ดีเพียงใด

ใช้เวลาสองปีในการเตรียมนิทรรศการ และมันเปลี่ยนชีวิตพวกเขา
ท่านคานาซาว่าสอนโชโกะถึงวิธีเขียนตัวอักษรขนาดใหญ่
“ฉันคิดว่ามันจะเป็นงานเพียงครั้งเดียว ฉันเลยอยากจะทำให้มันยิ่งใหญ่และพิเศษจริงๆ” เธอกล่าว พร้อมเสริมว่านิทรรศการนี้จัดขึ้นที่ Ginza Shoro Gallery ในโตเกียว
งานนี้ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชน
-คนมาเยอะ บางคนเห็นงานก็ร้องไห้ มันวิเศษมาก ฉันไม่เคยเห็นคนร้องไห้เพราะการประดิษฐ์ตัวอักษร” คุณคานาซาว่ากล่าวเสริมว่ามีการขายผลงานไปหลายชิ้น

และนั่นคือเหตุผลที่ Seko กลายเป็นจุดสนใจ จังหวะที่มีพลังของเธอดึงดูดความสนใจจากตัวแทนของหอศิลป์และพิพิธภัณฑ์และแม้แต่เจ้าอาวาสของวัดที่มีชื่อเสียง
เธอเริ่มได้รับค่าคอมมิชชั่นที่ช่างคัดลายมือทำได้เพียงฝันถึง ซึ่งรวมถึงการเขียนพู่กันชื่อละครโทรทัศน์ Taira no Kiyomori ทางสถานี NHC ซึ่งเป็นสถานีโทรทัศน์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศในปี 2555
ในทศวรรษที่ผ่านมา เธอได้แสดงในงานประมาณ 250 งานทั่วประเทศญี่ปุ่น รวมถึงวัดที่มีชื่อเสียงในนาราและคามาคุระ ซึ่งดึงดูดผู้คนมากมาย
เมื่อ 2 ปีที่แล้ว เธอถูกขอให้เขียนอักษรวิจิตรบนแผ่นขนาด 5x5 เมตร ที่งานชุมนุมยิมนาสติกแห่งชาติของญี่ปุ่นที่สนามกีฬา Ajinomito ต่อหน้าจักรพรรดิอากิฮิโตะและผู้ชมกว่า 50,000 คน
- ผู้คนบอกว่ามันเป็นไปไม่ได้ แต่ฉันเชื่อในตัวเธอ เพราะทุกครั้งที่เธอเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก เธอชนะ ควรสังเกตว่าสำหรับการแสดงดังกล่าว Seko ใช้แปรงขนาดยี่สิบกิโลกรัม
การแสดงของเธอถูกฉายบนจอยักษ์ในสนามกีฬา
“ฉันดูที่หน้าจอ เธอเป็นเหมือนนกตัวเล็ก ๆ ในทุ่งกว้าง มันวิเศษมาก” คุณคานาซาว่ากล่าว
เมื่อถูกถามว่าเธอประหม่าต่อหน้าฝูงชนจำนวนมากเช่นนี้หรือไม่ Shoko พูดว่า:
- ฉันพยายามใส่ความรู้สึกมีความสุขไว้ในจดหมายเสมอ ฉันไม่รู้สึกประหม่า พ่อของฉันคอยเฝ้าดูฉันจากสวรรค์เสมอ
หลังจากนั้นไม่นาน แม่และลูกสาวได้รับบทกวีที่เขียนโดยจักรพรรดิอากิฮิโตะเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์ โชโกะแต่งกลอนในเวอร์ชั่นอักษรวิจิตร และตอนนี้มันอยู่บนอนุสาวรีย์ในสวนสาธารณะในโชฟุ ชานเมืองโตเกียว
ปีที่แล้ว นักประดิษฐ์อักษรตัวน้อยได้เดินทางไปร่วมงานวันดาวน์ซินโดรมโลกขององค์การสหประชาชาติ ซึ่งเธอได้กล่าวขอบคุณแม่ของเธอในสุนทรพจน์ของเธอ ณ เวทีหนึ่ง เธอมองมาที่คุณคานาซาว่าซึ่งนั่งอยู่ที่ห้องโถงและพูดว่า “
-แม่ของฉันเคยเป็นแม่ที่เศร้าที่สุด แต่ตอนนี้เธอเป็นแม่ที่มีความสุขที่สุด
อันที่จริง โชโกะทำได้เกินความคาดหมายของท่านคานาซาวะ
ปีที่แล้ว เธอย้ายเข้าไปอยู่ในอพาร์ตเมนต์เล็กๆ ใกล้บ้านพ่อแม่ของเธอ —
ฉันชอบอยู่คนเดียวและต้องการซื้อหนังสือเกี่ยวกับวิธีทำวิดีโอสำหรับ You Tube ฉันชอบทำอาหารและสามารถปรุงแกง สเต็ก อาหารจีน ซุป และข้าวผัดได้” เธอกล่าว
แม่ของเธอพูดด้วยรอยยิ้ม:
“ฉันต้องการให้เธอเป็นอิสระอย่างยิ่ง ไม่ว่าการประดิษฐ์ตัวอักษรจะเป็นอะไร ไม่ว่าจะหาเงินได้มากเพียงใด สิ่งสำคัญคือการสามารถดำรงชีวิตได้ด้วยตัวเอง โชโกะไม่รู้ว่าคนรวยหรือไม่รวยมาก ฉลาดหรือธรรมดา เธอไม่มีแนวคิดเรื่องความมั่งคั่งหรืออำนาจ แต่เธอสามารถสังเกตได้เมื่อมีคนเศร้าหรืออารมณ์เสีย และเธอมักจะพูดคุยกับผู้คน

การประดิษฐ์ตัวอักษรจีนมีอายุห้าพันปีและสะท้อนถึงสภาวะทางจิตวิญญาณของสังคมจีนมาโดยตลอด เป็นแก่นแท้ของวัฒนธรรมจีนและความภาคภูมิใจของคนจีน ทุกวันนี้ มีความสนใจเพิ่มขึ้นในการเขียนพู่กันจีนและภาพวาดทั่วโลก

เพื่อที่จะเชี่ยวชาญในการเขียนภาษาจีน คุณจะต้องเรียนรู้ 5,000 ตัวอักษร ซึ่งรวมกันได้ประมาณ 20,000 คำ นี่เป็นหนึ่งในที่ใหญ่ที่สุด ระบบที่รู้จักการเขียน. ปริมาณ อักษรจีนในพจนานุกรมคังซีที่มีชื่อเสียง (康熙字典 Zìdiǎn Kangxi ซึ่งถือเป็นคู่มือมาตรฐานตลอดศตวรรษที่ 18 และ 19 และได้รับการว่าจ้างจากจักรพรรดิคังซีแห่งราชวงศ์ชิง) ประมาณ 47,035 ถึงแม้ว่าในความเป็นธรรมควรสังเกตว่าตัวละครส่วนใหญ่ ในพจนานุกรมมีความเก่าแก่

แก่นแท้ของพวกมัน อักษรอียิปต์โบราณมาจากภาพวาดที่ลดความซับซ้อนเพื่อให้ง่ายต่อการเขียน อักษรอียิปต์โบราณหมายถึงเสียง พยางค์ คำหรือบางส่วนของคำที่มีนัยสำคัญทางไวยากรณ์

อักษรจีนมันเป็นศิลปะและปรากฏการณ์ที่น่าทึ่งในคลังของวัฒนธรรมมนุษย์ ปรากฏการณ์ของการประดิษฐ์ตัวอักษรจีนคือไม่ใช่แค่ภาษากะและวิธีการสื่อสารเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือในการแสดงออก ความสงบภายในศิลปิน.

การประดิษฐ์ตัวอักษรจีนสามารถเรียกได้ว่าเป็นภาพวาดเพราะมีอิทธิพลต่อผู้ชมด้วยรูปแบบและรูปแบบที่หลากหลาย และแท้จริงแล้ว ภาพวาดและการประดิษฐ์ตัวอักษรจีนเปรียบเสมือนสองพี่น้อง พวกเขาไม่สามารถแยกออกได้ ปรมาจารย์ชาวจีนทุกคนเป็นทั้งนักคัดลายมือและศิลปิน

ในประเทศจีนความสำคัญอย่างยิ่งยวดกับความสามารถในการใช้แปรง “อัญมณีทั้งสี่ของนักวิชาการ” - นี่คือสิ่งที่เรียกว่าวิชาบังคับของผู้มีการศึกษาในประเทศจีน พู่กัน กระดาษ หมึก และหม้อหมึก เป็นสิ่งที่กวี ศิลปิน นักประดิษฐ์ นักวิทยาศาสตร์ นักปรัชญา ขาดไม่ได้ อย่างไรก็ตาม คุณสามารถซื้อสินค้าทั้งหมดที่ระบุไว้ในร้านของเราได้

แม้แต่จักรพรรดิจีนก็ยังเชี่ยวชาญการประดิษฐ์ตัวอักษรที่ดี จักรพรรดิเฉียนหลง ซึ่งปกครองในสมัยราชวงศ์ชิง ได้ทิ้งงานหลายชิ้นของเขาไว้ที่ steles ในวัด

ตัวละครหลักสี่กลุ่ม

รูปสัญลักษณ์- สัญญาณในรูปแบบแผนผังที่สะท้อนถึงวัตถุหรือปรากฏการณ์และเป็นประเภทการเขียนดั้งเดิม

อุดมการณ์- มีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับรูปสัญลักษณ์ แต่อาจหมายถึงแนวคิดบางอย่างต่างจากมัน

อุดมการณ์ -ประกอบด้วยสององค์ประกอบ ซึ่งหนึ่งในนั้นสื่อถึงความหมายของคำว่า "กุญแจ" ในขณะที่องค์ประกอบที่สองหมายถึงเสียง "สัทศาสตร์"

อักษรอียิปต์โบราณที่ยืมมา -อักษรอียิปต์โบราณที่มีความหมายอิสระและยังใช้เพื่อเขียนคำอื่นๆ

อักษรจีนมีต้นกำเนิดมาจากการเขียนเชิงอุดมคติ ซึ่งในทางกลับกัน ก็มาจากรูปสัญลักษณ์ ระบบการเขียนภาพเป็นภาพวัตถุซึ่งเป็นภาพวาดดั้งเดิม เมื่อเวลาผ่านไป ภาพวาดก็ง่ายขึ้น การประดิษฐ์ตัวอักษรจีนวิวัฒนาการมาจากการออกแบบดังกล่าวและพัฒนาเป็นอักษรประจำชาติดั้งเดิม

รูปแบบของอักษรจีน

ที่มีชื่อเสียงที่สุดคือรูปแบบการประดิษฐ์ตัวอักษรจีน 5 แบบ ซึ่งมักใช้เพื่อแสดงสัญลักษณ์

Zhuanshu(ตราดจีน 篆書 เช่น 篆书) "ประทับตราอักษรอียิปต์โบราณ"สไตล์นี้ปรากฏในศตวรรษที่ VIII-III ก่อนคริสต์ศักราช อี และเป็นสไตล์การเขียนอย่างเป็นทางการในอาณาจักรฉิน มีสองตัวเลือกหลัก: "ตราประทับใหญ่" และ "ตราประทับเล็ก"

Lishu(อักษรจีน 隸書 อดีต 隶书) การเขียนแบบเป็นทางการคือรูปแบบการเขียนภาษาจีนที่มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสของอักษรอียิปต์โบราณ บางครั้งรูปแบบนี้เรียกว่า zoshu - การเขียนเชิงธุรกิจ

รูปแบบการประดิษฐ์ตัวอักษรนี้สร้างขึ้นโดยการปรับ Zhuanshu ใหม่ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีวิธีการเขียนที่เร็วขึ้น สไตล์นี้โดดเด่นด้วยความแข็งแกร่งของโครงสร้างและความตั้งฉากของคุณสมบัติ

Xingshu(อักษรจีน 行書 อดีต 行书) อักษรย่อเป็นอักษรจีนโบราณ

ลักษณะนี้ไม่กลมหรือเชิงมุม นี่คือสิ่งที่อยู่ระหว่างจดหมายตามกฎหมายและตัวสะกด สไตล์ Shinshu เรียกว่า "การเขียนแบบเดิน" เพราะเกี่ยวข้องกับภาพลักษณ์ของคนเดิน

รูปแบบการประดิษฐ์ตัวอักษรของ Xingshu เป็นที่แพร่หลายเนื่องจากสะดวกและรวดเร็วในการเขียนอักษรอียิปต์โบราณ

Caoshu(อักษรจีน 草書, เช่น 草书) เป็นชื่อสามัญสำหรับรูปแบบตัวสะกดที่ใช้เขียนอักษรจีน ชื่อของสไตล์สามารถแปลเป็นจดหมายประมาทได้

การเขียนแบบตัวสะกดทุกประเภทมีความเรียบง่ายและความต่อเนื่องในการเขียน ความราบรื่น ประหยัด

