บ้าน › มันอบอุ่นที่บ้าน › ผู้คนเป็นตัวนำพลังงานจักรวาล พวกเขาเป็นใครตามสัญลักษณ์ของจักรราศีและพวกเขาเข้ามาในชีวิตของเราทำไม

ผู้คนเป็นตัวนำพลังงานจักรวาล พวกเขาเป็นใครตามสัญลักษณ์ของจักรราศีและพวกเขาเข้ามาในชีวิตของเราทำไม

ขัดเกลาความคิด ความรู้สึก และร่างกายของเขา เขาขัดเกลาสสารทั้งสามสายที่ไหลผ่านพิภพเล็ก ๆ ของเขา ดังนั้นจึงช่วยเร่งกระบวนการวิวัฒนาการของโลกและมนุษยชาติบนโลก Masters ให้บริการเพื่อการเปลี่ยนแปลงของโลก เป้าหมายเดียวกันคือทุกคนที่ติดตามพระองค์อย่างมีสติ ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือคนธรรมดาทำงานเหมือนทาส ในขณะที่คนที่รู้จักทำงานอย่างมีสติและอิสระ และอุปกรณ์ที่น่าอัศจรรย์ ซับซ้อน และน่าทึ่งของพิภพเล็กของมนุษย์ที่มีความเป็นไปได้ที่ไม่รู้จักหมดสิ้นของศักยภาพอันร้อนแรงที่แผ่ออกมาอย่างต่อเนื่องทำหน้าที่เป็นเครื่องมือหรือเครื่องมือ อนาคตที่ลุกโชนของมนุษย์นั้นยิ่งใหญ่และหาที่เปรียบไม่ได้กับรูปแบบชั่วคราวของการแสดงออกซึ่งเขาแสดงออกใน ช่วงเวลานี้. แสงสว่างเบื้องหน้านั้นยิ่งใหญ่ และแสงสว่างแห่งอนาคตก็เทียบไม่ได้กับความมืดในปัจจุบัน
แง่มุมของ Agni Yoga, 1972 จาก 1954 24 A. Novosibirsk, Algim, 1998

มนุษย์เป็นผู้เปลี่ยนรูปของพลังงานเชิงพื้นที่ (2) *
(จากข้อความของแหล่งข่าวระดับสูง)

เมื่อมนุษยชาติแบ่งออกเป็นสองส่วนและส่วนหนึ่งอยู่ติดกับขั้วแห่งแสงและอีกส่วนหนึ่ง - สู่ความมืด ปัญหาในการรับใช้แสงสว่างจะรุนแรงเป็นพิเศษ คำถามทั้งหมดของชีวิตจะได้รับการแก้ไขอย่างชัดเจน หากคุณเข้าใจว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะอยู่ระหว่างนั้น ทุกคนรับใช้แสงสว่างหรือความมืด ไม่มีตรงกลาง และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับคุณหรือกับคนอื่น ไม่ว่าชะตากรรมส่วนตัวของคุณหรือชะตากรรมของใครก็ตาม สิ่งหนึ่งที่แน่นอนก็คือ อนาคตทั้งหมดของเขาจะถูกตัดสินโดยการเข้าร่วมขั้วใดขั้วหนึ่ง และวิธีแก้ปัญหาคือการรับใช้แสงสว่าง พวกเขาอาจถามถึงวิธีการรับใช้แสงสว่าง หากเงื่อนไขไม่เอื้ออำนวย หากไม่สามารถทำเช่นนี้ได้ แบบฟอร์มที่ต้องการถ้าทุกคนต่อต้าน: ทั้งผู้คนและสถานการณ์และเหตุการณ์ทั่วไป แล้วอย่างไร? แล้วอย่างไรเล่า เมื่อปณิธานอันประเสริฐถูกทำลาย ทิพยจักษุก็สิ้นชีวิตหรือทนทุกข์ และปณิธานที่สว่างที่สุดก็ถูกทำลายลงจนเหลือแต่ความว่างเปล่า? แล้วอย่างไร?

เพื่อน ๆ เข้าใจว่าการรับใช้สู่แสงสว่างที่เป็นแกนหลักที่สำคัญที่สุด หากไม่มีสิ่งนี้เป็นไปไม่ได้ อยู่ที่ความจริงที่ว่าบุคคลในออร่าของเขามีแสงและแผ่กระจายไปรอบตัวเขา และทำให้พื้นที่ว่างด้วยแสงและรักษา และทำให้ทรงกลมรอบตัวเขาอยู่ในระยะไกลซึ่งสอดคล้องกับความแรงของการแผ่รังสีเหล่านี้ ในออร่าของเขา ผู้รับใช้แห่งแสงถือความดีของโลกที่เขาอาศัยอยู่ จากนั้นการกระทำและคำพูดและการกระทำและทุกสิ่งที่บุคคลทำจะกลายเป็นเพียงสิ่งประกอบกับความส่องสว่างของวิญญาณ หากไม่มีแสงอยู่ภายในและออร่าไม่แผ่ออกมา สิ่งที่บุคคลสร้างขึ้นไม่สามารถอิ่มตัวด้วยแสงได้ แต่ถ้าแสงสว่างนี้มาจากแก่นแท้ของมันจริงๆ บริการสู่แสงสว่างก็จะถูกดำเนินการ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นรอบตัวและในสภาวะใดก็ตาม วิญญาณซึ่งนำแสงสว่างมาสู่โลกในตัวเองจะพบได้ และแม้ว่าภายนอกจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ออร่าก็เปล่งประกายราวกับดวงอาทิตย์ ผู้ถือสมบัติแห่งแสงก็บรรลุจุดประสงค์ในชีวิต ดังนั้น เราควรทิ้งความเสียใจทั้งหมด ความงุนงงทั้งหมด ความคร่ำครวญทั้งหมดที่มีบางสิ่งไม่เกิดขึ้นหรือภายใต้เงื่อนไขบางประการ การรับใช้สู่แสงสว่างและการทำงานในนามของลอร์ดนั้นเป็นไปไม่ได้ ช่างแสง ถ้าพวกเขาเป็นพาหะของมันจริง ๆ ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ใดก็ตาม พวกเขายังคงนำแสงของพวกเขาไปสู่โลกและรับใช้แสงสว่างในโลกทางโลกนี้หรือในโลกเหนือโลก และการกระทำของพวกเขาที่อิ่มตัวด้วยแสงจะไม่ตายในอวกาศ แต่ในเวลาที่เหมาะสมพวกเขาจะเกิดผล ท้ายที่สุด มันเป็นเพียงความเข้าใจที่จำกัดว่ามีบางอย่างจบลงหรือดูเหมือนไม่บรรลุผล โปรดจำไว้ว่า: ไม่มีเงื่อนไขดังกล่าว ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตาม ซึ่งการรับใช้สู่แสงสว่างจะเป็นไปไม่ได้หากบุคคลนั้นฉายแสงที่มองไม่เห็นอยู่แล้ว

บริการสู่แสงที่มีคุณค่าสูงสุดและมีเพียงหนึ่งเดียวประกอบด้วยการนำพาแสงที่เปล่งออกมาในออร่า แผ่กระจายไปรอบๆ ฤาษีโยคีรู้บริการอันยิ่งใหญ่นี้ วิญญาณที่ยิ่งใหญ่ทั้งหมดรู้จักเขา รู้และคุณ และบังคับกองกำลังทั้งหมดของคุณไม่ให้ทำอะไรภายนอก แต่ให้ควบคุมการเปลี่ยนแปลงของไฟภายใน มีแสงสว่างน้อยมากในโลก และมีคนเพียงไม่กี่คนที่นำแสงสว่างมาให้ นำแสงสว่างของคุณ มาสู่ทุกสิ่งรอบตัวคุณ อย่าเสียใจที่คุณไม่สามารถทำในสิ่งที่คุณอยากทำและทำงานได้อย่างที่ควรจะเป็น สิ่งสำคัญไม่ได้ งานภายนอกแต่ในสิ่งที่รัศมีของคุณนำมาสู่โลก - แสงสว่างหรือความมืด พาหะแห่งความมืดนำมาซึ่งความมืด เพราะรังสีของมันมืด และคุณเป็นผู้แบกแสงสว่าง และคุณจะถูกเรียกว่าผู้ขนส่งแห่งแสงสว่างหรือบุตรแห่งแสงสว่าง ดังนั้น ฉันจึงพูดว่า: เมื่อสิ่งภายนอกก่อกบฏอย่างรุนแรงต่องานทั้งหมดของคุณ จงอุทิศกำลังทั้งหมดของคุณไม่ใช่เพื่อภายนอกนี้ แต่เพื่อภายในของคุณ เพราะหากไม่มีแสงสว่างจากภายใน กิจการภายนอกทั้งหมดก็ไม่มีความหมาย และคุณไม่ต้องการแม้แต่คำพูด การเสียสละอย่างเงียบ ๆ ของการรับใช้ต่อแสงสว่างนั้นกระทำโดยไม่มีคำพูด ความสำเร็จในชีวิตที่เงียบงันนั้นยากกว่าปกติ แน่นอนว่าจำเป็นต้องมีการกระทำเช่นกัน แต่เมื่อกำหนดเวลาอนุญาต การกระทำของความคิดนั้นแข็งแกร่งกว่าการกระทำทางโลกเพราะหากปราศจากความคิดการกระทำทางโลกก็เป็นไปไม่ได้ ทำความเข้าใจสิ่งต่าง ๆ ในวงกว้าง: สาระสำคัญของการกระทำของมนุษย์ไม่ได้อยู่ที่การโบกแขนและความว่องไวของขา และบ่อยครั้งที่พลังของการกระทำเงียบ ๆ ที่มองไม่เห็นของแสงนั้นแข็งแกร่งกว่าการกระทำที่มองเห็นได้ ลองนึกถึงการกระทำที่ส่องสว่างเกี่ยวกับการกระทำที่ทำในความเงียบ ทุกสิ่งที่ยิ่งใหญ่ถูกสร้างขึ้นในที่มองไม่เห็นโดยพลังของการแผ่รังสีออร่าของพาหะแห่งแสงและพลังแห่งความคิดที่ส่องสว่าง

ทุกขั้นตอนของการพัฒนาที่โลกผ่าน ผ่าน และจะผ่านไประหว่างการดำรงอยู่ของมัน ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งสามารถพบได้บนดาวต่างๆ มีเพียงหลักการเดียวคือการเกิด การเจริญ และการตาย เช่นเดียวกับสิ่งมีชีวิตทั้งหมด โดยปกติแล้วดาวเคราะห์จะอาศัยอยู่ ยังมีพวกที่แห้งแล้งเหมือนต้นมะเดื่อข่าวประเสริฐ แต่โลกเหล่านั้นแตกสลายอย่างรวดเร็ว ชีวิตมักจะอยู่ทุกที่ รูปแบบของมันแตกต่างกัน แต่หลักการของชีวิตนั้นเหมือนกันสำหรับทั้งจักรวาล - จากสิ่งที่มองไม่เห็นไปสู่ความหนาแน่นที่มองเห็นได้และจากความหนาแน่นไปจนถึงสิ่งที่บอบบางและมองไม่เห็น - จิตวิญญาณ โลกที่ประจักษ์ทั้งหมดและโลกที่อาศัยอยู่ทั้งหมดอยู่ในขั้นตอนต่างๆ ของวิวัฒนาการและใน องศาที่แตกต่างความหนาแน่นหรือการปรับแต่งและการทำให้บริสุทธิ์ของสสาร หนาแน่น บอบบาง ลุกเป็นไฟเป็นขั้นตอนของการเปลี่ยนแปลงของสสาร สูงสุดคือแสงสว่าง ความแตกต่างในขั้นตอนของความหนาแน่นจบลงด้วยการรวมกันในทรงกลมเหล่านั้นซึ่งวิวัฒนาการถึงจุดสูงสุด จุดสูงสุดในโลกที่ลุกเป็นไฟและเบื้องบน แต่ไม่มีที่สิ้นสุด โลกทั้งหมดสามารถเข้าถึงได้โดย Body of Light แต่ขึ้นอยู่กับระดับของการปรับแต่ง การเข้าถึงถูกกำหนดโดยความสอดคล้องขององค์ประกอบที่สะสมโดยวิญญาณในธัญพืชกับองค์ประกอบของโลกที่รู้จัก

จุดประสงค์ของวิวัฒนาการคือเพื่อให้วิญญาณมีคุณภาพแห่งการอยู่ทั่วไปทุกหนทุกแห่ง คุณภาพนี้ขึ้นอยู่กับหลักการของความสอดคล้องกันขององค์ประกอบที่ฝากไว้ในถ้วยกับองค์ประกอบที่ประกอบเป็นโลกภายใต้การศึกษา หากต้องการทราบคุณต้องสะสม แม้แต่ดวงอาทิตย์ของเราก็เข้าไม่ถึงวิญญาณธรรมดา พวกเขาจะเผาไหม้ทันที แต่ในร่างที่ก่อตัวเป็นไฟนั้นเป็นไปได้ที่จะอยู่บนมัน (ดวงอาทิตย์) ไม่ต้องการโลกธรรมดาในอวกาศอันไร้ขอบเขต ใช้ไม่ได้ และไม่พบที่อยู่สำหรับตัวมันเอง จำเป็นต้องได้รับความคิดเกี่ยวกับจักรวาล ความรู้ที่ได้มาบนโลกสามารถชี้ทางไปสู่รูปแบบความคิดนี้ได้ ศิลปะ ปรัชญา และศาสนา (ในรูปแบบเบื้องต้นที่บริสุทธิ์) เป็นองค์ประกอบที่จำเป็นสำหรับความคิด ผู้ชายที่อยู่บนถนนจะทำอะไรในอวกาศหากจิตสำนึกของเขาเต็มไปด้วยสิ่งที่ผู้คนมักจะนึกถึง? ความแตกต่างระหว่างจักรวาลและฟิลิสเตียจะก่อให้เกิดการตาบอดเชิงพื้นที่นั่นคือภูมิคุ้มกันที่สมบูรณ์ เราต้องเตรียมตัวสำหรับชีวิตเชิงพื้นที่ คุณคิดว่าสิ่งที่จำเป็นสำหรับการคิดนอกร่างกาย? ถ้ามีคนถามว่าเขาจะทำอะไรถ้าเขาเป็นอิสระจากร่างกาย เขามักจะจินตนาการว่าตัวเองอยู่บนโลกและในสภาพของโลกของเขา วิญญาณที่หายากมีความปรารถนาที่จะแยกตัวออกจากโลก ไม่มีองค์ประกอบในตัวเองที่สอดคล้องกับ Far Worlds พวกเขาอยู่ในรัศมีของโลก ดังนั้นเราจึงบัญชาให้ยืนยันและเสริมสร้างความคิดเกี่ยวกับโลกอันไกลโพ้น ในตอนแรกคุณสามารถคิดถึงพวกเขาได้ ความคิดจะเริ่มเติบโตและเพิ่มพูนจิตสำนึกด้วยการค้นพบใหม่ มนุษยชาติยังคิดเกี่ยวกับโลกเหล่านี้และส่งความคิดไปสู่อวกาศ สามารถจับและรับรู้ได้ ความคิดเชิงพื้นที่จะเพิ่มพูนสติสัมปชัญญะและเปิดประตูสู่ความเข้าใจของชีวิตบนดวงดาวอันไกลโพ้น การติดต่อกับคลังความรู้เชิงพื้นที่จะผ่านช่องทางความคิด

มหาสมุทรแห่งอวกาศมีอยู่ ไม่มีความคิดใดที่เข้าถึงไม่ได้ และไม่มีระยะทางสำหรับความคิดนั้น เมื่อสัมผัสกับจุดใด ๆ ของพื้นที่โลกด้วยความคิดเราสามารถดึงองค์ประกอบที่มีอยู่ในนั้นออกมาด้วยแม่เหล็กนั่นคือเราจะได้รับความประทับใจบนหน้าจอของจิตสำนึก มันอาจจะบอบบางและยากที่จะมองเห็น แต่ประสบการณ์และการฝึกฝนจะให้ความแข็งแกร่งในการเจาะลึกเข้าใจยาก - บอบบาง เฉกเช่นชาวประมงโยนอวนลงทะเล จิตที่รู้แจ้งก็เช่นอวน โยนความคิดที่มุ่งมั่นลงไปในมหาสมุทรแห่งห้วงอวกาศ แล้วสิ่งนั้นก็ส่งกลับคืนสู่ผู้ส่ง ซึ่งอุดมด้วยพลังแม่เหล็กด้วยองค์ประกอบพยัญชนะที่ดึงมาจากส่วนลึกของจักรวาล คุณสมบัติของอำนาจแม่เหล็กของความคิดมีความสำคัญและผิดปกติอย่างมาก และนักวิจัยโยคีใช้มันเพื่อรับความรู้จักรวาล คุณรู้และรู้หรือไม่ว่าแรงดึงดูดของความคิดนั้นยิ่งใหญ่? ใช้คนขี้เมาธรรมดาและพิจารณาสภาพแวดล้อมทางจิตของเขา คุณจะเห็นสิ่งที่ความคิดของเขาดึงดูดเขา หรือเอานักดาราศาสตร์ นักคณิตศาสตร์ นักแต่งเพลง สภาพแวดล้อมของทุกคนสร้างขึ้นจากแรงดึงดูดของความคิด แต่อำนาจแม่เหล็กของความคิดไปไกลกว่านั้นมาก ทั้งดึงดูดและกำหนดเงื่อนไขของสภาพแวดล้อมที่หนาแน่น ความคิดคือ กำลังแย่มากเพราะทุกอย่างเกิดจากความคิด ทำด้วยความคิดของคุณเช่นกัน แต่ทำด้วยสติ ทุกอย่างเปิดกว้างและเข้าถึงได้ เพราะความคิดสูงสุดพุ่งไปทั่วโลกจากอินฟินิตี้ของมหาสมุทรจักรวาล

ฉันจะแสดงหลักฐานของพลังของฉันรวมเป็นหนึ่งเดียวกับคุณ (ในการเรียก) คุณจะได้เรียนรู้ที่จะดึงพลังของ Spatial Fire และดำเนินการกับมัน คำอธิษฐานมีพลัง คำอธิษฐานให้พลัง อัศจรรย์ต่างๆ นานา บังเกิดขึ้นด้วยอานุภาพแห่งการอธิษฐาน พวกเขาเรียกเธอว่าศรัทธา และศรัทธาก็เคลื่อนภูเขา และคุณรู้ว่าในกรณีทั้งหมดนี้ พลังงานของ Spatial Fire ทำหน้าที่ ดึงดูดโดยเจตจำนงอันทรงพลังของหัวใจ เรียก เรียก เรียกจากทรงกลมโดยรอบ "จากสวรรค์" - คนโบราณพูดและเรียกไฟแห่งสวรรค์ แต่มันเป็นวิทยาศาสตร์และสามารถมองเห็นได้ไม่เพียงด้วยตาที่ละเอียดเท่านั้น แต่ยังต้องใช้เครื่องมือในห้องปฏิบัติการที่ละเอียดกว่าเครื่องมือที่ผู้คนมีอยู่ในปัจจุบัน ไฟอวกาศไม่ใช่เรื่องลึกลับ - มันถูกเทลงทุกที่ ในพายุฝนฟ้าคะนองที่น่ากลัวคุณจะเห็นอาการของมัน สามารถรวบรวมและบังคับให้รับใช้ตัวเองผ่านอุปกรณ์ที่ร้อนแรงของมนุษย์