ไคซู- และหนึ่งในรูปแบบการประดิษฐ์ตัวอักษรล่าสุด: ปรากฏขึ้นระหว่างรัชสมัยของราชวงศ์ฮั่นและสามก๊ก นี่เป็นรูปแบบการประดิษฐ์ตัวอักษรที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

ด้วยการศึกษารูปแบบนี้ที่พวกเขาเริ่มต้นการเดินทาง เรียนคัดลายมือผู้มาใหม่

พิพิธภัณฑ์การเขียนพู่กันร่วมสมัย

พิพิธภัณฑ์การประดิษฐ์ตัวอักษรสมัยใหม่ตั้งอยู่ในกรุงมอสโกในอาณาเขตของ Sokolniki Culture and Leisure Park เปิดทำการเมื่อ 14 สิงหาคม 2008 นี่เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งเดียวในโลกที่งานของเขามีทิศทางเดียวคือศิลปะการประดิษฐ์ตัวอักษร

เมื่อมาถึงที่นี่ ผู้เยี่ยมชมจะเข้าสู่โลกแห่งสัญลักษณ์ที่สวยงาม เส้นสายที่สมบูรณ์แบบ และความกลมกลืนอย่างแท้จริง

พิพิธภัณฑ์มีตัวอย่างงานเขียนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผลงานชิ้นเอกที่มีความสำคัญระดับโลก ถือกำเนิดขึ้น ปรมาจารย์ที่มีชื่อเสียงการประดิษฐ์ตัวอักษร ผลงานการเขียนของยุโรป ตัวอย่างโรงเรียนคัดลายมือภาษาอาหรับและยิวอยู่ที่นี่ มีงานเขียนภาษาญี่ปุ่นและจีนโบราณและสมัยใหม่

นอกจากนี้ในพิพิธภัณฑ์ยังมีหนังสือเกี่ยวกับศิลปะการประดิษฐ์ตัวอักษรทั้งในและต่างประเทศอีกด้วย

พิพิธภัณฑ์นำเสนอผลงานของผู้เชี่ยวชาญจากสี่สิบประเทศและกองทุนศิลปะได้รับการเติมเต็มอย่างต่อเนื่อง

เป็นที่น่าสนใจว่าการจัดนิทรรศการไม่เป็นไปตามกฎปกติ แต่คำนึงถึงลักษณะเฉพาะของการรับรู้ด้วยสายตา

แต่นี่ไม่ใช่แค่พิพิธภัณฑ์เท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์การศึกษาและวัฒนธรรมนานาชาติที่ไม่เพียงแต่จัดทัศนศึกษาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงนิทรรศการและชั้นเรียนปริญญาโทอีกด้วย นี่ไม่ใช่แค่พิพิธภัณฑ์ แต่เป็นเวิร์คช็อปสร้างสรรค์ที่ยอดเยี่ยมที่คุณสามารถเปลี่ยนสถานที่ได้อย่างง่ายดาย อาจารย์ที่ได้รับการยอมรับและผู้ชม

บทกวี ข้อความ ความคิดและข้อความที่ตัดตอนมาจากบทพูดคนเดียวภายใน - ทั้งหมดนี้เขาเขียนไว้บนผนัง อาจมีคนไม่พอใจและกล่าวหาว่าเขาเป็นคนป่าเถื่อน ถ้าจดหมายเหล่านี้ไม่ใช่งานศิลปะที่แท้จริง ทุกข้อความที่เขาเขียนนั้นสมบูรณ์แบบ คัดลายมือในการผสมผสานของภาษาเอเชีย คนทั้งโลกรู้จักศิลปินคนนี้ในชื่อ เรตนา

อันที่จริงชื่อศิลปินอายุ 35 ปีคือ Marquis Lewis และนามแฝงของเขาคือการตีความ คำภาษาอังกฤษเรตินา นั่นคือ "เรตินา" (ตา) ชื่อนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากเพลงแร็กวอน (Raekwon) ซึ่งมีเส้นหนึ่งว่า "แสงจากลูกบอลที่กำลังเคลื่อนที่จะส่องแสงและเผาเรตินาของคุณ"

Marquis Lewis เกิดในลอสแองเจลิสและเริ่มวาดภาพครั้งแรกในยุค 90 เขาบอกว่าเมื่อเขาเห็นกราฟฟิตี้บนทางหลวงและได้รับแรงบันดาลใจอย่างมาก นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของงานศิลปะของเขา นอกจากต้นฉบับโบราณแล้ว Retna ยังชื่นชอบวัดต่างๆ ในเอเชีย อาคาร Masonic สถาปัตยกรรมโบราณ และผลงานของศิลปินอาร์ตนูโว

ทำไมเขาถึงวาดตัวอักษร? ความหลงใหลในการประดิษฐ์ตัวอักษรของเขาเริ่มต้นอย่างไร? ปรากฎว่าในตอนท้ายของศตวรรษที่ 20 แก๊งข้างถนนของ "เมืองแห่งเทวดา" ได้รับอิทธิพลจากภาษาอังกฤษโบราณ: พวกเขาทาสีด้านหน้าของบ้านด้วยเส้นที่สง่างาม เทรนด์แฟชั่นนี้ไม่ได้ข้าม Retna เช่นกัน จากนั้นเขาก็เริ่มสนใจภาษาตะวันออก และตั้งแต่นั้นมาเขาก็ได้สร้างจิตรกรรมฝาผนังด้วยการผสมผสานระหว่างภาษาอาหรับ ฮิบรู เปอร์เซีย ยิว และอื่นๆ

ในงานชิ้นเดียว เขาสามารถผสมผสานวัฒนธรรมที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง รวบรวมภาพรวมจากภาษา ราวกับจากชิ้นส่วนของปริศนา

“ฉันกำลังพยายามทำให้ข้อความของฉันเป็นสากลเพื่อให้ผู้คนจากวัฒนธรรมที่แตกต่างกันสามารถพบความคล้ายคลึงกันในนั้น พวกเขาอ่านได้หรืออ่านไม่ได้”เขาพูดในการให้สัมภาษณ์

Retna ชอบวาดด้วยแปรงแบนๆ โดยเฉพาะเส้นและส่วนโค้ง เขาชอบทำงานด้วยจังหวะของมันช่วยในการวาดตัวอักษร

ศิลปินคนนี้สามารถวาดได้ไม่เพียงแค่บนผืนผ้าใบและผนังเท่านั้น แต่พู่กันของเขายังข้ามด้านข้างของเครื่องบินทหาร Douglas DS-3! งานนี้มีชื่อว่า "Warning Shot" และเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Boneyard ในสุสานของเครื่องบินทหารที่ปลดประจำการในทะเลทรายแอริโซนา

Retna เปลี่ยนจากคนธรรมดาจากท้องถนนไปเป็นนักออกแบบแฟชั่นที่ชื่นชอบอย่างรวดเร็ว ครั้งแรกที่เขามีส่วนร่วมในการพัฒนาการออกแบบผ้าพันคอที่เป็นเอกลักษณ์สำหรับคอลเล็กชั่น Louis Vuitton งานศิลปะชิ้นนี้ประกอบด้วยผ้าไหมและผ้าขนสัตว์ชนิดหนึ่งและถูกเรียกว่า "Stole of the Manuscripts" จากนั้นเขาก็สร้างรองเท้าผ้าใบสีดำและสีขาวสำหรับ บริษัท Supra ซึ่งเต็มไปด้วยตัวอักษรที่เป็นที่รู้จัก

เป็นที่น่าสนใจที่ศิลปินใช้นามแฝงของเขาอย่างเต็มที่: ผลงานของเขาเป็นเหมือนแสงจ้าที่แผดเผาดวงตาของผู้ชม เป็นไปไม่ได้เลยที่จะผ่านไปหรือนิ่งเฉย คุณต้องการแก้ภาพวาดของเขาเหมือนปริศนา หรือสนุกกับมันเหมือนเสียงภาษาโบราณ ในยุคที่ดูเหมือนว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะทำสิ่งใหม่ ๆ อีกต่อไปและทำให้ผู้ชมประหลาดใจคือภารกิจจากหมวด "เป็นไปไม่ได้" Retna พิสูจน์ให้เห็นว่าศิลปะบนท้องถนนไม่เพียง รูปที่สวยงามแต่ยังเป็นข้อความที่มีความหมายลึกซึ้งที่สุด

เราได้พูดคุยกันแล้วว่าศิลปะบำบัดคืออะไร วันนี้เราไปต่อที่ทฤษฎีและการปฏิบัติของศิลปะบำบัด โดยศึกษาลักษณะการใช้งานของศิลปะบำบัดสำหรับตัวเราเองและลูกๆ ของเรา ครั้งล่าสุดที่เรารื้อ วันนี้กำลังรอของใหม่

อย่างแรก คู่รัก ข้อเท็จจริงทั่วไป. โดยพื้นฐานแล้ว จิตแพทย์และนักจิตวิทยาเห็นพ้องต้องกันว่าคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ทุกคน "ออกจากโลกนี้เพียงเล็กน้อย" ไม่มีอะไรน่ารังเกียจในเรื่องนี้ความสามารถของเราไม่ได้พัฒนาพร้อมกันสำหรับผู้ที่มีความเด่นชัด ความคิดสร้างสรรค์ด้านอื่นๆ อาจประสบปัญหา "ขาดแคลน" การรับรู้มักจะเดินกะเผลก ทักษะในการสื่อสาร ฉันคิดว่าเราจำได้จากโรงเรียนว่ามีคนที่มีความคิดทางคณิตศาสตร์และการตัดสินเชิงวิเคราะห์และประเมินเกี่ยวกับโลกและมีคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ที่มีการรับรู้ทางอารมณ์และความเห็นอกเห็นใจ สำหรับคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ ผลิตภัณฑ์จาก "โลกภายใน" ของพวกเขาเป็นวิธีหนึ่งในการแสดงออกและตอบสนองต่อโลกนี้ โต้ตอบกับมัน ภาพวาด หนังสือ ประติมากรรมของพวกเขาคือวิสัยทัศน์และปฏิกิริยาต่อทุกสิ่งที่เกิดขึ้น วิธีการสื่อสาร การชดเชยทักษะที่ขาดหายไป นี่เป็นความขัดแย้งที่น่าเศร้า แต่ในความคิดสร้างสรรค์ ฉันเห็นภาพจำนวนนับไม่ถ้วน และใน ชีวิตจริงฉันไม่เห็นถุงเท้าที่อยู่ใต้จมูกของฉัน

กฎข้อนี้ยังใช้ได้กับผู้ที่ต้องการการบำบัดด้วยไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง มีของแตกหัก ชุดพื้นฐาน. และความคิดสร้างสรรค์คืนความสมดุลให้กับพวกเขา ความคิดสร้างสรรค์เป็นวิธีการนำเสนอประสบการณ์ที่เกิดขึ้นภายใน

วันนี้เราจะไม่พูดถึงวิธีการทางการแพทย์ สมมติว่าพวกเขาไม่อยู่ในกลุ่มที่แนะนำสำหรับการรักษาทางคลินิก แต่พวกเขาทำงานได้ดีกับงานของพวกเขา และที่สำคัญที่สุด คุณสามารถทำเช่นนี้ได้ในตอนเย็นและแม้กระทั่งกับเด็ก ๆ !