เครื่องมือของมนุษย์ ร่างกายของมันในความซับซ้อนที่มองเห็นได้และมองไม่เห็นคือตัวสะสม ตัวควบแน่น และตัวสร้างพลังงานที่ลุกเป็นไฟ เช่นเดียวกับตัวรับและตัวแปลงของพลังงานที่น่าอัศจรรย์นี้ ไฟฟ้าเชิงพื้นที่ยังเป็นไฟ ในการมุ่งความสนใจไปที่บุคคลและใช้งาน ไม่จำเป็นต้องมีการติดตั้งไฟฟ้า เครื่องจักร หรือถ่านหินสีขาวหรือสีดำแบบธรรมดา คุณรู้ว่าลิ้นที่ร้อนแรงแผดเผาเหล่าอัครสาวก โดยหลักการแล้วปรากฏการณ์ที่บุคคลหนึ่งสามารถเข้าถึงได้นั้นทุกคนสามารถเข้าถึงได้ คำสอนแห่งแสงสว่างยืนยันการเข้าถึงการสำแดงไฟอันละเอียดอ่อนสำหรับหัวใจที่มุ่งมั่นทุกดวง มนุษย์เป็นผู้ถือไฟและเป็นสัตว์ที่ลุกเป็นไฟ การเริ่มต้นของ Age of Fire ทำให้การควบคุมพลังของมันง่ายขึ้น ไม่มีอะไรจะมา จำเป็นต้องใช้ แม้แต่อาณาจักรของพระเจ้าก็ต้องถูกยึดครอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากสวรรค์นั่นคือไฟในชั้นบรรยากาศหรือไฟฟ้าเชิงพื้นที่ประเภทที่มีความหลากหลายและขนาดที่ได้รับการศึกษาโดยมนุษยชาติเพียงบางส่วนเท่านั้น สาระสำคัญของพลังงานที่ร้อนแรงทั้งหมดเป็นหนึ่งเดียวเนื่องจากไอน้ำ น้ำ และน้ำแข็งเป็นหนึ่งเดียวกัน แต่รูปแบบของการสำแดงนั้นแตกต่างกันและมาตราส่วนก็กว้าง โดยพื้นฐานแล้วคุณสามารถใช้คีย์บอร์ดของสเกลดนตรีได้ เครื่องมือที่ลุกเป็นไฟของมนุษย์สามารถครอบครองพลังงานที่ร้อนแรงได้ทุกประเภท เขาสามารถปั๊มและรวบรวมไว้ในตัวเขาเอง เขาสามารถควบคุมความต้องการของเธอได้ เขาสามารถควบคุมเธอได้

มนุษย์เป็นห้องทดลองเดิน (เคลื่อนที่ได้) และด้วยเหตุนี้จึงทำให้สามารถทำการทดลองได้ทุกประเภท ภายใต้หัตถ์ของครู เราสามารถเริ่มต้นอย่างสงบ มีคนเริ่มมานานแล้วและจะไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับคนที่เริ่ม เฉพาะมุมของการเข้าใกล้และวิธีการสกัดแม่เหล็กของเปลวไฟเชิงพื้นที่เท่านั้นที่เป็นของใหม่ จำเป็นต้องมีคุณสมบัติที่จำเป็นของวิญญาณด้วย ด้วยการระเบิดเพียงครั้งเดียว คุณสามารถทำให้แบตเตอรี่หมดเกลี้ยงและหมดไฟ หากผู้เข้าร่วมการทดลองนั่งลงด้วยความหงุดหงิด โกรธ สิ้นหวัง หวาดกลัว ประสบการณ์นั้นจะเป็นความล้มเหลวโดยสิ้นเชิง อารมณ์ของพิณแห่งวิญญาณของผู้เข้าร่วมการทดลองมีบทบาทชี้ขาด ตัวท่านเองเห็นว่าแนวคิดทางจริยธรรมและคุณสมบัติของจิตวิญญาณกลายเป็นเงื่อนไขในการทำงานที่ลุกเป็นไฟได้อย่างไร ครูพร้อมที่จะให้สิ่งใหม่ ๆ คุณพร้อมที่จะปฏิบัติตามคำแนะนำของเขาหรือไม่? ด้วยการใช้คำแนะนำทั่วไปกับอุปกรณ์ของเขา ทุกคนสามารถดำเนินการและดำเนินการทดลองได้ แน่นอนว่าต้องใช้ความอดทน ผู้เริ่มต้นอาจถูกหยุดด้วยความล้มเหลวครั้งแรก แต่ผู้ที่รู้ว่าภูเขาแห่งความสำเร็จจะสูงขึ้นได้อย่างไรหากโลกถูกอุ้มแม้ในกำมือ อินฟินิตี้ทั้งหมดอยู่ตรงหน้าคุณ อย่าเบื่อที่จะทำ

หากคุณเพิ่มความไวแสงของฟิล์ม คุณสามารถถ่ายภาพการแผ่รังสีของบุคคล ซึ่งก็คือออร่าของเขา การเสริมกำลังเพิ่มเติมจะทำให้สามารถถอดดวงดาวออกได้และจากนั้นร่างกายที่บอบบางในขณะที่ปล่อยระหว่างการนอนหลับ ภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นไปได้ที่จะถ่ายทำปรากฏการณ์ของโลกที่บอบบางและสูงกว่านั้น จากนั้นจะมีการถ่ายภาพความคิดและรูปแบบความคิด และด้วยเหตุนี้ Invisible World จะเข้าถึงได้แม้กระทั่งผู้ที่การมองเห็นภายในไม่ได้รับการพัฒนาเพียงพอ วิทยาศาสตร์จะเปิดขอบเขตของโลก Supermundane เพื่อการรวมโลกในจิตสำนึกของมนุษย์จะสมบูรณ์ เป็นการยากที่จะจินตนาการว่าสิ่งนี้จะขับเคลื่อนมนุษยชาติทั้งหมดไปข้างหน้าได้มากน้อยเพียงใด จากนั้นพวกเขาจะไปถึงจุดที่พวกเขาจะบันทึกเหตุการณ์ในอดีต โดยแยกออกจาก Akashic Record นี่จะเป็นเรื่องยากที่สุดเพราะเป็นการยากที่จะจับการสั่นสะเทือนของบันทึกอวกาศด้วยเครื่องมือ แต่ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้สำหรับบุคคล แม้แต่เอดิสันก็ต้องการคุยกับคนตายด้วยความช่วยเหลือของโทรศัพท์ที่ดัดแปลง: จำเป็นต้องเอาชนะความถี่ของการสั่นสะเทือนของตัวกลางที่หนาแน่นเพื่อเปิดหน้าต่างสู่โลกอันละเอียดอ่อนและเมื่อเอาชนะมันได้ แปลหรือย้ายมัน เป็นความถี่ที่เข้าถึงได้ในระดับประสาทสัมผัสภายนอกของบุคคล กล้องธรรมดาทำงานโดยใช้หลักการของดวงตา: เครือข่ายของแสงถูกบล็อกโดยผู้ให้บริการ ในทำนองเดียวกัน กล้องสำหรับถ่ายภาพโลกอันบอบบางจะต้องคัดลอกมาจากเครื่องมือของมนุษย์ สำหรับผู้มีญาณทิพย์ มันทำงานอย่างชัดเจน - เราต้องปฏิบัติตามเส้นทางของธรรมชาติ ซึ่งนานมาแล้วก่อนที่สิ่งประดิษฐ์ของมนุษย์ทั้งหมดจะมุ่งเน้นไปที่ต้นแบบของอุปกรณ์ทั้งหมดของมนุษย์: กล้อง, โทรทัศน์, อุปกรณ์วิทยุ, เครื่องรับและเครื่องส่งสัญญาณ, เครื่องรับและเครื่องส่งสัญญาณ ความคิด ประเภทของคันโยกทั้งหมด แบตเตอรี่ไฟฟ้า อุปกรณ์บิน เครื่องกำเนิดความร้อน และอื่นๆ และอีกมากมาย

หากมีใครแจกแจงทุกสิ่งที่รวมเป็นหนึ่งเดียวในมนุษย์ ผู้คนจะต้องทึ่งในข้อเท็จจริงที่ว่าอินฟินิตี้นั้นเต็มไปด้วยความเป็นไปได้ทั้งหมดรวมอยู่ในตัวเขา ใครก็ตามที่พูดว่า "คุณเป็นพระเจ้า" รู้ว่าเขากำลังพูดถึงอะไร เราต้องเรียนรู้จากธรรมชาติ ธรรมชาติได้ลงทุนทุกอย่างในมนุษย์ในสภาพที่กระตือรือร้นหรือมีศักยภาพ บุคคลไม่สามารถสร้างกฎใหม่ของธรรมชาติใหม่ได้ แต่สามารถค้นพบสิ่งที่มีอยู่แล้วเท่านั้นและคัดลอกเนื้อหาที่ร่ำรวยที่สุดที่ชีวิตมอบให้และใช้ชุดค่าผสมใหม่ คุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมสสารเรืองแสงชนิดใหม่ยังไม่เป็นที่รู้จักสำหรับเขา ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่ควรจำไว้ว่าทุกอย่างมีความเข้มข้นในตัวบุคคล และเครื่องมือของมนุษย์ได้ทำการบินในอวกาศระหว่างดวงดาวเป็นเวลาหลายสิบหลายร้อยพันปีก่อนที่เครื่องบินสมัยใหม่จะถูกประดิษฐ์ขึ้น ห้องปฏิบัติการ ร่างกายมนุษย์ก่อให้เกิดกระบวนการทางเคมีที่เคมีในยุคของคุณไม่สามารถสร้างขึ้นใหม่ได้

(คุรุ - น. ก. โรริช). การติดต่อของสติกับเรานั้นง่ายกว่ามาก คนธรรมดาและโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเราได้ปลดปล่อยตัวเองออกจากร่างกายแล้ว ทุกสายได้รับการตอบรับ เราตอบสนองต่อความคิดที่กลับด้านด้วยความคิดที่ลึกซึ้ง กว้างขวาง และสมบูรณ์ยิ่งขึ้น เราแนบจิตสำนึกที่เปลี่ยนไปเข้ากับโลกของความคิดของเรา เพราะเรามีแหล่งเก็บความคิดที่หล่อเลี้ยงมนุษยชาติโดยรวม มนุษย์กินความคิด เช่นเดียวกับร่างกายที่แข็งแรงกินอาหาร และมีชีวิตอยู่กับมัน แม้ว่ามันจะไม่เกิดขึ้นจริง แหล่งพลังงานคือลำดับชั้นของแสง และคนเหล่านั้นคือตัวรับและตัวแปลงที่สามารถจับความคิดเหล่านี้อย่างมีสติ สวมมันในรูปแบบต่างๆ และทำให้พื้นที่รอบๆ อิ่มตัว เช่นเดียวกับแสงและความร้อนของดวงอาทิตย์ที่หล่อเลี้ยงโลก มันก็หล่อเลี้ยงผู้คนและความคิดเช่นกัน ในทำนองเดียวกันลูกศิษย์ก็ดึงความคิดตามลำดับชั้น สัญญาณของสิ่งนี้คือการหลั่งไหลของความคิดใหม่ ๆ ที่รับรู้โดยจิตสำนึกทุกวัน ความสำคัญของกระบวนการนี้ควรเข้าใจอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น ความกตัญญูกตเวทีแสดงอยู่ในนี้. ขอปาฏิหาริย์อย่าจมอยู่ในสามัญ ทำสติให้ปกติ ครูระบุความผิดปกติและทางแคบห่างจากเส้นทางที่พบ เราเรียกมันว่าเส้นทางแห่งชีวิต เราไปกับมัน คุณก็ไปด้วย

ชีวิตภายนอกดำเนินไปที่ไหนและอย่างไรเมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จมาใกล้ไม่เหมือนกันทั้งหมด ชีวิตของวิญญาณดำเนินไปเอง คุณสามารถเจาะลึกได้ไม่รู้จบ มายาอยู่รอบตัว แต่มายาไม่ใช่พระเจ้า เมื่อรวบรวมประสาทสัมผัสทั้งห้ามาที่ฉันแล้ว บุคคลควรทำให้หัวใจตึงเครียดด้วยความจงรักภักดี ความรัก ความขวนขวาย และคุณสมบัติอื่น ๆ ทั้งหมด ตึงเครียดมาที่ฉัน มีระดับของความรู้สึกที่ร้อนแรง มีความสุขที่เร่าร้อน ความรัก ความรู้สึกของความใกล้ชิดของเรา อารมณ์ธรรมดาทั้งหมดของดวงดาวที่บริสุทธิ์และเปลี่ยนแปลงสามารถสูงขึ้นได้ ตัวอย่างเช่น ความรู้สึกเห็นอกเห็นใจ ถ้าคุณรักเรา เราก็รักคุณ ไม่ใช่แค่คุณ แต่รวมถึงมวลมนุษยชาติด้วย พลังงานที่ต่ำกว่าทั้งหมดของพิภพเล็ก ๆ สามารถแปลงร่างเป็นพลังงานที่สูงขึ้นได้หากมีบางสิ่งที่จะแปลงร่าง อบอุ่น - ไม่มีอะไร ดังนั้นความผิดพลาดจะไม่เป็นอะไรเมื่อความรักที่มีต่อลำดับชั้นเผาไหม้ในใจ คะนอง ความรู้สึกที่สูงขึ้นนอกจากนี้เรายังขึ้นสู่แสงสว่างโดยการแปลงไฟที่ต่ำกว่าเป็น Agni ที่สว่างไสว

ถูกถ่ายโอนไปยังความคิด และความคิดถูกถ่ายโอนไปยังอนาคต และการรับรู้ถึงอนาคตอยู่ในปัจจุบัน สิ่งนี้จะหมายถึงการใช้ชีวิตในอนาคต ยุคแห่งความเร่าร้อนที่ใกล้เข้ามาดำเนินไปภายใต้ธงของลอร์ด ซึ่งโลกทั้งสามถูกรวมเป็นหนึ่งด้วยวงกลมที่โอบล้อมพวกเขาเป็นหนึ่งเดียว ขอบเขตของการรวมกันคือจิตสำนึกของมนุษย์ สมาคมนี้คือ สัญญาณที่ยิ่งใหญ่ที่สุดยุค จากนั้นจิตสำนึกส่วนบุคคลจะถูกแทนที่ด้วยจิตสำนึกของปัจเจกชน ซึ่งรวมกันอยู่ในสามโลก: โลก ดวงดาว และไฟ บุคคลที่ตั้งตนขึ้นในการสังเคราะห์ทั้งสามและไม่ถูกพันธนาการด้วยข้อจำกัดของจิตสำนึกส่วนบุคคลจะก้าวข้ามขอบเขตของมัน ทั้งสามโลกจะเข้าถึงได้และเปิดสู่จิตสำนึก ซึ่งจะเก็บความทรงจำไว้ ไม่เพียงแต่การอยู่ใน Supermundane และจะไม่เพียงแค่เห็นและรู้จักทั้งสามโลก แต่จะเก็บความทรงจำของชาติในอดีตและบุคลิกภาพที่เธอแสดงออกมา

จะไม่มีความตายเพราะความเป็นบุคคลเป็นอมตะ การเปลี่ยนแปลงของผิวหนังจะถือเป็นธรรมชาติเช่นเดียวกับการเปลี่ยนเสื้อผ้า และชีวิตทั้งภายในและภายนอกก็จะเปลี่ยนแปลงไปตามนั้น ประการแรกการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นในจิตสำนึกของบุคคลและจะสะท้อนให้เห็นในโครงสร้างและความคิดสร้างสรรค์ทั้งหมดของเขา พื้นที่การประชุมของทั้งสามโลกยังคงเป็นจิตสำนึกของมนุษย์ แต่เมื่อมันถูกเปลี่ยนเป็นจิตสำนึกเหนือบุคคล นั่นคือการรับรู้ของ Triad ที่เป็นอมตะและกลับชาติมาเกิด ซึ่งความเป็นปัจเจกของบุคคลมีความเข้มข้น บุคคลจะสลายกลายเป็นบุคคลเหนือบุคคล และเปลือกมนุษย์ชั่วคราวจะกลายเป็นการแสดงออกของ "ฉัน" ที่สูงกว่า แน่นอนว่าทั้งหมดนี้จะไม่สำเร็จในทันที แต่การไหลของวิวัฒนาการนำมนุษยชาติมาถึงขั้นนี้ ดังนั้นการถ่ายโอนจิตสำนึกไปสู่อนาคตและชีวิตในนั้นจะเป็นเกณฑ์ ยุคใหม่. มันเป็นจิตสำนึกที่ถ่ายโอนไปยังพื้นที่แห่งความสำเร็จในอนาคตซึ่งจะช่วยเร่งและเข้าใกล้การโจมตีของพวกเขา สำหรับการรับรู้เกือบจะเชี่ยวชาญแล้วหรือตาม อย่างน้อย, เส้นทางตรงไปมัน. จำเป็นต้องรู้ว่า Cosmic Will ชี้นำมนุษยชาติไปที่ใดในการเคลื่อนไหวแบบหมุนวนวิวัฒนาการไปสู่อนาคต Cosmic Will สามารถเข้ามาได้ กรณีนี้ได้รับการพิจารณาภายใต้กรอบของกฎแห่งการพัฒนาของกลุ่มมนุษย์ดาวเคราะห์ทั่วไปโดยภาพรวมและแม้แต่ในความเชื่อมโยงกับมนุษยชาติแห่งโลกอันไกลโพ้นของเรา ระบบสุริยะ. อนาคตอันยิ่งใหญ่ถูกกำหนดไว้แล้วสำหรับมนุษย์ แต่คุณต้องเข้าสู่อนาคตอย่างมีสติ ยุคที่กำลังจะมาถึงเป็นเกณฑ์ของอนาคตอันยิ่งใหญ่นี้

___________
* เรียงความฉบับสมบูรณ์: มนุษย์เป็นผู้แปลงพลังงานเชิงพื้นที่ - โพสต์ในหน้า 30 ใน "Galactic Ark": "Keys of the Teaching of Life" - http://kovcheg.ucoz.ru/forum/68-1275

การดำรงอยู่ของพื้นที่จักรวาลสากลที่บุคคลใช้โดยตระหนักถึงปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติของเขาได้รับการจินตนาการโดยผู้คนมากมายเมื่อหลายศตวรรษก่อน ปรัชญาอินเดียแสดงให้เห็นแนวคิดที่น่าสนใจที่สุดแนวคิดหนึ่ง นั่นคือ การมีอยู่ของพรานา ซึ่งก็คือจักรวาล ซึ่งมีอยู่ในห้ารูปแบบที่แตกต่างกัน และสนับสนุนกระบวนการชีวิตต่างๆ เช่น "ลมของร่างกาย"