"วิธีการเขียน". การประดิษฐ์ตัวอักษรตะวันออก

ใครติดตามสิ่งพิมพ์ของฉันแล้วในบทความที่แล้วฉันพูดถึงมัน ศิลปะการประดิษฐ์ตัวอักษรญี่ปุ่น "โชโดะ" เป็นปรัชญาทั้งหมด โดยมีจุดประสงค์คือการค้นหาความสามัคคี ความจริง และความหมายของชีวิต การเขียนพู่กันปรากฏในญี่ปุ่นในศตวรรษที่ 7 บนพื้นฐานของสไตล์จีน นักอักษรวิจิตรชาวญี่ปุ่นได้สร้างรูปแบบใหม่หลายรูปแบบที่เรียบง่ายและได้อารมณ์มากขึ้น ทุกอย่างมีสัญลักษณ์ของมัน - แผ่นสีขาว อักษรอียิปต์โบราณสีดำ ทุกเส้นประและทุกเส้นจะฝึกคนให้มองเห็น รู้สึก และสร้างความสมดุลและความกลมกลืน การประดิษฐ์ตัวอักษรในพุทธศาสนานิกายเซนเป็นทั้งวิธีการทำสมาธิและการรู้จักตนเอง เชื่อกันว่า การปฏิบัตินี้กำหนดวิสัยทัศน์ของโลกและจังหวะภายในใหม่ สงบจิตใจและอารมณ์ความรู้สึกสมดุลปรากฏขึ้น สัญลักษณ์มหึมาตลอด

"เครื่องมือ" หลักสี่อย่างของปรมาจารย์ด้านการประดิษฐ์ตัวอักษร - แปรง, หมึก, หมึกพิมพ์, กระดาษ - เรียกว่า "สมบัติทั้งสี่ของการศึกษา" ในการเขียนตัวอักษรญี่ปุ่น ลำดับการวาดเส้นมีความสำคัญมาก ตามกฎแล้ว หลักการพื้นฐานคือซ้ายไปขวา บนลงล่าง มือจับ ท่าทาง และตำแหน่งของมือที่ถูกต้องมาก

บางทีในขั้นตอนนี้คุณเข้าสู่ฮัมเพลงและเห็นว่ามีชั้นเรียนปริญญาโทในการประดิษฐ์ตัวอักษรจีน, การประดิษฐ์ตัวอักษรญี่ปุ่น ... และเงยหน้าขึ้นถาม - จะ "รักษาจิตวิญญาณ" ได้ที่ไหน? เราจึงไม่มีการประชุมสัมมนาของชาวตะวันออก… มีความเห็นว่า “ในการประดิษฐ์ตัวอักษรจีน สิ่งสำคัญคือพลังงาน กำลังภายในแปรง... บทบาทนำในที่นี้เล่นโดยการสัมผัสที่ละเอียดอ่อนด้วยแปรงกระดาษ... ในการประดิษฐ์ตัวอักษรญี่ปุ่น พลังภายนอกของการแปรงจังหวะมีความสำคัญอย่างยิ่ง ในภาษาของมัน สิ่งสำคัญคือไม่สัมผัส ไม่เจาะ แต่ท่าทางเต้น แต่ตอนนี้เรากำลังพูดถึงการบำบัดด้วยการประดิษฐ์ตัวอักษร ดังนั้น หากหัวข้อนี้ทำให้คุณสนใจ แต่คุณไม่ชอบอักษรอียิปต์โบราณ คุณสามารถไปเรียนหลักสูตรภาษาเปอร์เซียและภาษาอาหรับได้ คุณจะประหลาดใจที่ "dot hooks" เหล่านี้มีประวัติศาสตร์อันเก่าแก่และสัญลักษณ์มากมาย นอกจากนี้ "การเขียนด้วยลายมือ" ของชื่อในภาษาของเราก็เป็นหนึ่งในวิธีปฏิบัติเช่นกัน! พบกับคำกล่าวที่ใช้สำหรับผู้ประสบภัย ความรุนแรงภายในเพื่อให้ผู้หญิงได้ค้นพบตัวเองอีกครั้ง วิธีการเลือกหนึ่งที่เหมาะสม? ง่ายมาก - ดูตัวอย่างและสัญชาตญาณกรีดร้อง - "ฉันต้องการ!"

ฉันเสนอลิงค์ไปยังสถาบันการศึกษาที่คุณสามารถฝึกฝน "วิธีการเขียน" แน่นอน! คุณสามารถลองใช้ไอเดียนี้ที่บ้านได้เสมอด้วยปากกาสักหลาด!

• http://shid.com.ua/ - โรงเรียนภาษาตะวันออก คุณจะพบตะขอเปอร์เซียและไม้จีน!
• http://zhengongfu.org/ - สมาคมประเพณีและวัฒนธรรมของจีน
• http://myzen.com.ua/ru/ - แนวปฏิบัติแบบตะวันออกต่างๆ
• http://uajc.kpi.ua/ - ศูนย์ภาษายูเครน-ญี่ปุ่น
• http://sunculture.org/yaponskaya-kalligrafiya.html - ศูนย์วัฒนธรรมญี่ปุ่น

ซามูไรขึ้นมา คุณชอบ แต่เด็กคนนั้นล่ะ? หากลูกของคุณซึ่งอยู่ห่างไกลจากตัวเล็กๆ รักอนิเมะและทุกประเภท ศิลปะการต่อสู้- จากนั้นคุณสามารถแนะนำให้เขาพัฒนาความยืดหยุ่นในการคิดและการต่อต้านความเครียดด้วยวิธีนี้

แมนดาโลเทอราพี

คุณสามารถเขียนเกี่ยวกับ mandalotherapy ได้มากมายเป็นเวลานาน มันดาลาเป็นภาพหรือการออกแบบแผนผังอันศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้ในการปฏิบัติทางศาสนาพุทธและฮินดู เธอครอบครอง พลังอันทรงพลังและก้าวแรกคือยอมรับมัน คุณสมบัติลึกลับ. แนวคิดก็คือมันดาลาเป็นเหมือนแบบจำลองของจักรวาลอย่างที่เป็นอยู่ และโดยการสร้างมันขึ้นมา คุณปล่อยให้ลำธารของจักรวาลไหลผ่านคุณไป ซึ่งจะทำให้สถานะของคุณกลมกลืนกัน การแปลตามตัวอักษรของ "มันดาลา" จากภาษาสันสกฤตเป็นสาระสำคัญของทุกสิ่ง สำหรับบางภูมิภาคของอินเดีย มันดาลาเป็นเหมือนคำอธิษฐานหรือคำอวยพรที่เยือกเย็น สำหรับชาวพุทธ มันคือจักรวาลของจักรวาล หนึ่งในพิธีกรรมหลักของพระสงฆ์คือการสร้างมันดาลาทราย - วันที่ยาวนานพวกเขาเทสัญลักษณ์ที่เข้ารหัสของศาสนาของพวกเขาออกจากทรายแล้วทำลายพวกเขา! นี่เป็นสัญลักษณ์ที่ต้องยอมรับความเน่าเปื่อยของการเป็น ยึดมั่นในสิ่งใดๆ ไม่มี "สิ่งของ" และ ปัญหาที่ห่างไกล. "บิดาผู้ก่อตั้ง" อีกคนหนึ่งของจิตวิเคราะห์ Carl Jung เขียนเกี่ยวกับ mandolotherapy Jung ถือว่าเป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเปลี่ยนแปลงภายในบนเส้นทางสู่การตระหนักรู้ในตนเอง อย่างไรก็ตาม เขาสังเกตเห็นว่าในช่วงชีวิตที่ยากลำบาก จิตไร้สำนึกของเรามักจะกระตุ้นให้เราวาดบางอย่างที่คล้ายกับแมนดาลา มีเพียงเล็กน้อยจาก "ทฤษฎีสัญชาตญาณ" และจากการเชื่อมโยงที่ยิ่งใหญ่ของพิภพเล็ก ๆ ภายในกับจักรวาล โอเค แล้วการฝึกล่ะ? ฉันจะถือว่าคุณจะไม่เททรายสีแมนดาลาลงบนระเบียง ที่ง่ายที่สุดคือ ... แมนดาลาระบายสีต่อต้านความเครียดตามปกติ หาซื้อได้ตามร้านหนังสือหรือพิมพ์ฟรี 1-2 แผ่น สร้างตัวเองให้เป็นหนังสือเสียงหรือภาพยนตร์

หรือการทดลองสอนที่บ้าน อะไรจะส่งผลดีต่อระบบประสาทของเด็ก - ระบายสีแมนดาลาหรือม้า? มันง่ายเกินไปสำหรับคุณหรือไม่? แต่ความคิดของพระภิกษุล่ะ? ..

วิธี "บ้าน" ที่ดีที่สุดคือการทอผ้ามันดาลา ทรัพยากรอันทรงพลังสำหรับการทำให้พายุภายในสงบลง ตกแต่งผนังเพิ่มเติมและ " ของขวัญที่เป็นสัญลักษณ์". ใช่แล้ว ผู้หญิงของเราจะไม่ทำลายสิ่งที่สร้างมา

ต่อไปนี้เป็นไดอะแกรมและเคล็ดลับสองสามข้อสำหรับคุณ สำหรับมันดาลาขนาดเล็ก แท่งทำอาหารสำหรับเคบับขนาดเล็กนั้นสะดวกมาก

แท่ง ขนาดใหญ่ขึ้นยอดเยี่ยมในร้านค้าฮาร์ดแวร์หรือสวน ดูดีที่สุดแน่นอน ด้ายทำด้วยผ้าขนสัตว์แต่แมนดาลาเป็นของคุณและมันขึ้นอยู่กับคุณแล้วที่จะตัดสินใจว่าจะคลี่เสื้อที่สวมอยู่หรือใช้ไหมขัดฟัน อย่างสูง รายละเอียดที่สำคัญ- สี ประการแรก สิ่งเหล่านี้ต้องสะท้อนอยู่ในจิตวิญญาณของคุณ และประการที่สอง คุณสามารถ "ประสาน" จักรวาลกับจักรวาลเพิ่มเติมโดยเฉพาะได้ ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม - เราสานสีแดงเพื่อความรัก สีเหลืองเพื่อความสุข ตามที่ฉันเขียนไว้ข้างต้น ในบางภูมิภาค แนวคิดเกี่ยวกับจักรวาลเปรียบได้กับ "คำอธิษฐานที่เยือกเย็น" ฉันคิดว่าการสร้าง "พร" และ "พิภพเล็ก ๆ ที่กลมกลืนกัน" ของคุณเองนั้นมีประโยชน์

ขอบคุณที่ให้ความสนใจ จนกว่าเราจะได้พบกันอีก ฉันตั้งใจจะฝึกคุณใน "โฮมอาร์ตบำบัด" ดังนั้นตามฉันมา

สวัสดีผู้อ่านบล็อกที่รัก ""!

อีกหัวข้อหนึ่งของการวิจัยของฉันคือ การประดิษฐ์ตัวอักษร ในอีกด้านหนึ่ง นี่เป็นความต่อเนื่องของธีม "" แต่ถ้าวิชากราฟิคเกี่ยวกับการเขียนด้วยลายมือตามธรรมชาติและติดเป็นนิสัยของเรา การประดิษฐ์ตัวอักษรก็เป็นศิลปะของการเขียนอยู่แล้ว

วิธีการหลักที่เราจะใช้ในการศึกษาคือ การอ่านแบบย่อ ซึ่งสามารถอ่านได้ในหนังสือของฉัน ""

สาระสำคัญของวิธีการ:การสร้างข้อมูลซ้ำซ้อนจาก แหล่งต่างๆ. หนังสือและข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตจะทำหน้าที่เป็นแหล่งข้อมูล นอกจากนี้ เราจัดโครงสร้างข้อมูลนี้ เน้นช่วงที่สำคัญที่สุด ค้นหาหนังสือพื้นฐาน และศึกษาอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น

ผลลัพธ์ - เราได้แนวคิดทั่วไปของตัวแบบโดยพิจารณาจากมุมต่างๆ อย่างเป็นระบบ

สมาคมกับการประดิษฐ์ตัวอักษร

สิ่งแรกที่นึกถึงเมื่อเราได้ยินคำว่า "คัดลายมือ" คืออะไร?

ฉันจะไม่เข้าใจผิดว่ามันจะเป็นอักษรอียิปต์โบราณที่เขียนด้วยพู่กันโดยปรมาจารย์ชาวจีนหรือญี่ปุ่น

บางอย่างเช่นนี้:

“มาดื่มชากัน”ปรมาจารย์โซงิ ฮาซามะ (2469-2537)

หรือการประดิษฐ์ตัวอักษร

บางทีตัวเอกของเรื่อง N.V. ก็เขียนได้สวยงามเช่นกัน "เสื้อคลุม" ของ Gogol Bashmachkin Akaki Akakievich ซึ่งรับใช้ตลอดชีวิตของเขาในฐานะผู้คัดลอกเอกสาร "ในแผนกเดียว"

บางคนจะจำคำจารึกบนไปรษณียบัตร:

สำหรับบางคน ฟอนต์อักษรวิจิตรจะเป็นตัวพิมพ์ใหญ่ เช่น ในเทพนิยาย:

การประดิษฐ์ตัวอักษรคืออะไร?

นิรุกติศาสตร์ของคำ

การประดิษฐ์ตัวอักษร - ลายมือที่สวยงาม (มาจากคำภาษากรีก kallos "ความงาม" - กราฟ "การเขียน")

การประดิษฐ์ตัวอักษรมักถูกเรียกว่าศิลปะ การเขียนที่สวยงาม. นอกจากนี้ยังมีคำจำกัดความ - การประดิษฐ์ตัวอักษรเป็นศิลปะในการวาดภาพคำ

บทกวีเพิ่มเติม: การเขียนพู่กันคือดนตรี ไม่ได้พูดกับหูแต่ต้องตา "(V.V. Lazursky)

การประดิษฐ์ตัวอักษรเป็นการผสมผสานระหว่างการวาดภาพและการเขียน ต้องขอบคุณการประดิษฐ์ตัวอักษร จดหมายจึงแสดงภาพกราฟิกที่สื่อถึงอารมณ์ได้อย่างชัดเจน

ความเข้าใจในศิลปะการประดิษฐ์ตัวอักษรเอง การเข้าใจแก่นแท้ของกระบวนการนั้นเป็นไปได้ผ่านการฝึกฝนเท่านั้น

ประเภทของการประดิษฐ์ตัวอักษร

การประดิษฐ์ตัวอักษรมีสามประเภทหลัก:

โรมันหรือตะวันตก

อาหรับ

จีนหรือตะวันออก

ประวัติการประดิษฐ์ตัวอักษร

ประวัติการประดิษฐ์ตัวอักษรคือประวัติศาสตร์ของ เครื่องมือเขียน,นี้และประวัติศาสตร์ วิวัฒนาการของศิลปะ.