หนังสือศักดิ์สิทธิ์ชาวพุทธและชาวฮินดูอธิบายถึงพลังจักรวาลเดียวกันซึ่งแสดงด้วยพยางค์ลึกลับ "โอม" หรือ "โอม" ซึ่งทำให้เกิดการสั่นสะเทือนในสมอง การสั่นสะเทือนดังกล่าวสามารถนำศูนย์ประสาททุกชนิดของมนุษย์ () ไปสู่สภาวะที่แน่นอนได้ สิ่งนี้ทำให้คุณยอมรับสิ่งสำคัญ (จักรวาล)

ล่องหน พลังชีวิตคัมภีร์ไบเบิลอธิบายว่าเป็น "พระวิญญาณบริสุทธิ์" ซึ่งสนับสนุนหลักการศักดิ์สิทธิ์ทั่วไป คำสอนของญี่ปุ่นและจีนกำหนดให้ชีวิตเป็นเหมือนแม่น้ำที่มีแหล่งกำเนิดอยู่ที่จุดเหนือสะดือ กระจายออกจากปอดไปทั่วร่างกายผ่านช่องทางประสาทมากมาย - ที่เรียกว่า "เส้นเมอริเดียน" สสารทั้งหมดถือได้ว่าเป็นการแสดงออกของสิ่งนี้ในระดับวัตถุ คำว่า "อีเธอร์" ถูกใช้โดยอริสโตเติลนักปรัชญาและนักวิทยาศาสตร์ชาวกรีกเพื่อกำหนดองค์ประกอบที่ห้า

"องค์ประกอบ" ในขั้นต้นรวมถึงวัตถุทั้งหมดที่อยู่นอกชั้นบรรยากาศของโลก จากอีเธอร์ ตามความเข้าใจของอริสโตเติลยังมีมนุษย์คนหนึ่งซึ่งเขาอธิบายว่าเป็นวัตถุบริสุทธิ์ ในยุคกลาง นักฟิสิกส์อธิบายว่าอีเธอร์เป็นสารที่เติมอวกาศ พวกเขาสันนิษฐานว่าการเคลื่อนที่ของคลื่นในอีเทอร์ที่กำหนดทำให้แสงมาถึงโลกผ่านสุญญากาศหนึ่งๆ ด้วยเหตุนี้จึงมักถูกเรียกว่า "อีเทอร์ที่มีแสง"

Isaac Newton เข้าใจอีเทอร์ว่าไม่เพียงแต่เป็นสื่อกลางที่เติมเต็มพื้นที่โลกเท่านั้น เขาพิสูจน์ว่า สสารทั้งหมดและแต่ละอะตอมมีอีเธอร์ตัวเดียวกันแทรกซึมอยู่ เมื่อประมาณ 150 ปีที่แล้ว คาร์ล-ลุดวิก ไฟรแฮร์ ฟอน ไรเคินบาค นักธรรมชาติวิทยาและนักเคมีชาวเยอรมันผู้กลายมาเป็น มีชื่อเสียงจากการประดิษฐ์น้ำมันก๊าดพาราฟิน ฯลฯ เริ่มทำการทดลองบางอย่าง พวกเขาจัดการกับสิ่งที่เรียกว่า พลังงานที่สำคัญ" หรือ "ออคคราฟท์". เป็นพลังของ "Od" ที่แสดงออกเป็นแสงลึกลับที่เล็ดลอดออกมาจากขอบของร่างกาย - มนุษย์และอื่น ๆ - อินทรีย์และอนินทรีย์และเป็นที่รับรู้โดยคนที่อ่อนไหว นักวิทยาศาสตร์วิพากษ์วิจารณ์ Reichenbach ตลอดชีวิตของเขาแม้ว่าจะมีการทดลองซ้ำหลายครั้งซึ่งนำหลักฐานที่หักล้างไม่ได้

ด้วยความเชื่อมั่นอย่างแน่วแน่ในลักษณะทางกายภาพของการค้นพบของเขา Reichenbach เองก็มีปัญหาในการยอมรับความคิดเกี่ยวกับความเป็นกลางของการผลักดันให้มีการรับรู้ถึงความอ่อนไหวโดยการวิจัยของเขา เขาแยกความแตกต่างระหว่างคนที่ไวกว่าและไวน้อยกว่า ในช่วงเวลาเดียวกัน James Maxwell นักฟิสิกส์ชาวอังกฤษได้ตั้งสมมติฐานเกี่ยวกับการมีอยู่ของอีเธอร์ในรูปของโครงสร้างที่ละเอียดกว่าของสสารมากกว่า ร่างกายที่มองเห็นได้ที่มีอยู่ในส่วนใดส่วนหนึ่งของจักรวาลที่ดูเหมือนว่างเปล่าสำหรับบุคคล ในตอนต้นของศตวรรษที่ 20 การศึกษาอีเธอร์หยุดลงเนื่องจากคำกล่าวที่ไอน์สไตน์เสนอว่าไม่มีอยู่จริงได้รับการยอมรับจากนักวิทยาศาสตร์จำนวนมาก

เฉพาะในปี 2494 นักฟิสิกส์ชาวอังกฤษและผู้ได้รับรางวัลโนเบล Paul Dirac ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง คำถามนี้"ด้วยวิธีทางคณิตศาสตร์" ว่าอีเธอร์ของจักรวาลนั้นมีอยู่จริง หลังจากนั้น ตำแหน่งของไอน์สไตน์เกี่ยวกับการมีอยู่ของอีเธอร์ก็ได้รับการแก้ไขโดยตัวเขาเองซึ่งโดยหลักการแล้วเขาแก้ไขตลอดชีวิตของเขา ตั้งแต่นั้นมาคำกล่าวของนักวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับการมีอยู่ของของเหลวในอวกาศหรืออีเธอร์ในจักรวาลก็ได้ข้อสรุปในการทดลองของพวกเขาเอง ตัวอย่างจาก ตำนานและข้อความจากวิทยาศาสตร์กายภาพในยุคต่อมาก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าเราอาศัยพลังแห่งจักรวาลซึ่งมีอยู่จริงและปล่อยให้กระบวนการต่างๆ ของชีวิตดำเนินไป เราก็สามารถสรุปได้ ประการแรก การดำรงอยู่ของชีวิตถือเป็นสิ่งที่กำหนดขึ้นตั้งแต่ยุคกลางใน วัฒนธรรมโลกต่าง ๆ ประการที่สอง การปรากฏตัวของพลังงานในอวกาศและการศึกษานักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุก ๆ เรื่อง ดังนั้นคำถามจึงเกิดขึ้นว่าเรากำลังพูดถึงปรากฏการณ์ทางกายภาพเดียวกันหรือไม่ - มันคุ้มค่าที่จะเปรียบเทียบ คำพูดของบรรพบุรุษของเราเกี่ยวกับ "พลังงานชีวิต" และคำพูดของนักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับอีเทอร์ว่าเป็นพลังงานจักรวาล

Reich แพทย์ชาวออสเตรียได้ทำการศึกษากระแสพืช (นั่นคือหมดสติไม่อยู่ภายใต้อิทธิพลของเจตจำนง) ในร่างกายมนุษย์ เขาสันนิษฐานว่ามีอยู่ในพื้นที่ซึ่งร่างกายมนุษย์สามารถดูดซับรวมทั้งสะสมและขับออกได้ เขาเรียกสิ่งนี้ว่า พลังงาน Orgone และแสดงกระบวนการปลดปล่อย สะสม และรับตามสูตรต่อไปนี้: "แรงดัน - การชาร์จ - การขนถ่าย - การผ่อนคลาย" พนักงานที่ใกล้ชิดที่สุดคนหนึ่งของแพทย์คนนี้ได้อธิบายถึงบทบาทของการเต้นเป็นจังหวะทางชีวภาพนี้ใน สนามทั่วไปของสิ่งมีชีวิต

เขาเชื่อว่าการประหยัดพลังงานของร่างกายถูกควบคุมโดยการเต้นเป็นจังหวะในลักษณะเดียวกับที่เลือดไปเลี้ยงอวัยวะทั้งหมดเนื่องจากการเต้นของหัวใจ ในความคิดของเขา ระบบอัตโนมัติหรือระบบพืชซึ่งส่งผลต่อการย่อยอาหาร เรื่องเพศ อารมณ์ การหายใจและการไหลเวียนของเลือดนั้นควบคุมสถานะของการเปลี่ยนแปลง นั่นคือ เมแทบอลิซึมของมัน

ตัวอย่างเช่น ลมหายใจถูกควบคุมโดยเจตจำนงในระดับหนึ่งและรวมศูนย์ ระบบประสาทส่วนใหญ่. ดังนั้นระบบทางเดินหายใจจึงช่วยให้บุคคลสามารถเจาะเข้าไปในจังหวะการเต้นของหัวใจของร่างกายได้ฟรี เมตาบอลิซึมอิสระของสิ่งมีชีวิตใด ๆ เป็นพื้นฐานของมัน นั่นคือคุณสามารถรับรู้ได้จากการเต้นเป็นจังหวะทางชีวภาพที่ไม่มีสิ่งกีดขวาง ในขั้นต้น Orgon ถูกแปลเป็นภาษาท้องถิ่นโดย Reich ในรูปแบบของการแผ่รังสีที่ออกจากสิ่งมีชีวิตเท่านั้น ” ค้นพบโดยนักวิทยาศาสตร์ก่อนหน้านี้เล็กน้อย ดังนั้นการแลกเปลี่ยนฟรีจึงเกิดขึ้นเป็นประจำ

นั่นคือ Orgon สามารถสร้างระบบทั้งหมดได้ เช่น ดวงอาทิตย์ ดาวเคราะห์ หรือแม้แต่กาแล็กซี ดังนั้นอีเธอร์อธิบายโดยนักวิทยาศาสตร์หลายคน Orgon อธิบายโดย Reich จักรวาลอธิบายโดยคนโบราณและ ทิศทางต่างๆ- ทั้งหมดนี้มีความสัมพันธ์ร่วมกันและแม้จะมีความแตกต่างเล็กน้อย แต่ก็ยังมีความคล้ายคลึงกันที่ชัดเจนและเด่นชัดระหว่างแนวคิดเหล่านี้

แบ่งปันบทความกับเพื่อนของคุณ!