เครื่องมือในการเขียนได้แก่: reed pen-kalam ในสมัยโบราณ ท่ามกลางผู้คนในยุคกลางตะวันออก ขนนกในยุโรปจนถึงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 19; แปรงในประเทศตะวันออกไกล

แม้แต่ในวัฒนธรรมดั้งเดิม ข้อมูลถูกส่งในรูปแบบของรูปภาพ ไม่ใช่ตัวอักษร ในอนาคต ภาพวาดดังกล่าวจะเปลี่ยนเป็นระดับของสัญญาณที่แสดงถึงวัตถุที่ระบุในรูป

ชาวจีนได้กลายเป็นสัญญาณดังกล่าว อักษรอียิปต์โบราณ ชาวจีนได้นำศิลปะการเขียนสัญลักษณ์เหล่านี้มาสู่ความสมบูรณ์แบบ

จากประเทศจีน การประดิษฐ์ตัวอักษรมาถึงญี่ปุ่น (นี่คือที่ไหนสักแห่งในช่วงศตวรรษที่ 5 - ช่วงเวลาต้นกำเนิดของการประดิษฐ์ตัวอักษรในญี่ปุ่นนั้นไม่ชัดเจนนัก) ต่อมาชาวญี่ปุ่นได้ดัดแปลงตัวอักษรจีนเป็นภาษาแม่

ในประเทศจีนและญี่ปุ่น การประดิษฐ์ตัวอักษรเป็นของวิจิตรศิลป์ ซึ่งรวมถึงบทกวีและภาพวาด

ในสมัยโบราณ เป็นไปได้ที่จะได้รับตำแหน่งอันสูงส่งก็ต่อเมื่อสอบผ่านในพระราชวังได้สำเร็จเท่านั้น และการประดิษฐ์ตัวอักษรเป็นหนึ่งในเงื่อนไขหลักสำหรับความสำเร็จ พร้อมด้วยความรู้เกี่ยวกับบทความตามบัญญัติบัญญัติเกี่ยวกับปรัชญา

เรื่องราว การประดิษฐ์ตัวอักษรยุโรป เริ่มต้นด้วยคิวนิฟอร์มสุเมเรียน (4 สหัสวรรษก่อนคริสต์ศักราช) จากนั้นควรกล่าวถึงการเขียนอักษรอียิปต์โบราณซึ่งมีขึ้นตั้งแต่ 4 สหัสวรรษก่อนคริสต์ศักราช อี

นอกจากนี้ อักษรตัวใหญ่กรีก (ศตวรรษที่ III ก่อนคริสต์ศักราช) อักษรตัวใหญ่ของโรมัน (ศตวรรษที่ IV) การเขียน Uncial (ศตวรรษที่ IV-VIII), การเขียนกึ่ง Uncial (ศตวรรษ VI-IX), โกธิค, พื้นผิว (ศตวรรษที่ XI-XV), หอก, การเขียนภาษาสวาเบียน (ศตวรรษที่ XV)

แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะอธิบายประวัติศาสตร์การประดิษฐ์ตัวอักษรในบทความเดียว ดังนั้นฉันจึงแนะนำผู้อ่านถึงหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนั้น พวกเราจะพูดต่ำกว่าเล็กน้อย

ให้ฉันบอกว่าจนถึงปี ค.ศ. 1440 เมื่อมีการประดิษฐ์แท่นพิมพ์ การประดิษฐ์ตัวอักษรเป็นวิธีเดียวที่จะสร้างหนังสือและสิ่งพิมพ์อื่นๆ หนังสือแต่ละเล่มคัดลอกด้วยมือโดยอาลักษณ์ วัสดุเป็นกระดาษ parchment หรือกระดาษลอกลาย และพวกเขาเขียนด้วยปากกาและหมึกของนก

Johannes Gutenberg เลือกสไตล์กอธิคสำหรับเครื่องพิมพ์ดีดของเขา มันกลายเป็นประเภทแรกในการพิมพ์

ตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 บทบาทนำในการเขียนพู่กันของยุโรปได้ส่งต่อไปยังช่างแกะสลัก ตลอดจนนักเขียนและศิลปิน วิชาการพิมพ์ได้จำกัดขอบเขตของการประดิษฐ์ตัวอักษรอย่างมาก

ด้วยการแพร่กระจายของการพิมพ์ตัวอักษร การพิมพ์ดีด และการพิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์ การประดิษฐ์ตัวอักษรจึงสูญเสียคุณค่าที่ใช้ดั้งเดิมไป และปัจจุบันถูกมองว่าเป็นปรากฏการณ์ทางสุนทรียะเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม ยังคงเป็นพื้นฐานสำหรับการพัฒนาแบบอักษร

หนังสือแบบอักษรยุโรปเล่มแรก

ผู้เขียนหนังสือที่พิมพ์ครั้งแรกของการออกแบบตัวอักษรคือ โยฮันน์ นอยเดอร์เฟอร์อาวุโส (1497 - 1563) งานที่สำคัญที่สุดของเขาควรได้รับการพิจารณาเป็นหนังสือ "Anweysung einer gemeinen hanndschrift" ที่ตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 1538 ( สอนเขียนธรรมดา). Neuderfer วางรากฐานสำหรับการพิมพ์ศิลปะในเยอรมนีในศตวรรษที่ 16 และชี้ทิศทางของการพัฒนา

หนังสือตัวอย่างแบบอักษรที่มีชื่อเสียง "A Booke Containing Divers Sortes of Hands" (" หนังสือที่มี ประเภทต่างๆแบบอักษร”) ถูกตีพิมพ์โดยผู้เขียนสองคน - I.Boshezn และ I.Beldonในลอนดอน สันนิษฐานว่าในปี ค.ศ. 1571

หนังสือภาษาฝรั่งเศสเล่มแรกคือผลงาน ฌาค เดอ ลา รู“แบบอย่างเดอ plusiers…” (“ (“” หลายตัวอย่าง....") ตีพิมพ์ในปารีสเมื่อปี ค.ศ. 1569

ลีโอนาร์ด แวกเนอร์(1454 - 1522) ซึ่งในปี ค.ศ. 1507 ในเอาก์สบูร์กได้ตีพิมพ์หนังสือต้นฉบับ LProba centum scriturarum ( ตัวอย่างร้อยตัวอักษร).

หนึ่งศตวรรษต่อมา ชื่อที่โด่งดังที่สุดคือ ยาน ฟาน เดน เวลเดซึ่งหนังสือ "Speeghel der Schrijfkonste" (" กระจกอักษรศิลป์”) ตีพิมพ์ในร็อตเตอร์ดัมในปี 1605

หนังสือ จอร์จ เชลลีย์"การเขียนอย่างเป็นธรรมชาติ" (" แบบอักษรธรรมชาติ”) เผยแพร่ในลอนดอนในปี ค.ศ. 1709-1714

จอร์จ บิกแฮมเขียนหนังสือ "Universal Penman" (" ต้นแบบแบบอักษรสากล”) ซึ่งตีพิมพ์ในลอนดอนในปี ค.ศ. 1743

ตัวอย่างที่โดดเด่นของการประดิษฐ์ตัวอักษรยังเป็นที่รู้จักในรัสเซียโดยเริ่มจาก "ออสโตรเมียร์ กอสเปล"(คัดลอกในปี 1057 โดยมัคนายก Gregory)

การประดิษฐ์ตัวอักษรในปัจจุบัน

การประดิษฐ์ตัวอักษรใน ชีวิตธรรมดาไม่มีความหมายเดิมอีกต่อไปผู้คนแทบหยุดเขียนด้วยมือ แต่อย่างไรก็ตาม งานเขียนที่สวยงามก็มีประโยชน์ใน หนังสือ โฆษณา และกราฟิกโปสเตอร์ .

ฟอนต์อักษรประดิษฐ์สมัยใหม่นั้นมีความหลากหลายอย่างไม่สิ้นสุด ความหนาแน่น ความชัน สัดส่วน ความกล้าหาญ การตกแต่งของการเปลี่ยนแปลงฟอนต์ สำหรับแต่ละวัตถุประสงค์ คุณสามารถสร้างแบบอักษรของคุณเอง ซึ่งสอดคล้องกับเนื้อหาและวัตถุประสงค์ของคำจารึก

คำถามที่เกิดขึ้น - การประดิษฐ์ตัวอักษรจำเป็นในยุคเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์หรือไม่?

นั่นคือการเซ็นโปสการ์ดด้วยมือสำหรับวันครบรอบ แบบอักษรที่พิมพ์ออกมานั้นไม่ค่อยดีสำหรับกรณีเช่นนี้ เราต้องการลายมือที่สวยงามซึ่งเลียนแบบการประดิษฐ์ตัวอักษร

แน่นอน คุณสามารถเขียนได้อย่างสวยงามด้วยความช่วยเหลือของคอมพิวเตอร์ แต่นี่ไม่ใช่ความคิดสร้างสรรค์ที่จะเปิดเผยตัวตนอีกต่อไป ท้ายที่สุด เมื่อมีคนเขียน เขาคิด ไม่เพียงแต่เกี่ยวกับส่วนเนื้อหา แต่ยังรวมถึงส่วนภายนอกที่แสดงออกถึงสิ่งที่เขียนด้วย เราสร้างสรรค์ด้วยหัวใจ จิตวิญญาณ และมือเป็นเครื่องมือของความคิดสร้างสรรค์นี้

การประดิษฐ์ตัวอักษรไม่สนใจกฎดั้งเดิมและเน้นความเป็นตัวของตัวเอง

นักปรัชญาและศิลปินชาวจีน Guo Zhuo Su เขียนเกี่ยวกับลายมือเป็นตัวบ่งชี้ถึงลักษณะนิสัยและบุคลิกลักษณะเฉพาะในศตวรรษที่ 11 ในหนังสือ Notes on Painting ของเขา

ไปรัวซู “หมายเหตุเกี่ยวกับการวาดภาพ: สิ่งที่ฉันเห็นและได้ยิน". สำนักพิมพ์: วิทยาศาสตร์. พ.ศ. 2521

การเขียนด้วยลายมือที่ราบรื่น อ่านง่าย และสวยงามมีประโยชน์ในทางปฏิบัติอย่างแท้จริง ซึ่งมีดังนี้:

- ขจัดข้อผิดพลาดและช่วยให้เข้าใจข้อความอย่างถูกต้อง

- ไม่ระคายเคืองผู้อ่าน

- สาขาวิชาที่คิดขณะเขียน

- มีประโยชน์สำหรับ การ์ดอวยพรและจารึกอุทิศ

- ให้ลายเซ็นส่วนตัวที่สวยงามและเหมือนกันเสมอ

พูดในความโปรดปรานของตัวละครของคุณ

คุณสามารถเสริมข้อโต้แย้งเพื่อสนับสนุนการเขียนด้วยลายมือที่สวยงามโดยจดจำรายการในบัตรแพทย์ที่ทำโดยเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยในหัวข้อ:แพทย์นัดหยุดงานอาคารศาลากลางและเขียนข้อเรียกร้องบนแบนเนอร์ แต่เจ้าหน้าที่ของเมืองไม่สามารถอ่านได้

อันที่จริง เดี๋ยวนี้หายากที่จะพบจดหมายที่ชัดเจน สวยงาม และอ่านง่าย และปัญหาของการเขียนด้วยลายมือก็เป็นสิ่งสำคัญที่สุดอย่างหนึ่ง ปัญหาทางการศึกษา.

แต่ก่อนหน้านี้ในรัสเซีย การเขียนด้วยลายมือที่ดีมีความสำคัญระดับชาติ ผู้จดเป็นบุคคลที่ 2 รองจากอธิปไตย

ในโรงเรียนภาษารัสเซียก่อนการปฏิวัติ มีการสอนการประดิษฐ์ตัวอักษรเป็นวิชาที่สำคัญแยกต่างหาก

การประดิษฐ์ตัวอักษรเป็นศิลปะชิ้นแรกที่นักเรียนได้เรียนรู้ การสอนเด็กให้อ่านและเขียน ในเวลาเดียวกันพวกเขาก็เริ่มฝึกการประดิษฐ์ตัวอักษร - ไม่เพียงแต่จะอำนวยความสะดวกในกระบวนการท่องจำเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการนอนด้วย พื้นฐาน รสชาติความงาม ปลุกความสามารถในการรับรู้ศิลปะ

แม้ว่าภายหลังการปฏิวัติ บทเรียนจะไม่ถูกยกเลิก แต่เปลี่ยนชื่อเท่านั้น การประดิษฐ์ตัวอักษร

เด็กนักเรียนเขียนในสมุดบันทึกที่มีเส้นเป็นพิเศษด้วยดินสอในช่วงหกเดือนแรกและด้วยปากกาเท่านั้น นั่นเป็นสาเหตุที่คนรุ่นเก่าส่วนใหญ่มีลายมือที่สวยงาม

แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมด ที่สำคัญที่สุด - จดหมายถูกฉีกออก

อย่างไรก็ตาม ในปี พ.ศ. 2511 ระหว่างการปฏิรูปโรงเรียนครั้งต่อไป การเขียนฉีกขาดถือเป็นการซ้ำซ้อน คิดว่าเด็กจะเขียนได้เร็วขึ้นมากถ้าพวกเขาไม่ฉีกปากกาออกจากกระดาษ บรรทัดพิเศษถูกยกเลิกเพื่อเป็นที่ระลึกของอดีต และปากกาลูกลื่นกลายเป็นเครื่องมือในการเขียนตั้งแต่วันแรกที่โรงเรียน

เป็นผลให้เราได้รับการเขียนลวก ๆ ของเด็ก ๆ และนอกจากนี้ยังมีที่หนีบกล้ามเนื้อ (ผลจากการเขียนอย่างต่อเนื่อง)

แม้ว่ามันจะถูกต้องกว่าที่จะสอนเด็ก ๆ ให้เขียนด้วยดินสอก่อนแล้วจึงให้ปากกาลูกลื่น

ในหลายประเทศ ในขณะที่เรียนรู้ที่จะเขียน เด็ก ๆ เขียนสมุดงานด้วยดินสอ แก้ไขให้ถูกต้องหลายครั้งเท่าที่จำเป็น และพวกเขาไม่ได้คะแนนสำหรับสิ่งนี้ และสำหรับผู้ที่สามารถเขียนได้อย่างสวยงามและไม่มีการแก้ไขพวกเขาจะให้ขนนก!

คุณภาพของงานเขียนส่วนใหญ่จะถูกกำหนดโดยเครื่องมือที่ใช้ในการเขียน ในปากกาลูกลื่น ส่วนที่เขียนคือ "จุด" แต่สำหรับการเขียนซึ่งศึกษาในบทเรียนการประดิษฐ์ตัวอักษรนั้นใช้ปากกาปลายกว้างซึ่งเมื่อเขียนจะให้ "ริบบิ้น" ที่มีความกว้างต่างๆ

เพื่อความสะดวกในการเปรียบเทียบคุณสามารถเขียน ปากกาลูกลื่นเรียกมันว่าการวิ่งธรรมดาและตัวอักษรที่มีปากกาปลายกว้าง - วิ่งไปด้านข้างหรือข้างหลังที่ซับซ้อนด้วยมุมการหมุนที่เปลี่ยนแปลงไปรอบแกนของมันเอง ดูเหมือนยากอย่างเหลือเชื่อ แต่นี่เป็นแบบฝึกหัดที่สมองและมือของเด็กทำเมื่อเขียนด้วยปากกาปลายกว้างในชั้นเรียนคัดลายมือ เขาต้องคิดไม่ใช่สองอย่าง แต่อย่างน้อยในสี่ทิศทางพร้อมกันเพื่อใช้การประสานงานและการคิดเชิงพื้นที่ของเขา ระดับสูง. สิ่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับการเขียนด้วยปากกาลูกลื่นธรรมดา

ประธานสมาพันธ์อักษรวิจิตรแห่งชาติ ปีเตอร์ โชบิทโกสอนในชั้นเรียนของเธอ:
เราถือปากกาลูกลื่นด้วยแรงกดคงที่มือและคนทั้งหมดถูกกดขี่ ต้องจับปากกาเบา ๆ "มิฉะนั้นคุณจะปิดกั้นลมหายใจการเคลื่อนไหวของร่างกาย เราทำเส้นบนการหายใจออก เรานั่งตัวตรง เราไม่เหยียบปากกา แต่มันขยับเขย่งเขย่ง

เราไม่ได้ทำงานด้วยนิ้วของเรา แต่ใช้ทั้งร่างกายของเราเหมือนคันโยก” นักคัดลายมือสั่งขณะที่เรา เช่นเดียวกับคนขับรถกาน้ำชา ค่อยๆ ขยับจากตำแหน่งของเราที่ด้านบนของจดหมายและค่อยๆ คลานด้วยปากกา

ในการประดิษฐ์ตัวอักษรมีบัญชีนี้อยู่เสมองานภายใน คุณสามารถวาดสิ่งนี้ขณะเคี้ยวแซนด์วิชและดูทีวี หากคุณใช้ปากกา คุณจะไม่สามารถทำอะไรได้ในเวลาเดียวกัน

ปากกาลูกลื่นได้ทำลายทั้งผู้คนและวัฒนธรรมอย่างมาก ที่นี่ชาวจีนและญี่ปุ่นไม่ได้ละทิ้งอักษรอียิปต์โบราณซึ่งเขียนด้วยแปรง นอกจากนี้เรายังมีการเปลี่ยนปากกาที่ไม่สมบูรณ์ - ปากกาหมึกซึม เมื่อคุณเขียนด้วยปากกา คุณเพียงแค่ต้องเขียนอย่างถูกต้องโดยหมุนแผ่น มือ หรือพื้นผิวให้ถูกวิธีสำหรับจดหมาย

เมื่อเราเขียนด้วยปากกาลูกลื่น นี่คือการเขียนแบบต่อเนื่อง: เราวางปากกาลงตามที่สอนที่โรงเรียน และเขียนโดยไม่หยุดชะงัก

ในการประดิษฐ์ตัวอักษร เราคิดถึงตัวอักษรแต่ละตัว ในแต่ละการเคลื่อนไหว แน่นอนว่ามันช้ากว่า แต่ประโยชน์มีมากกว่ามาก

แพทย์บางคนเชื่อว่าไม่มีโรคใดที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยการประดิษฐ์ตัวอักษร เมื่อเราเขียน เราเอาปากกาด้วยสามนิ้ว ปรากฎว่ามีส่วนของสมองบางส่วน

การประดิษฐ์ตัวอักษร/การประดิษฐ์ตัวอักษรพัฒนา ทักษะยนต์ปรับมือและด้วยเหตุนี้จึงพัฒนาความสามารถทางจิตเนื่องจากการปกคลุมด้วยเส้นของกล้ามเนื้อมือครอบครองพื้นที่ขนาดใหญ่มาก (~ 1/3) ในเปลือกสมอง

การฝึกเขียนพู่กัน

ก่อนที่จะไปทบทวนหนังสือเกี่ยวกับการประดิษฐ์ตัวอักษร ฉันจะให้ลิงก์สองสามลิงก์ไปยังไซต์ที่คุณสามารถเรียนรู้ศิลปะนี้ได้

School of Calligraphy ก่อตั้งโดย Petr Petrovich Chobitko ในปี 2548 ที่ St. อ. สติกลิทซ์

3. รายวิชา "นักคัดลายมือ"ให้เวลาสามสัปดาห์ในการทำให้ลายมือเด็กสวยงามและรวดเร็วไปพร้อม ๆ กัน

4. วารสารประเภทและวิชาการพิมพ์ภาษาและเวลา ผู้คนและประเพณีภาพ

ขณะฝึกคัดลายมือ วันหนึ่งคุณจะรู้ว่าคุณได้รับความสามารถในการแสดงความรู้สึกที่ลึกล้ำในงานศิลปะนี้ แทนที่ความวุ่นวาย เสียงรบกวน และความเครียดของชีวิตสมัยใหม่ คุณจะพบกับความสงบ ความสามัคคี และความสมดุล คุณจะได้รับประโยชน์ทั้งทางร่างกายและจิตใจ

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับหนังสือ "คัดลายมือ"

ฉันจะเริ่มต้นด้วยหนังสือพื้นฐานเกี่ยวกับการประดิษฐ์ตัวอักษร จากนั้นฉันจะดูหนังสือเกี่ยวกับการประดิษฐ์ตัวอักษรตะวันออก หนังสือเกี่ยวกับแบบอักษรและการพิมพ์

ล. โปรเนนโก "การประดิษฐ์ตัวอักษรสำหรับทุกคน".ศิลปะ สำนักพิมพ์ Lebedev Studio 2013

การเขียนพู่กันสำหรับทุกคนเป็นหนังสือเกี่ยวกับศิลปะการเขียนที่สวยงาม ตามที่ตัวผู้เขียนเองเขียนว่า “การประดิษฐ์ตัวอักษรเพื่อทุกคน” เป็นความพยายามที่จะทำให้ผู้คนจำนวนมากหลงใหลในศิลปะการเขียนที่สวยงาม เพื่อช่วยให้เชี่ยวชาญในวัฒนธรรมประเภท ฝึกฝนทักษะเบื้องต้นและวิธีการทำงานที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น ผู้อ่านที่มีประวัติย่อของการประดิษฐ์ตัวอักษร”

โปรดทราบว่าหนังสือเล่มนี้จะกล่าวถึงเฉพาะการประดิษฐ์ตัวอักษรแบบตะวันตกเท่านั้น

ไอ.ที. บ็อกเดสโก. "การประดิษฐ์ตัวอักษร".สำนักพิมพ์: อัจฉรา. 2005

อิลยา โทรฟิโมวิช บ็อกเดสโก (2466-2553)- ศิลปินกราฟิกชาวรัสเซีย ศิลปินประชาชนแห่งสหภาพโซเวียต ในปี 1951 เขาสำเร็จการศึกษาจากสถาบันภาพวาด ประติมากรรม และสถาปัตยกรรมเลนินกราด เช่น. Repin ต่อมาทำงานใน Moldavian SSR

หนังสือเล่มนี้กล่าวถึงกฎการเขียนตามรูปแบบที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ของการเขียนตั้งแต่ต้นสหัสวรรษแรกจนถึงการประดิษฐ์การพิมพ์
หนังสือเล่มนี้ส่งถึงกลุ่มมือสมัครเล่นในวงกว้างเพื่อเป็นตำราสำหรับศึกษาการประดิษฐ์ตัวอักษรด้วยตนเอง

เนื้อหาเกี่ยวกับระเบียบวิธีของหนังสือเล่มนี้ทำให้สามารถพิจารณาว่าเป็น "บทช่วยสอน" ได้
ฉันยังทราบด้วยว่าหนังสือเล่มนี้เกี่ยวข้องกับการประดิษฐ์ตัวอักษรแบบตะวันตก

Cleminson R. “การประดิษฐ์ตัวอักษร. แบบอักษรที่เขียนด้วยลายมือของตะวันตกและตะวันออก 45 โครงการพร้อมคำอธิบายทีละขั้นตอน "เนื้อหา". 2008

ตามชื่อหนังสือ โครงการเหล่านี้เป็นโครงการที่มีคำอธิบายทีละขั้นตอน ตัวอย่างด้านล่างแสดงให้เห็นว่านี่เป็นคำแนะนำทีละขั้นตอนอย่างแท้จริง

“มันคือทั้งหมดที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี การประดิษฐ์ตัวอักษร".สำนักพิมพ์: Art-Rodnik. 2012

โดยให้รายละเอียดทุกแง่มุมที่คุณจำเป็นต้องรู้เมื่อเรียนรู้แต่ละสไตล์และเทคนิค ดังนั้น คุณสามารถฝึกฝนทักษะการประดิษฐ์ตัวอักษรได้อย่างอิสระโดยใช้พู่กัน ปากกา หมึก และเครื่องมืออื่นๆ

โซฟามัลคอม “การประดิษฐ์ตัวอักษรที่สร้างสรรค์ ศิลปะการเขียนที่สวยงาม». เบลแฟกซ์ (ID Union) 1998

หลักสูตรการประดิษฐ์ตัวอักษรเชิงสร้างสรรค์ที่เข้าถึงได้จริงสำหรับผู้เริ่มต้นตั้งแต่พื้นฐานจนถึงตัวอย่างขั้นสูง ทั้งสมัยใหม่และประวัติศาสตร์

หนังสือสองเล่มเกี่ยวกับศิลปะแห่งแสงสว่าง

1. เจเน็ต เมฮิเกน. “ตกแต่งข้อความอักษรวิจิตร ศิลปะแห่งการส่องสว่าง». สำนักพิมพ์: เนื้อหา. 2552

หนังสือภาพประกอบที่สมบูรณ์เกี่ยวกับศิลปะการตกแต่งต้นฉบับ - การส่องสว่าง

2. แพทริเซีย คาร์เตอร์. “การประดิษฐ์ตัวอักษรตกแต่ง แสงสว่าง".