พลังงานอวกาศ

https://website/wp-content/uploads/2016/05/0_25efb_ef4f3ff_XL-150x150.jpg

การดำรงอยู่ของพลังงานจักรวาลสากลที่มนุษย์ใช้เพื่อตระหนักถึงปรากฏการณ์เหนือสัมผัสของเขานั้นถูกจินตนาการโดยผู้คนหลากหลายเมื่อหลายศตวรรษก่อน ปรัชญาอินเดียแสดงให้เห็นหนึ่งในแนวคิดที่น่าสนใจที่สุด นั่นคือการมีอยู่ของปราณา นั่นคือพลังงานจักรวาลที่มีอยู่ในห้ารูปแบบที่แตกต่างกัน และสนับสนุนกระบวนการชีวิตต่างๆ เช่น "ลมของร่างกาย" หนังสือศักดิ์สิทธิ์ของชาวพุทธและฮินดู...

ขัดเกลาความคิด ความรู้สึก และร่างกายของเขา เขาขัดเกลาสสารทั้งสามสายที่ไหลผ่านพิภพเล็ก ๆ ของเขา ดังนั้นจึงช่วยเร่งกระบวนการวิวัฒนาการของโลกและมนุษยชาติบนโลก Masters ให้บริการเพื่อการเปลี่ยนแปลงของโลก เป้าหมายเดียวกันคือทุกคนที่ติดตามพระองค์อย่างมีสติ ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือคนธรรมดาทำงานเหมือนทาส ในขณะที่คนที่รู้จักทำงานอย่างมีสติและอิสระ และอุปกรณ์ที่น่าอัศจรรย์ ซับซ้อน และน่าทึ่งของพิภพเล็กของมนุษย์ที่มีความเป็นไปได้ที่ไม่รู้จักหมดสิ้นของศักยภาพอันร้อนแรงที่แผ่ออกมาอย่างต่อเนื่องทำหน้าที่เป็นเครื่องมือหรือเครื่องมือ อนาคตที่ร้อนแรงของมนุษย์นั้นยิ่งใหญ่และเทียบไม่ได้กับรูปแบบชั่วคราวของการแสดงออกของเขาซึ่งเขาแสดงออกในช่วงเวลาปัจจุบัน แสงสว่างเบื้องหน้านั้นยิ่งใหญ่ และแสงสว่างแห่งอนาคตก็เทียบไม่ได้กับความมืดในปัจจุบัน
แง่มุมของ Agni Yoga, 1972 จาก 1954 24 A. Novosibirsk, Algim, 1998

มนุษย์เป็นผู้เปลี่ยนรูปของพลังงานเชิงพื้นที่ (1) *
(จากข้อความของแหล่งข่าวระดับสูง)

(มารดาแห่งโลก). แน่นอน บุคลิกลักษณะที่ยิ่งใหญ่แต่ละคนมีที่อยู่อาศัยในออร่าของดาวดวงหนึ่งในร่างกายหรือไม่มีตัวตน นั่นคือเหตุผลที่ My Star ถูกเรียกว่า Star of the Mother of the World คนโบราณตั้งชื่อเทพเจ้าตามดวงดาวได้ถูกต้อง เพราะแต่ละองค์มีมัคคุเทศก์ติดตัวไปด้วย ความผิดพลาดคือพวกเขามอบวิญญาณที่ยิ่งใหญ่เหล่านี้ด้วยลักษณะและคุณสมบัติของมนุษย์ล้วนๆ แต่พวกเขาคิดถูกที่ถือว่าพวกเขาเป็นคน พวกเขาทั้งหมดออกมาจากสิ่งแวดล้อมของมนุษยชาติ กลายเป็น Planetary Spirits หรือที่เรียกกันก่อนหน้านี้ว่า Planetary Geniuses พระเจ้าผู้ทรงนำทางโลกของคุณคือหนึ่งในนั้น ดาวเคราะห์ดวงนี้มีความอาวุโสของมันเอง ขึ้นอยู่กับว่าผู้นำนั้นยืนอยู่บนขั้นใดของบันไดลำดับชั้น บันไดแห่งลำดับชั้นขึ้นไปสู่อินฟินิตี้ มีขั้นตอนที่เกินกว่าความเข้าใจและเข้าใจถึงความสำคัญของพวกเขาโดยจิตใจของมนุษย์ แต่มีบันไดแห่งแสงเพียงอันเดียว และทุกคนที่ยืนอยู่บนบันไดแห่งแสงนั้นเคยผ่านการวิวัฒนาการของมนุษย์มาก่อน ดังนั้นจึงอยู่ใกล้และเข้าถึงได้ด้วยจิตสำนึกของมนุษย์ พวกเขาไม่สามารถเข้าถึงได้ด้วยความเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับสาระสำคัญของพวกเขา แต่เกี่ยวข้องกับความจริงที่ว่าใคร ๆ ก็สามารถปรารถนาถึงพวกเขาด้วยหัวใจและได้รับคำตอบจากหัวใจ คุณลักษณะที่ร้อนแรงของ Them ซึ่งยืนอยู่บนบันไดแห่งแสงคือการเข้าถึงและความสามารถในการสัมผัสพวกเขาด้วยหัวใจและจิตสำนึก หากสิ่งหลังอนุญาต ส่วนใหญ่สัมผัสได้ด้วยใจไม่รับรู้ปรากฏการณ์ แต่คุณสัมผัสฉันผ่านหัวใจของคุณด้วยจิตสำนึกของคุณ และจิตสำนึกของคุณได้รับแสงสว่างจากฉัน แปรสภาพหรือหักเหโดยแสงให้อยู่ในรูปของความคิดที่เข้าถึงได้และเข้าใจได้ นี่คือบุญอันยิ่งใหญ่ของผู้ไกล่เกลี่ยระหว่างเรากับมนุษยชาติ เนื่องจากมีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่สามารถรับรู้โดยวิญญาณอย่างมีสติและต้องขอบคุณการปรับแต่งของผู้รับด้วยการหักเหในรูปแบบที่เข้าใจได้ ชัดเจนและแม่นยำ ถ่ายทอดความเข้าใจเรื่อง Light down the Ladder เครื่องรับที่เลือกมีค่าเพราะทำหน้าที่เป็นสื่อกลาง เครื่องส่ง และผู้รวมพลังงานที่ร้อนแรงกว่ากับทรงกลมของโลกและมนุษย์ ข้อดีของพวกเขาคือพวกเขาได้รับพลังงานที่สูงขึ้นจากอวกาศและเทลงในแบบฟอร์มเติมรัศมีของโลกด้วยพวกเขา นี่คือของขวัญที่มอบให้ดาวบ้านเกิดของพวกเขา และนี่คือความหมายของบริการอันยิ่งใหญ่ของพวกเขา การปฏิบัติตามบริการเชิงพื้นที่หมายถึงการนำของขวัญเชิงพื้นที่มาสู่โลกเพื่อให้ทุกคนที่มีความสามารถสามารถใช้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านั้นได้ ดังนั้น โดยการหักเหไฟหรือพลังงานในจักรวาลและอวกาศให้เป็นรูปแบบ มนุษย์จึงบรรลุจุดประสงค์สูงสุดบนโลกใบนี้ ดังนั้นฉันจึงพูดว่า: ดีสำหรับพวกเขาแสงสว่างของโลก

ลูกเอ๋ย ต้องรักษาเครื่องวิญญาณให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ร่างกาย สมอง และระบบประสาทเป็นเครื่องมือของวิญญาณ พวกมันปรากฏตัวในโลกของสสารหนาแน่น เมื่อสสารที่ก่อตัวเป็นร่างกายได้รับการขัดเกลาหรือทำให้บริสุทธิ์เพียงพอ นั่นคือ มีจิตวิญญาณเพียงพอ มันจะปล่อยประกายไฟที่ปล่อยออกมาอย่างอิสระไปยังสสารที่สูงกว่าซึ่งส่งมาจากบีม การปรับแต่งร่างกายนั้นยังไม่เพียงพอ แต่จำเป็นต้องรักษาระดับการปรับแต่งและปรับแต่งเพิ่มเติม ภารกิจทั่วไปของมนุษย์ เช่นเดียวกับสิ่งมีชีวิตทุกรูปแบบ คือการผ่านสสารทางโลกผ่านตัวมันเอง และด้วยเหตุนี้จึงแปรรูปสสารให้อยู่ในรูปแบบที่ละเอียดยิ่งขึ้น Chernozem, ปูนขาว, น้ำมัน, ถ่านหิน, ชั้นที่อุดมสมบูรณ์ของเปลือกโลก, ตะกอน, พีทและอื่น ๆ - ทั้งหมดนี้เป็นผลิตภัณฑ์จากการแปรรูปหรือซากสัตว์และพืชที่เคยอาศัยอยู่บนโลก ภารกิจของมนุษย์สูงขึ้น ประกอบด้วยการทำให้เกิดจิตวิญญาณของสสารโดยพลังของวิญญาณ สสารหลายพันล้านตันที่ผ่านเข้าสู่ร่างกายมนุษย์หรือหลงเหลืออยู่ในเปลือกหอยที่มนุษย์ทิ้งไปนั้นเป็นส่วนหนึ่งของเปลือกโลกและปรับองค์ประกอบของมันอย่างต่อเนื่อง เป้าหมายสูงสุดของดาวเคราะห์ดวงนี้คือการทำให้บางลงและถูกปล่อยออกมาจนถึงระดับความหนาแน่นที่มองไม่เห็น และเพื่อสร้างบ้านแห่งวิญญาณสำหรับมนุษย์ในอวกาศ ในรอบสุดท้ายของการแข่งขันรอบที่ 7 กระบวนการนี้จะสิ้นสุดลง ร่างกายของมนุษย์จะมองไม่เห็น และร่างกายของโลกจะมองไม่เห็น เรามีต้นแบบของการปรับแต่งนี้ในกายทิพย์ จิต และไฟของมนุษย์