หนังสือเล่มนี้กล่าวถึงการส่องสว่างของวัตถุต่างๆ: การ์ดอวยพร ที่คั่นหนังสือ แผ่นหนังสือ เครื่องเขียน กล่อง ที่ทับกระดาษ ฯลฯ หนังสือเล่มนี้อธิบายเทคนิคการปิดทอง ปลายแหลม และการถ่ายโอนลวดลายในกระจก

ดี. เปตรอฟสกี ประวัติศาสตร์การประดิษฐ์ตัวอักษรของรัสเซียและยุโรปตะวันตก เขียนด้วยปากกาปลายกว้าง". 2013

อัลบั้มหนังสือเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของการเกิดขึ้นและพัฒนาการของการเขียนซีริลลิกและละตินในช่วงศตวรรษสุดท้ายของยุคเก่าและ 1-2,000 ปีก่อนคริสตกาล แสดงด้วยอนุสาวรีย์ของการเขียนซีริลลิกและละติน ทฤษฎีและการปฏิบัติในการเขียนลายมือประวัติศาสตร์อักษรวิจิตรหลัก (โพชิบ) ด้วยเทคนิคปากกาปลายกว้าง (ระบุจารึกบนกระดาษกราฟ) โดยมีการวิเคราะห์การเขียนตัวอักษรทั้งหมดจากอักษรดั้งเดิมและดัดแปลงทางเลือกไปในทางตรงข้าม ระบบการเขียน (Cyrillization ของตัวอักษรละตินและ Latinization ของตัวอักษร Cyrillic) มีการอธิบายโดยละเอียด

เปตรอฟสกี ดิมิทรี อิลิชรองศาสตราจารย์ภาควิชากราฟิกของสถาบันการพิมพ์ทางตะวันตกเฉียงเหนือ, สมาชิกของสหภาพศิลปินแห่งรัสเซีย, สมาชิกสหภาพนักออกแบบ, สมาชิกสหภาพแรงงานคัดลายมือแห่งชาติ เป็นเวลา 25 ปีที่เธอสอนศิลปะการพิมพ์และการประดิษฐ์ตัวอักษรที่มหาวิทยาลัยศิลปะหลายแห่ง

มาร์กาเร็ต มอร์แกน. “จดหมาย สารานุกรม. การประดิษฐ์ตัวอักษรตกแต่งฤดูใบไม้ผลิศิลปะ ปี 2549

การประดิษฐ์ตัวอักษรตกแต่งเป็นศิลปะการตกแต่งหนังสือโดยเฉพาะ อักษรพิมพ์ใหญ่, อักษรเริ่มต้นที่เรียกว่า. ศิลปะเป็นเรื่องธรรมดาในอารามในช่วงยุคกลางในยุโรป

Drop Caps เป็นหนึ่งในหนังสือที่ดีที่สุดในการประดิษฐ์ตัวอักษร ภาพสีมากมาย ทุกอย่างชัดเจนและเข้าใจได้ ให้แนวคิดคร่าวๆ เกี่ยวกับโครงสร้างของจดหมายตลอดจนวิวัฒนาการ

หนังสือเล่มนี้มีคำแนะนำโดยละเอียดเกี่ยวกับการสร้างหมวกหล่นและฟอนต์สำหรับตกแต่งในสไตล์ประวัติศาสตร์ 6 แบบ ได้แก่ เซลติก โกธิก และโรมาเนสก์

โชบิทโก้ พี.พี. “ตัวอักษรของงานเขียนรัสเซียโบราณ กฎบัตร, กึ่งเหนื่อย, เล่นหาง, มัดสำนักพิมพ์: St. Basil the Great Gymnasium. 2008

ตัวอักษรถูกเรียกว่าสมุดลอกแบบที่ลืมไปนานสำหรับการศึกษา ประเภทต่างๆงานเขียนรัสเซียโบราณซึ่งใช้ในรัสเซียจนถึงปลายศตวรรษที่สิบเจ็ด

หลังจากที่ปีเตอร์ฉันอนุมัติประเภทพลเรือนในที่สุดในปี 1710 การเขียนในรัสเซียก็เริ่มได้รับการสอนตามแบบจำลองและวิธีการของตะวันตกเป็นหลัก

เริ่มตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 แทบไม่มีการตีพิมพ์คู่มือเกี่ยวกับการเขียนภาษารัสเซียโบราณในรัสเซีย เมื่อเวลาผ่านไป กฎและหลักการเขียนจดหมายรัสเซียเก่าด้วยปากกาปลายกว้างก็หายไป

"หนังสือเอบีซี"เป็นคู่มือเกี่ยวกับพื้นฐานการเขียนภาษารัสเซียโบราณ แนะนำ เวิร์คช็อปเกี่ยวกับการศึกษารูปแบบหลัก - กฎบัตรและกึ่งเช่าเหมาลำ ผู้เขียนได้พัฒนาวิธีการเขียนจดหมายทางกฎหมายและกึ่งกฎหมายอย่างเป็นระบบ ซึ่งไม่ละเมิดรากฐานของพวกเขา และไม่เพียงแต่อำนวยความสะดวกในกระบวนการเขียนเท่านั้น แต่ยังมีส่วนช่วยในการศึกษาและทำความเข้าใจตัวอย่างทางประวัติศาสตร์ การคัดลอกที่มีความหมายของพวกเขา

ไอริน่า ปาตาโฮว่า "ความสวยงามเรียบง่ายของตัวอักษร".สำนักพิมพ์: รัสเซียกราฟิก. 1997

หนังสือเล่มนี้ซึ่งอุทิศให้กับประวัติศาสตร์ของการพิมพ์เผยให้เห็นถึงความลับของการออกแบบที่สมบูรณ์แบบความกลมกลืนและความงามของตัวอักษรพิมพ์ปกติอย่างสม่ำเสมอและครบถ้วนแก่ผู้อ่าน

ผู้อ่านจะเข้าใจถึงความเชื่อมโยงทางประวัติศาสตร์และวิธีการของการเกิดขึ้นของรูปแบบใหม่ ความต่อเนื่อง และคุณค่าที่แท้จริง

เวร่า เบโลเซโรวา "ศิลปะการเขียนพู่กันจีน".สำนักพิมพ์: สถาบันวัฒนธรรมตะวันออกและสมัยโบราณ RGGU 2550

งานสรุปทั่วไปครั้งแรกในวรรณคดีรัสเซียซึ่งถือว่าประเพณีการประดิษฐ์ตัวอักษรจีนเป็นปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์และครบถ้วน

ขั้นตอนหลักของการพัฒนาการประดิษฐ์ตัวอักษรในประวัติศาสตร์สี่พันปีรวมถึงศตวรรษที่ 20 ได้รับการเน้น เป็นตัวแทน ข้อกำหนดทางเทคนิคลักษณะทางศิลปะและหลักสุนทรียภาพของศิลปะอักษรวิจิตร มีการศึกษางานของอาจารย์ที่โดดเด่นด้านการประดิษฐ์ตัวอักษร ความสม่ำเสมอของวิวัฒนาการของประเพณีการประดิษฐ์ตัวอักษรถูกเปิดเผย

ภาคผนวกประกอบด้วยการแปลบทความและเครื่องมืออ้างอิงเฉพาะทาง

Rebecca Y. "การประดิษฐ์ตัวอักษรจีนเป็นเรื่องง่าย!".สำนักพิมพ์: AST, Astrel, Harvest, Kladez 2010

จากผู้จัดพิมพ์: หนังสือเล่มนี้ประกอบด้วยบทเรียนต่างๆ ในขณะที่คุณศึกษา ระบบที่สอดคล้องกันจะก่อตัวขึ้นในใจของคุณ คุณจะได้เรียนรู้จังหวะตามลำดับ โดยย้ายจากง่ายที่สุดไปซับซ้อนมากขึ้น ทุกครั้งที่ศึกษาจังหวะใหม่ คุณสามารถเขียนอักษรอียิปต์โบราณทั้งหมดได้ทันที และในตอนท้ายคุณสามารถสร้างวลีได้แล้ว

ฉูเล่ยเล่ย. "ศิลปะการเขียนพู่กันจีน".สำนักพิมพ์: นิโอล่า. 2550

วัตถุประสงค์ของเอกสารฉบับนี้คือเพื่อช่วยให้ทุกคนที่ต้องการฝึกฝนเทคนิคการเขียนภาษาจีนที่ซับซ้อนและรูปแบบต่างๆ คุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับ "ขุมทรัพย์สี่ประการ" ของการประดิษฐ์ตัวอักษรจีน: กระดาษ หมึก หมึกและพู่กัน เรียนรู้วิธีเลือกและจัดเก็บอย่างถูกต้อง และที่สำคัญที่สุดคือ เรียนรู้พื้นฐานของอักษรอียิปต์โบราณ

Sokolov V.V. "ความลับของตัวอักษรจีน".นักเขียนสมัยใหม่ 2552

ส่วนที่เป็นภาพประกอบของสิ่งพิมพ์ประกอบด้วยรูปภาพของแป้นต่างๆ ที่ระบุความหมายและการทับศัพท์ของชื่อ คุณลักษณะของส่วนประกอบและ การเปลี่ยนแปลงทางวิวัฒนาการรวมถึงตัวอย่างการใช้คีย์เมื่อสร้างอักษรอียิปต์โบราณอื่นๆ ฉบับภาพประกอบอันสมบูรณ์นี้อธิบายโดยย่อเกี่ยวกับที่มา ประวัติศาสตร์ และนิรุกติศาสตร์ของอักขระหลัก (คีย์) 214 ตัวของภาษาจีน

Storozhuk A.G. "ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอักษรจีน".สำนักพิมพ์: คาโร. 2010

หนังสือสี่เล่มที่มีชื่อเดียวกันแต่ผู้แต่งต่างกัน

1. V. Sokolov "อักษรจีน".สำนักพิมพ์: เก็บเกี่ยว. ปี 2549

หนังสือเล่มนี้อธิบายสั้น ๆ เกี่ยวกับที่มา ประวัติศาสตร์ และนิรุกติศาสตร์ของอักขระหลัก (คีย์) 214 ตัวของภาษาจีน ในส่วนภาพประกอบของร้านหนังสือและอาคาร รูปภาพของกุญแจจะแสดงความหมายและการทับศัพท์ของชื่อ ลักษณะส่วนประกอบและการเปลี่ยนแปลงทางวิวัฒนาการ ตลอดจนตัวอย่างการใช้กุญแจเมื่อสร้างอักษรอียิปต์โบราณอื่นๆ

2. Harevsky S.V. "อักษรจีน".

หนังสือเล่มเล็กเล่มนี้อธิบายว่าคุณสามารถเข้าร่วมศิลปะการเขียนตัวอักษรจีนได้อย่างไร

3. ยัต-หมิง เคธี่ โฮ “อักษรจีน. สารานุกรม".สำนักพิมพ์: อาร์ตสปริง. 2552

หนังสือเล่มนี้มีอักษรอียิปต์โบราณมากกว่าสามร้อยตัว รวมกันเป็นหัวข้อต่างๆ - ตัวเลข วันในสัปดาห์ ฤดูกาล ดวงชะตา ขอแสดงความยินดี วันหยุด ความรัก ฯลฯ อักษรอียิปต์โบราณแต่ละอันมีคำอธิบายโดยละเอียดเกี่ยวกับความหมายและภาพประกอบของหนังสือ การวาดภาพ.

4. คูลี่. "อักษรจีน".สำนักพิมพ์: ART-RODNIK, 2010

ห้ารูปแบบหลัก - จากการเขียนภาพแรกสุดถึง ลายมือสวย zhuan, han, กฎหมายและตัวสะกด - ถูกนำเสนอในรายละเอียดที่ดี

ภาพประกอบที่น่ารื่นรมย์มาพร้อมกับแต่ละขั้นตอนของการเรียนรู้การประดิษฐ์ตัวอักษร ในตอนท้ายคุณเองจะสามารถเขียนอักษรอียิปต์โบราณได้อย่างอิสระ

คุณจะสามารถนำความรู้ที่ได้รับจากหนังสือเล่มนี้ไปปฏิบัติจริงในกระบวนการทำงาน 15 โครงการ ซึ่งแต่ละโครงการจะเป็นของขวัญหรือสิ่งของที่ยอดเยี่ยมสำหรับการตกแต่งบ้านของคุณ

"จิตรกรรมและการเขียนพู่กันจีน".สำนักพิมพ์: Wen Wu / Wen Wu. 2004

อัลบั้มภาพประกอบนำเสนอภาพรวมของภาพวาดและการประดิษฐ์ตัวอักษรโดยปรมาจารย์ชาวจีนที่มีชื่อเสียง บทความประกอบด้วย คำอธิบายสั้นประวัติความเป็นมาของการพัฒนาประเภทและหลักการทางทฤษฎีของประเพณี จิตรกรรมจีนรวมทั้งตำนานบางเรื่องจากชีวิตของนักคัดลายมือที่มีชื่อเสียง

ตามทฤษฎีศิลปะคลาสสิกของจีน จุดเริ่มต้นของการประดิษฐ์ตัวอักษรและภาพวาดประจำชาติคือภาพวาดของวัตถุที่ง่ายที่สุด ซึ่งต่อมาได้พัฒนาเป็นอักษรอียิปต์โบราณ ต้นกำเนิด เทคนิค และหลักสุนทรียภาพทั่วไปของการวาดภาพและการประดิษฐ์ตัวอักษรได้กำหนดความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิด

บทความเกี่ยวกับศิลปะมากมายกล่าวว่า: การประดิษฐ์ตัวอักษรและภาพวาดคือ ชื่อเรื่องต่างๆปรากฏการณ์เดียวกัน". ตามกฎแล้วศิลปินที่ดีก็เป็นนักประดิษฐ์ตัวอักษรที่ดีเช่นกัน ตามที่ศิลปินจีนกล่าวว่า การเขียนที่สวยงามพลังแห่งคุณธรรมให้ชีวิตออกมา

"จดหมายทางกฎหมายของ Kai Shu - การประดิษฐ์ตัวอักษร".สำนักพิมพ์: Alteks. 2002

ซื้อได้ คู่มือปฏิบัติในการเขียนพู่กันจีนด้วยเทคนิคการขีดเส้นที่สมบูรณ์และภาคผนวกของตัวอย่างการเขียนตัวอักษร "Zhayu Meng Fu"
มันจะช่วยให้ทุกคนแตะกระดาษด้วยพู่กัน เข้าสู่โลกแห่งการเขียนภาษาจีน ฝึกฝนวิธีการเขียนคุณสมบัติหลัก และในอนาคตจะไปสู่เทคนิคที่ซับซ้อนมากขึ้นในการเขียนอักษรอียิปต์โบราณ เนื่องจาก Kai-shu เป็นเพียง การเริ่มต้น...

"หลักสูตรปฏิบัติการเขียนพู่กันจีน 214 ตัวหลัก".ผู้เผยแพร่บทช่วยสอน: MagnaMedia Developer 2014

อักษรอียิปต์โบราณที่สำคัญ เป็นอักษรอียิปต์โบราณที่ประกอบขึ้นเป็นส่วนที่เหลือทั้งหมด คู่มือการฝึกอบรมนี้ให้การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติในการคัดลายมือจากอักษรอียิปต์โบราณหลัก 214 ตัว

แต่ละบทเรียนแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนทุกการเคลื่อนไหวเมื่อเขียนตัวอักษร - เพียงแค่ใช้แปรงหรือเครื่องหมายแล้วทำซ้ำตามครูจาก China Kong Xiankui

หลักสูตรนี้มีโหมดการเล่นวิดีโอแบบสโลว์โมชั่นสำหรับผู้ที่เริ่มก้าวแรก ครูวาดตัวละครแต่ละตัวด้วยตนเองหลายครั้ง

หนังสือสามเล่มเพื่อการพัฒนาทั่วไป

Maslov A. การประดิษฐ์ตัวอักษร: ภาพอื่น ๆ ในเส้นหมึก // Maslov A. A. China: ระฆังในฝุ่น การเร่ร่อนของนักมายากลและปัญญาชน- ม.: Aleteyya, 2003, p. 251-260.

หนังสือโดยศาสตราจารย์เอ. เอ. มาสลอฟ นักตะวันออกชาวรัสเซียผู้โด่งดัง เล่าถึงการเริ่มต้นและความลึกลับของจีนโบราณ ที่เกี่ยวข้องกับลัทธิของอมตะ การเดินทางสู่ชีวิตหลังความตาย พิธีกรรมงานศพ และการก่อตัวของบรรยากาศทางจิตวิญญาณพิเศษที่ซึ่งธรรมดาที่สุดและธรรมดาที่สุด กลับกลายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างสูงส่งและสำคัญที่สุด

บทจากหนังสือเล่มนี้อุทิศให้กับการประดิษฐ์ตัวอักษร "การประดิษฐ์ตัวอักษร: ภาพของอีกเส้นเป็นเส้นหมึก". หน้า.251-260.

S. Sokolov-Remizov ภาพวาดและการประดิษฐ์ตัวอักษรของจีนและญี่ปุ่นในช่วงเปลี่ยนสหัสวรรษในด้านสมมติฐานแห่งอนาคต สำนักพิมพ์: Editorial URSS, 2004

หนังสือเล่มนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเปิดเผยและยืนยันคำจำกัดความหลายประการในความเห็นของผู้แต่ง แนวโน้มและแนวโน้มใน การพัฒนามุมมองภาษาจีนและ ศิลปะญี่ปุ่น. พิจารณาคุณลักษณะที่เฉพาะเจาะจงที่สุด (และเป็นสากลในเวลาเดียวกัน) ของความคิดแบบตะวันออกไกล

Zavadskaya E. V. "คำเกี่ยวกับการวาดภาพจากสวนด้วยเมล็ดมัสตาร์ด"สำนักพิมพ์ V. Shevchuk 2001

หนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และศิลปะของจีน "คำเกี่ยวกับการวาดภาพจากสวนด้วยเมล็ดมัสตาร์ด" - บทความเกี่ยวกับภาพวาดจีนโบราณ แปลโดย E.V. ซาวาดสกายา

หนังสือที่อุทิศให้กับการประดิษฐ์ตัวอักษรญี่ปุ่น

โยโกะ ทาเคนามิ. "อักษรญี่ปุ่น. คำแนะนำโดยละเอียดและกฎการเขียนตัวอักษรญี่ปุ่นสำนักพิมพ์: Art-Rodnik. 2010

ข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบการประดิษฐ์ตัวอักษรญี่ปุ่น เกี่ยวกับกฎสำหรับการเขียนอักษรอียิปต์โบราณ หน้าหนังสือมีไฮกุ บทกลอน วลีที่สวยงามมากมาย ทั้งหมดนี้เป็นภาพประกอบที่สดใสและมีสีสัน จำนวนมากของข้อมูลเกี่ยวกับประวัติศาสตร์การประดิษฐ์ตัวอักษรญี่ปุ่น

เอส. ฮาเรฟสกี้. "การประดิษฐ์ตัวอักษรอาหรับ".สำนักพิมพ์: เก็บเกี่ยว. 2550

การเขียนภาษาอาหรับมีลักษณะเฉพาะด้วยการเขียนตัวอักษร คำ และประโยคที่แสดงออกถึงอารมณ์อย่างยิ่ง ประกอบไปด้วยองค์ประกอบตกแต่ง เป็นศิลปะชั้นสูงที่หนังสือเล่มเล็กเล่มนี้เชิญชวนให้ผู้อ่านเข้าร่วม

วิลล่าทูทส์ "แบบอักษรสมัยใหม่".หนังสือ. ค.ศ. 1966

"Modern Type" เป็นคัมภีร์ของนักคัดลายมือ หนังสือเล่มนี้เน้นทั้งประเภทการเขียนและการวาดภาพ มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อฟอนต์สำหรับการพิมพ์

ประวัติของฟอนต์ เทคนิคการวาดหรือการเขียน และวิธีการเรียนรู้อย่างใดอย่างหนึ่ง ความหลากหลายของฟอนต์และจุดประสงค์ - ทุกแง่มุมเหล่านี้จะกล่าวถึงโดยละเอียดในสิ่งพิมพ์

Taranov N.N. "เล่นหาง".สำนักพิมพ์: Vishcha shkola. พ.ศ. 2529

คู่มือนี้กล่าวถึงรูปแบบตัวอักษรทางประวัติศาสตร์ มีคำแนะนำที่เป็นประโยชน์สำหรับการสร้างแบบอักษรที่เขียนด้วยลายมือและการเรียนรู้ เครื่องมือต่างๆสำหรับการเขียน
ประวัติและการปฏิบัติของการเขียนด้วยลายมือจะได้รับ

ให้ความสนใจอย่างมากในคู่มือนี้ในการศึกษาสคริปต์ที่เขียนด้วยลายมือภาษาละตินและการแปลสคริปต์ภาษาละตินเป็นภาษารัสเซีย เช่นเดียวกับการเปลี่ยนแปลงที่กราฟิกซิริลลิกได้รับจากศตวรรษที่ 10 ถึง 18 และแสดงออกมาในรูปแบบต่างๆ การเขียนซิริลลิก - กฎบัตร กึ่งเช่าเหมาลำ ตัวสะกด ฯลฯ

เกอร์ริท นูร์ดซีย์. "แฮทช์ ทฤษฎีการเขียนสำนักพิมพ์: D. Aronov 2013

Gerrit Noordzey- นักออกแบบ นักพิมพ์ นักทฤษฎี และครูชาวดัตช์ที่โดดเด่น ตั้งแต่ปี 1960 ถึง 1990 เขาได้กำกับหลักสูตรการออกแบบประเภทที่ Royal Academy of Arts ในกรุงเฮก

ทฤษฎีการเขียนที่มีชื่อเสียงครอบคลุมข้อสันนิษฐานที่สำคัญสำหรับการออกแบบประเภท - ตั้งแต่แนวคิดเรื่องช่องว่างในคำไปจนถึงการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของเส้นโครงร่างโดยละเอียดจากมุมมองทางคณิตศาสตร์

ผู้เขียนวิเคราะห์รายละเอียดเกี่ยวกับอุปกรณ์ในการเขียน - สโตรก แบ่งออกเป็นองค์ประกอบ: จุดหักเห แนวหน้าและส่วนโค้ง แนะนำแนวคิดของการถ่ายโอนแบบขนาน การขยายและด้านหน้าในการประดิษฐ์ตัวอักษร ค้นคว้ามาก และยังอธิบายมุมมองของเขาเอง เกี่ยวกับการพัฒนางานเขียน

1. A. Kudryavtsev "แบบอักษร เรื่องราว. ทฤษฎี. ฝึกฝน".ฉบับ: มอสโก, มหาวิทยาลัย Natalia Nesterova พ.ศ. 2546

แบบอักษรของหนังสือ ประวัติศาสตร์ ทฤษฎี การปฏิบัติ” พูดถึงคำศัพท์ การวาดแบบฟอร์มฟอนต์ รูปแบบฟอนต์พื้นฐาน เกี่ยวกับฟอนต์การพิมพ์ที่สร้างขึ้นในยุควัฒนธรรมต่างๆ ตั้งแต่ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาจนถึงศตวรรษที่ 20 และจบลงอย่างมีเหตุผลด้วยบทที่เกี่ยวกับตัวย่อ เครื่องหมายการค้า โลโก้ โปสเตอร์การพิมพ์ - เนื้อหา วิธีการทางภาพและทางจิตวิทยา
การอ่านหนังสือเล่มนี้ คุณจะได้เรียนรู้ไม่เพียงแค่ว่าการเขียนพัฒนาขึ้นอย่างไร แต่ยังรวมถึงสิ่งที่คนในยุคนั้นพูดถึง สิ่งที่พวกเขาเขียนด้วยป้ายเหล่านี้บนกระดาษ ไม้ หรือหิน

2. เอ.จี.ชิตส์กัล "แบบอักษรพิมพ์ภาษารัสเซีย".สำนักพิมพ์: หนังสือ. พ.ศ. 2528

หนังสือเล่มนี้อุทิศให้กับประวัติศาสตร์การพิมพ์ตัวอักษรรัสเซียและการใช้งานตั้งแต่กลางศตวรรษที่ 16 จนถึงปัจจุบัน ให้ความสนใจเป็นพิเศษกับการพัฒนาระบบฟอนต์สมัยใหม่และการใช้งานในหนังสือ หนังสือพิมพ์และนิตยสาร

3. Voronetsky B, Kuznetsov E. แบบอักษรสำนักพิมพ์: ศิลปินของ RSFSR พ.ศ. 2518

คู่มือ "ประเภท" มีไว้สำหรับทุกคนที่พยายามฝึกฝนทักษะด้านประเภท ทั้งศิลปินที่ไม่ได้รับการฝึกฝนพิเศษในด้านนี้ และผู้เข้าร่วมศิลปะสมัครเล่นจำนวนมาก
ผู้เขียนให้สิ่งที่เหมือนกันกับผู้อ่านที่เกี่ยวข้องกับการใช้ประเภทในด้านใด ๆ : ความเข้าใจเกี่ยวกับรูปแบบของรูปแบบวิธีการในการทำงานกับมัน

4. ยา Chernikhov, N. Sobolev "การสร้างแบบอักษร".กวดวิชา สำนักพิมพ์: Architecture-S. พ.ศ. 2550 (ฉบับแบบแผน พ.ศ. 2501)

หนังสือเล่มนี้นำเสนอแก่ผู้อ่านโดยสรุปสั้นๆ เน้นถึงพื้นฐานทางทฤษฎีของกราฟิกฟอนต์ และสรุปกฎและเทคนิคในการผลิตฟอนต์และจารึก

ความสนใจหลักคือการสร้างตัวอักษร สำหรับนักศึกษาก่อสร้าง สถาปัตยกรรม ศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยและคณะ

1. Semchenko P. A. "พื้นฐานของกราฟิกแบบอักษร"บัณฑิตวิทยาลัย พ.ศ. 2521

2. Smirnov S.I. แบบอักษรและแบบอักษรโปสเตอร์สำนักพิมพ์: โปสเตอร์. พ.ศ. 2520

3. ก. คลิคูชิน. "ฟอนต์สำหรับตกแต่ง: สำหรับงานศิลปะและการออกแบบ".สำนักพิมพ์: Architecture-S. 2005

หนังสือเล่มนี้ประกอบด้วยแบบอักษรสำหรับตกแต่ง (ตกแต่ง คัดลายมือ ชื่อ บล็อก สับ) ที่สามารถใช้สำหรับงานศิลปะและการออกแบบในการพิมพ์ การกวนสายตา และการโฆษณา

4. อัลเบิร์ต คาปรี "สุนทรียศาสตร์แห่งการพิมพ์".พ.ศ. 2520
หนังสือเล่มนี้ได้รับการเผยแพร่สำหรับนิทรรศการศิลปะหนังสือนานาชาติในปี 2520

5. นิโคเลย์ ทารานอฟ "การแสดงออกทางศิลปะและเป็นรูปเป็นร่างของแบบอักษร".สำนักพิมพ์: เปลี่ยน. 2000

หนังสือให้ข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับประเภทหลัก แนวคิด และคำศัพท์ที่ใช้ในทฤษฎีแบบอักษร อภิปรายความสัมพันธ์ระหว่างแบบอักษรและรูปภาพในสิ่งพิมพ์ การใช้แบบอักษรประเภทต่างๆ ในการออกแบบหนังสือ นิตยสาร โปสเตอร์ และสิ่งพิมพ์อื่นๆ .