ในแง่ของความค่อยเป็นค่อยไปในขั้นตอนของวิวัฒนาการที่กำหนด ทุกสิ่งถูกนำพาไปสู่อินฟินิตี้และดำรงอยู่ในรูปแบบของรูปแบบสูงสุด ซึ่งบรรลุผลในกระบวนการพัฒนา ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของปรากฏการณ์นี้ จุดสมดุลที่ต่ำกว่าในกระบวนการของการหยาบและการบดอัดของสสารโดยมนุษย์และดาวเคราะห์ได้ผ่านพ้นไปนานแล้ว และกระบวนการของการปรับแต่งดาวเคราะห์และการเปลี่ยนแปลงของเนื้อโลกกำลังดำเนินไป ทวีความรุนแรงและเร่งขึ้นตลอดเวลา จากละเอียดสู่หนาแน่น จากหนาแน่นสู่บอบบางและเร่าร้อน - นั่นคือเส้นทางที่ต้องข้ามไป ธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงของสสารส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับ สภาพจิตวิญญาณความเป็นมนุษย์และความสูงที่พวกเขาไปถึง กระบวนการนี้เป็นเอกภพและเป็นการแสดงออกถึงพระราชกฤษฎีกาแห่งเจตจำนงแห่งจักรวาล สิ่งมีชีวิตทั้งหมดบริจาคเปลือกของมันเพื่อการเปลี่ยนแปลงของโลกที่พวกเขาอาศัยอยู่ และกระบวนการชีวิตที่เกิดขึ้นในเปลือกเหล่านี้ก็มีจุดประสงค์เดียวกัน นี่คือการเสียสละอันยิ่งใหญ่ของสิ่งมีชีวิตทั้งมวล มอบรูปแบบภายนอกให้กับการเปลี่ยนแปลงของโลกด้วยพลังแห่งชีวิตที่มีอยู่ในตัว เป็นการง่ายที่จะตรวจจับชั้นของถ่านหินหรือชั้นที่มีน้ำมันเป็นกองซากของสิ่งมีชีวิตที่ครั้งหนึ่งเคยมีชีวิตอยู่ในทั้งสองอาณาจักร แต่เป็นการยากกว่ามากที่จะเห็นการสะสมที่ตกผลึกของความรู้สึก อารมณ์ และความคิดของมนุษย์ในรัศมีของดาวเคราะห์ ในขณะที่โลกทั้งดวงเต็มไปด้วยดวงดาว ผลิตภัณฑ์ทางจิตความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์

ไม่มีสิ่งใดในธรรมชาติที่หายไปซึ่งก่อให้เกิดความคิดมากมายที่มนุษย์สร้างขึ้น รูปแบบเหล่านี้และพลังงานที่เคลื่อนไหวเหล่านี้ไปอยู่ที่ไหน และพวกมันก่อตัวขึ้นในอวกาศอย่างไร ถ่านหินกองดาวและจิตใจที่มองเห็นได้ แต่มองไม่เห็น บางส่วนสามารถเห็นได้ในอาคารและรูปแบบอื่น ๆ ที่นำมาใช้บนโลกและในขณะที่เป็นอยู่ สสารหนาแน่นที่ตกผลึกแสดงความคิดหรือความคิดที่ก่อตัวขึ้น แต่กี่สิ่งสร้างด้วยมือมนุษย์ถูกทำลายและกลายเป็นอดีตไปแล้ว ทุกสิ่งที่เคยมีและมีอยู่บนโลกนี้มีอยู่ในบันทึกของอวกาศแล้ว โลกที่มองไม่เห็นเต็มไปด้วยภาพที่ครั้งหนึ่งเคยปรากฏบนโลกและไปถึงในขอบเขตของสิ่งมีชีวิตที่มองไม่เห็น โลกคือท่อลำเลียงที่ส่งรูปแบบวัสดุที่มีความหนาแน่นสูงในรูปที่ละเอียดอ่อนอย่างต่อเนื่องไปยังเอกสารสำคัญของธรรมชาติเพื่อให้คงอยู่ตลอดไป ไม่มีอะไรหายไป และมนุษยชาติคือตัวเปลี่ยนที่ทรงพลังจากความหนาแน่นไปสู่ความละเอียดอ่อน ซึ่งเป็นผู้นำกระบวนการนี้ มันง่ายที่จะจินตนาการถึงความคิดและความรู้สึกที่ล่องหน แต่ไม่มีเมืองแห่ง Golden Gates ไม่มีบาบิโลนไม่มีคาร์เธจ - พวกเขายังเข้าไปในโลกที่มองไม่เห็นและจมดิ่งลงไปในบันทึกของความคิดโบราณเชิงพื้นที่ ภาพที่เผาไหม้ไม่หายไป แต่ยังคงอยู่ในอวกาศในเปลือกบางของมัน ความลึกของการเป็นนับไม่ถ้วนไม่มีอะไรหายไป

เพื่อนเอ๋ย กระแสแห่งจักรวาลแห่งความคิดอันสูงสุดได้ชะล้างรากฐานของฐานที่มั่นบนภูเขาอย่างต่อเนื่อง ฐานที่มั่นเปิดสู่โลก ไฟที่สะสมมานับพันปี แสดงให้เห็นถึงพลังแม่เหล็กและดึงดูดเปลวไฟในอวกาศ ด้วยพลังของไฟที่รวมกันเหล่านี้ทำให้ดาวเคราะห์ดำรงอยู่ได้ ฐานที่มั่นเป็นตัวควบคุมไฟของดาวเคราะห์และความแรงของความตึงเครียดของไฟใต้ดิน พลังแห่งหัวใจที่รวมเป็นหนึ่งเดียวกันของ Brothers of Humanity ซึ่งเป็นพลังที่ร้อนแรง ช่วยให้คุณควบคุมไฟและป้องกันไม่ให้ไฟลุกลาม ความยากลำบากอยู่ที่ความจริงที่ว่ามนุษย์ซึ่งเป็นหม้อแปลงไฟฟ้าและตัวควบคุมไฟเชิงพื้นที่และใต้ดินนั้นไม่บรรลุวัตถุประสงค์ที่ดี ละเมิดสภาวะที่กลมกลืนกันของความสมดุลที่ร้อนแรงของสิ่งมีชีวิตในโลกด้วยความคิดและการกระทำที่วุ่นวาย ความผิดปกติเหล่านี้ทำให้เกิดโรคทั้งในร่างกายมนุษย์และในร่างกายของโลก โลกป่วยด้วยความไม่สมดุล สาเหตุของมันคือผู้ชาย กระบวนการนี้ทำให้องค์ประกอบไม่สมดุล และเป็นผลให้ดาวเคราะห์ถูกคุกคามจากความเป็นไปได้ของการระเบิดทั้งหมดหรือบางส่วน หลีกเลี่ยงหายนะได้ยาก สถานการณ์ปัจจุบันหัวใจของมนุษย์

ที่ยิ่งใหญ่คือพลังแห่งอิทธิพลของหัวใจนับพันล้านดวง และมันอันตรายมากเมื่อมันเต้นผิดจังหวะ ประชาชนต้องสมัครสมานสามัคคี ความร่วมมือระหว่างผู้คนจะนำมาซึ่งความร่วมมือกับพลังแห่งธรรมชาติและจะช่วยสร้างความสมดุลโดยทั่วไป ทุกความปรารถนา ทุกความพยายาม และทุกความพยายามที่จะสร้างสันติภาพบนโลกต้องได้รับการต้อนรับ สันติภาพจะต้องเกิดขึ้นโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ มิฉะนั้นโลกจะไม่คงอยู่ นกพิราบเป็นสัญลักษณ์ของลำดับชั้น จำเป็นต้องเข้าใจว่าการเรียกร้องสันติภาพของคนทั้งโลกมาจากไหน และทุกคนที่ทุ่มเทความคิดและหัวใจของเขาต่อการเรียกร้องสูงสุดจะเป็นผู้ร่วมมือกับเรา ดังนั้น แต่ละคนขึ้นอยู่กับทิศทางของความคิด สามารถกลายเป็นศัตรูหรือผู้ทำงานร่วมกันของวิวัฒนาการ ไม่จำเป็นต้องมีการกระทำหรือการตัดสินใจพิเศษในการเป็นศัตรูของแสงหรือผู้พิทักษ์ คุณเพียงแค่ต้องตรวจสอบความคิดและความรู้สึกของคุณและทำการตัดสินใจขั้นสุดท้าย สติที่ฟุ้งซ่านมีแต่จะทำให้สถานการณ์ซับซ้อนขึ้น ทำให้เกิดความสับสนอลหม่านมากยิ่งขึ้น ตอนนี้เราต้องเห็นด้วยกับสิ่งสำคัญรายละเอียดจะเข้ามาแทนที่ ธงแห่งสันติภาพอยู่ในมือของผู้สร้างชีวิตใหม่ สวรรค์ใหม่ และโลกใหม่ เจตจำนงของจักรวาลมีวิธีในการบรรลุจุดหมายปลายทางที่สูงขึ้น นกพิราบแห่งสันติภาพ - สัญลักษณ์ของเรา วิธีที่ลึกลับ