หนังสือสองเล่มเกี่ยวกับการทำงานกับปากกาและหมึก

1. Gaptill Arthur L. "การทำงานด้วยปากกาและหมึก"สำนักพิมพ์: บุหงา. 2004
หนังสือเล่มนี้เขียนขึ้นเมื่อกว่า 70 ปีที่แล้ว แต่ยังคงความเกี่ยวข้องและความน่าดึงดูดใจสำหรับมืออาชีพ (ศิลปินและสถาปนิก) และด้วย (ต้องขอบคุณการดูแลอย่างละเอียดในทุกประเด็น ตั้งแต่ง่ายที่สุดไปจนถึงซับซ้อนที่สุด และความอิ่มตัวของสีพร้อมภาพประกอบ) สำหรับผู้อ่านหลากหลายกลุ่มที่ไม่ค่อยมีประสบการณ์ในการวาดภาพด้วยปากกาและหมึก

2. คาร์ล กลาสฟอร์ด การวาดภาพด้วยปากกาและหมึก: เส้น พื้นผิว สี AST, แอสเทรล. 2004

เขียนโดยศิลปิน Carl Glassford หนังสือเล่มนี้แนะนำผู้อ่านถึงความเป็นไปได้ทางศิลปะมากมายที่เทคนิคปากกาและหมึกมีให้

หนังสือต่อไปนี้เกี่ยวกับการพิมพ์

วิชาการพิมพ์ (จากสำนักพิมพ์กรีกและเขียน) - ศิลปะการออกแบบข้อความที่พิมพ์ กระบวนการพิมพ์ประกอบด้วยการเลือกตัวพิมพ์ของตัวอักษร แบบอักษร ชุดแบบอักษรและขนาด เหตุผลและความยาวบรรทัด อักษรระหว่าง ช่องว่างระหว่างคำ และบรรทัด ตลอดจนตำแหน่งสัมพันธ์ของข้อความและภาพประกอบบนสื่อสิ่งพิมพ์ . งานของการพิมพ์ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่สร้างสรรค์ที่สุดของการออกแบบข้อความคือการกำหนดพารามิเตอร์สำหรับการเรียงพิมพ์ การจัดวาง และกระบวนการเตรียมพิมพ์ที่ตามมา (จากวิกิพีเดีย).

แจน ชิโคลด์. “ลายใหม่. คู่มือสำหรับนักออกแบบสมัยใหม่ศิลปะ สำนักพิมพ์ Lebedev Studio 2012

หนังสือเล่มนี้ได้รับการตีพิมพ์ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2471 ในประเทศเยอรมนีและกลายเป็นคำแถลงการณ์สำหรับการพิมพ์สมัยใหม่ การศึกษาอย่างละเอียดถี่ถ้วนและน่าสนใจนี้ครอบคลุมหัวข้อต่างๆ ตั้งแต่ทฤษฎีวิจารณ์สังคมและประวัติศาสตร์ศิลปะ ไปจนถึงความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของการถ่ายภาพในการออกแบบกราฟิก

นอกจากนี้ ใน The New Typography Jan Tschichold ยังกำหนดกฎเกณฑ์ที่ชัดเจนและแม่นยำอย่างมากสำหรับการออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ บทสุดท้ายมีแนวทางปฏิบัติโดยละเอียดสำหรับการจัดวางเอกสารทางธุรกิจประจำวัน จนถึงคำแนะนำในการเลือกขนาดกระดาษที่เหมาะสมและการผสมผสานแบบอักษรที่เหมาะสม แม้ว่ามาตรฐานที่อธิบายไว้ในหนังสือจะล้าสมัยและไม่ได้ใช้ และ Tschichold เองก็ละทิ้งแนวคิดมากมายที่แสดงออกเมื่อเวลาผ่านไป สิ่งพิมพ์จะเป็นประโยชน์ต่อนักออกแบบกราฟิก นักออกแบบประเภท นักวาดภาพประกอบและนักเรียงพิมพ์ ตลอดจนถึงในวงกว้าง กลุ่มผู้อ่านที่สนใจในประวัติศาสตร์ของการออกแบบกราฟิกและประเภท

เอริค สไปเกอร์แมน. "เกี่ยวกับฟอนต์".สำนักพิมพ์: ParaType. 2005

หนังสือเล่มนี้เป็นความพยายามที่จะอธิบายภาษาของการพิมพ์ให้กับผู้อ่านที่ต้องการเรียนรู้วิธีการใช้ประเภทอย่างมีสติและความสามารถ ผู้อ่านจะเข้าใจว่าเหตุใดจึงมีแบบอักษรที่แตกต่างกันมากมาย วิธีใช้แบบอักษรเหล่านั้น และเหตุใดจึงต้องใช้แบบอักษรเหล่านี้มากขึ้นทุกวัน อันที่จริง นี่ไม่ใช่แค่การแปล แต่เป็นการแปลหนังสือ ตัวอย่างแบบอักษรเกือบทั้งหมดได้รับการแก้ไขโดยคำนึงถึงแบบอักษร Cyrillic ที่มีอยู่ในปัจจุบัน

หนังสือเล่มนี้ปลูกฝังความรักในประเภท (ถ้าคุณไม่มี) สอนคุณว่าการเลือกประเภทมักเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและมีความรับผิดชอบ เป็นการกระทำที่สร้างสรรค์ (ถ้าคุณไม่เคยคิดมาก่อน)

Tschichold J. "พิมพ์ตัวอย่าง".สำนักพิมพ์: Studio A. Lebedev. 2012

หนังสือเล่มนี้เป็นคอลเลกชันของตัวอย่างประเภทที่สวยงามซึ่งรวบรวมโดย Jan Tschichold นักพิมพ์ดีดและศิลปินหนังสือที่มีชื่อเสียง สิ่งพิมพ์นี้รวมถึงแบบอักษรที่สวยงามโดดเด่น ไร้กาลเวลา และทันสมัย ​​ซึ่งเป็นแบบอย่างที่แท้จริงในการออกแบบตัวพิมพ์

ภาพประกอบทางประวัติศาสตร์อันมีค่าจำนวนมากแสดงในขนาดจริงและผู้เขียนรีทัชอย่างระมัดระวัง ดังนั้นจึงดูดีกว่าในต้นฉบับที่ได้รับการเก็บรักษาไว้ไม่ดี ก่อนที่จะนำเสนอกลุ่มตัวอย่าง Tschichold วิเคราะห์รูปแบบและการจัดเรียงตัวอักษรอย่างละเอียดถี่ถ้วน วิเคราะห์แบบอักษรที่ไม่ดีและดี เขียนเกี่ยวกับการใช้ตัวพิมพ์ใหญ่และตัวพิมพ์เล็ก ระยะห่างระหว่างตัวอักษรและบรรทัด

Bezukhova L.N. , Yumagulova L.A. "พิมพ์งานสถาปนิก"สำนักพิมพ์: Architecture-S. 2550

งานนี้มีไว้สำหรับทุกคนที่สนใจในงานศิลปะซึ่งศึกษาเกี่ยวกับ "สถาปัตยกรรม", "ประติมากรรม" เฉพาะทางซึ่งมีส่วนร่วมในการปฏิบัติงานด้านสถาปัตยกรรมและการก่อสร้าง

Ruder E. วิชาการพิมพ์.หนังสือ. พ.ศ. 2525
สำหรับใครที่อยากทำกราฟฟิกดีไซน์ตัวจริง หนังสือทั้งสิบเก้าบทแสดงให้เห็นถึงความหลากหลายของแนวคิดและความเป็นไปได้ในการจัดองค์ประกอบทางวิชาการพิมพ์

ในหนังสือคุณจะพบตัวอย่างมากมาย (รวมถึงการทดลองของ Ruder ที่โด่งดัง) เกี่ยวกับการใช้ประเภท - ผู้เขียนใช้ในรูปแบบที่นักออกแบบมืออาชีพไม่สามารถฝันถึงได้ ใครรู้องค์ประกอบบ้างและรอบรู้มากในด้านของตน

ตัวอย่างของ Ruder เป็นศิลปะแห่งการออกแบบมากกว่างานฝีมือ ซึ่งเป็นกรณีสุดโต่งที่ต้องต่อสู้เพื่อ

เฟลิซิตี้ เจมส์. "วิชาการพิมพ์: แบบอักษร เลย์เอาต์ การออกแบบ".สำนักพิมพ์: BHV-ปีเตอร์สเบิร์ก. 2014

รุ่นที่สองนี้ครอบคลุมเทคนิคทั่วไปสำหรับการทำงานกับซอฟต์แวร์เลย์เอาต์หลักเวอร์ชันล่าสุดสำหรับ Mac OS และ Windows, ฟอนต์ Unicode และ OpenType, ชุดอักขระเพิ่มเติม, วิธีค้นหาอักขระ และล่าสุดเกี่ยวกับการพิมพ์บนเว็บ (รวมถึง CSS3) หนังสือเล่มนี้มีประโยชน์และเข้าถึงได้ไม่เฉพาะกับนักออกแบบ เครื่องพิมพ์ และผู้จัดการฝ่ายผลิตงานพิมพ์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงทุกคนที่สนใจปัญหาเลย์เอาต์ด้วย

วลาดิเมียร์ แลปเตฟ "วิชาการพิมพ์: ระเบียบและความโกลาหล".สำนักพิมพ์: อวาตาร์. 2008

การวิเคราะห์ตัวพิมพ์รวมอยู่ใน มรดกทางวัฒนธรรมช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 20 - ต้นศตวรรษที่ 21 ขึ้นอยู่กับเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในชื่อหนังสือ - ระเบียบและความโกลาหล การแบ่งสิ่งพิมพ์ออกเป็นสี่ส่วนสอดคล้องกับรูปแบบการพิมพ์หลักในยุคของเรา: สไตล์สวิส (สากล), "คลื่นลูกใหม่", "การออกแบบดิจิทัล" และ deconstructivism เป็น apotheosis ของลัทธิหลังสมัยใหม่ ด้านหนึ่ง “Typography: Order and Chaos” เป็นการตัดความหลากหลายสไตล์ชั่วคราว ในทางกลับกัน การออกแบบกราฟิกบนใบหน้า

หนังสือเล่มนี้จัดทำขึ้นสำหรับนักออกแบบกราฟิกมืออาชีพ ผู้กำกับศิลป์ นักศึกษาและครูของสถาบันการศึกษาเฉพาะทาง

อเล็กซานดรา โคโรลโควา "การพิมพ์สด".สำนักพิมพ์: ตลาดดัชนี. 2008

"Live Typography" ทุ่มเทให้กับศิลปะการสร้างสรรค์หนังสือและเป็นหนังสืออ้างอิงชนิดหนึ่ง หนังสือเล่มนี้กล่าวถึงนักออกแบบที่ทำงานเกี่ยวกับฟอนต์เป็นหลักไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แต่ในขณะเดียวกัน ข้อมูลอ้างอิงทางประวัติศาสตร์และเทคโนโลยีที่มีอยู่มากมายทำให้ผู้ใดก็ตามที่พบเจอหนังสือและตำราต่างๆ ในชีวิตของเขามีความน่าสนใจ

โรเบิร์ต บริงเฮิร์สต์. "พื้นฐานของสไตล์ในการพิมพ์".สำนักพิมพ์: D. Aronov 2013

หนังสือเล่มนี้เป็นหนึ่งในพื้นฐานพื้นฐานของการออกแบบตัวอักษรไม่เพียงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการออกแบบโดยทั่วไปด้วย Robert Bringhurst จัดให้ทั้งหมด ข้อมูลที่จำเป็นเกี่ยวกับทางเลือกและการผสมผสานของฟอนต์ สไตล์ จังหวะ ความกลมกลืน และรูปแบบ โดยพิจารณาถึงที่มาทางประวัติศาสตร์และการใช้งานสมัยใหม่
"วิชาการพิมพ์ที่ดีคืออะไร มีเกณฑ์คุณภาพอย่างไร จะบรรลุได้อย่างไร ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการจัดรูปแบบข้อความ? หนังสือของ Bringhurst ช่วยในการแยกแยะ