ความโกรธเกรี้ยวของความเห็นแก่ตัวก่อตัวขึ้นในมนุษย์ ต่อต้านการดูแคลนบุคลิกภาพ ต่อต้านการขยายตัวของจิตสำนึก ต่อต้านการเติบโตและการเปลี่ยนแปลงไปสู่จิตสำนึกแห่งจักรวาล จิตสำนึกส่วนบุคคลเติบโตและพัฒนาตามแผนวิวัฒนาการและจำเป็นสำหรับขั้นตอนที่จำเป็นในการสำแดงรูปแบบถัดไปที่สูงกว่า แต่ขั้นตอนนี้ผ่านไปแล้ว ชายชราปกป้องทรัพย์สินของเขาอย่างฉุนเฉียว ซึ่งได้มาด้วยความลำบากเช่นนี้ แต่กระแสแห่งชีวิตไม่หยุดนิ่ง มนุษยชาติกำลังเคลื่อนไปสู่แนวทางส่วนรวม ไม่ว่าจะต้องการหรือไม่ก็ตาม ส่วนรวมจะขยายจิตสำนึกและยึดติดกับวงกลมที่กว้างขึ้น ส่วนรวมเติบโตขึ้นในที่สุดโอบกอดมนุษยชาติทั้งหมดในโลกเพื่อที่จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของมนุษยชาติสากล จิ้งหรีดรู้ที่อยู่ของมันหลังเตา ในมุมมืด แต่ผู้ชายไม่ใช่จิ้งหรีด อาณาจักรของเขาคือจักรวาล โลกเป็นทรัพย์สินและเป้าหมายของเขา แต่จิตสำนึกส่วนบุคคลไม่สามารถสัมผัสดวงดาวที่อยู่ห่างไกลได้ คุณต้องออกห่างจากตัวเองมากเกินไป ดังนั้นการละทิ้งตนเองจากส่วนตัวจึงได้รับคำสั่งให้สัมผัสจักรวาล

หากเราถือว่าบุคลิกภาพเป็นหนทางไปสู่เป้าหมายที่ห่างไกลและเป็นขั้นกลางที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในการพัฒนาจิตสำนึก การเปลี่ยนไปสู่รูปแบบต่อไปจะไม่เจ็บปวดมากนัก แต่การเติมเต็มส่วนบุคคลจะไม่นำไปสู่เป้าหมาย ในที่สุดก็จะนำไปสู่ทางตันซึ่งไม่มีทางออก มีเพียงการลอยขึ้นเหนือทรงกลมของสิ่งรอบข้างเท่านั้น สติสัมปชัญญะสามารถทะลุเปลือกออร่าของไข่ที่ล้อมรอบตัวมนุษย์และเข้าสู่พื้นที่กว้างใหญ่ของจักรวาลได้ มิฉะนั้นเขาจะเริ่มหายใจไม่ออกในกรอบแคบของความเล็กของเขา อากาศแห่งชีวิตไม่เพียงพออีกต่อไปสำหรับผู้ที่โตเกินร่างที่โตแล้ว ชุดเด็กและเป็นผู้นุ่งห่มแล้วในกาลก่อน. ทุกอย่างเติบโตในลักษณะนี้ และไม่น่าแปลกใจที่ผีเสื้อต้องการสลัดรังไหมที่มันไม่ต้องการอีกต่อไป อยากสยายปีกออกไปสู่ที่โล่งสู่ดวงอาทิตย์ วิญญาณคับแคบในรังของเปลือกที่ล้าสมัย เขาต้องการอิสระ ซึ่งหมายความว่าถึงเวลาแล้วที่นกอินทรีจะกางปีกออกและรีบบิน มันอยู่ในเปลือกไข่ เปลือกแตก เขาไม่มีปีกและทำอะไรไม่ถูก แต่มันจบลงแล้ว และนำหน้าอิสรภาพและเที่ยวบิน พื้นที่เปิดกว้างสำหรับผู้ที่ติดปีก

มนุษยชาติซึ่งเป็นผู้เปลี่ยนพลังงานเชิงพื้นที่ มีหน้าที่ในการเปลี่ยนแปลงพวกมันให้ดี แม้แต่การรวมตัวของผู้ทรงคุณวุฒิที่ไม่เอื้ออำนวยก็มีพลังที่จะใช้เพื่อการสร้างสรรค์ ไม่มีอะไรดีหรือชั่วในตัวมันเอง สติทำให้ทุกสิ่งเป็นเช่นนี้ ดีหรือชั่ว หรือเปลี่ยนให้เป็นดีหรือชั่ว พลังถูกมอบให้กับมนุษย์ หักเหพลังงานจักรวาลในตัวเอง แต่งแต้มด้วยแสงหรือความมืด ธรรมชาติของมันขึ้นอยู่กับมุมของการใช้พลังงาน ดาบที่ยกขึ้นจะยกขึ้นเพื่อป้องกันความดีหรือความชั่ว ดังนั้นมนุษย์จึงถูกเรียกว่าเจ้าแห่งพลังจักรวาล และความชั่วร้ายยิ่งใหญ่หากแสงสว่างในตัวเขาคือความมืด และยิ่งแย่ไปกว่านั้นหากความมืดนี้รวมเป็นหมู่ หน้าที่ของเราคือส่งพลังงานของมนุษย์ไปสู่การสร้างสรรค์และการก่อสร้าง สิ่งนี้มีความสำคัญในขณะนี้ เมื่อมหาสมุทรโลกส่งประจุพลังงานจักรวาลที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนมายังโลก

คุณจัดการมรดกของคุณอย่างไร? คุณสามารถกำจัดและไม่ฉลาด นำพลังนี้ไปสู่ความชั่วร้าย ไม่ว่าคนอื่นจะครอบครองเธอหรือเธอ ความชำนาญหมายถึงการควบคุมและการยอมจำนน มิฉะนั้นจะทุบทำนบและทำนบพังหมดเหมือนน้ำในแม่น้ำเชี่ยวที่ไหลผ่าน แล้วจะสายเกินไปที่จะคิดเกี่ยวกับวิธีส่งคลื่นการทำงานไปยังกังหันเพราะจะไม่มีทั้งกังหันหรือการติดตั้งหรือตัวเขื่อน ต้องควบคุมความบ้าคลั่งก่อนที่จะสายเกินไป เราอยู่ในความตึงเครียดที่ผิดปกติในหอคอย และเราขอให้คุณช่วยโดยการใกล้ชิดยิ่งขึ้น เราจะส่งประจุลบล้างพลังงานผ่านคุณ ดังนั้นจงรักษาสมดุลให้ตึงที่สุด หากไม่มีสิ่งนี้ พวกเขาก็ไร้ประโยชน์ และเจ้าก็ไม่สามารถช่วยเราได้ ฉันพูดว่าตอนนี้ฉันต้องการจากคุณที่จะรักษาความสมดุลไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของคุณเองอีกต่อไป แต่เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม จากนั้นเครื่องรับของคุณจะสามารถทนต่อการปล่อยพลังงานที่ส่งออกมาอย่างทรงพลัง และยิ่งกว่านั้น โดยไม่มีผลกระทบพิเศษใดๆ ต่อร่างกาย แต่มีประโยชน์อย่างมากต่อโลก ผู้รับจิตสำนึกซึ่งไม่ได้สร้างและรักษาความสมดุลสูญเสียความสามารถในการบรรจุและไม่เป็นระเบียบ เป็นเรื่องน่าเศร้าหากสิ่งนี้เกิดขึ้นในเวลาที่เราต้องการความช่วยเหลือจากคุณ และไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของคุณเอง แต่เพื่อประโยชน์ของครู จงรักษายอดคงเหลือไว้ทุกวิถีทาง ในเวลาเดียวกัน นี่จะเป็นบททดสอบว่าใครมีค่าอะไร และที่ใด คำพูดและการกระทำเริ่มต้นที่ใด ผู้ที่ไม่ผ่านการทดสอบจะถูกหักออกจากบัญชีว่าเป็นคนอ่อนแอ ไม่น่าเชื่อถือ และไร้ประโยชน์ในช่วงเวลาที่จำเป็นจริงๆ และฉันไม่ได้ถาม แต่ฉันต้องการความสมดุลของจิตวิญญาณ ถ้าคุณต้องการแบ่งปันภาระของฉันในช่วงเวลาแห่งความตึงเครียดเฉียบพลันและอันตรายร่วมกัน

มีการพูดถึงความสมดุลมากมาย ตอนนี้ฉันต้องการชี้ให้เห็นถึงความสำคัญเชิงพื้นที่และดาวเคราะห์สำหรับผู้ที่สัมผัสกับงานเชิงพื้นที่ เป็นไปไม่ได้ที่จะดูแลและรักษาให้เป็นระเบียบของเส้นตารางแสงของดาวเคราะห์หากอยู่ในสภาวะที่ไม่สมดุล พื้นผิวที่บิดเบี้ยวของกระจกแห่งวิญญาณจะบิดเบือนรังสีที่ส่งมา ทำลายการเชื่อมต่อระหว่างกันและความกลมกลืน และส่งความวุ่นวายของการสั่นสะเทือนที่ไม่สงบแทนที่จะเป็นรังสีแห่งแสงที่บริสุทธิ์ ชัดเจน และเยียวยา หากไฟที่กะพริบและซีดจางบนบีคอนสามารถทำให้เกิดหายนะได้ สิ่งที่สามารถพูดได้เกี่ยวกับบีคอนของแสงคือการเผาไหม้ด้วยแสงของฉัน หากความไม่สมดุลภายในรบกวนการจ่ายแสง ความมืดจะไม่มาแทนที่รังสีของแสงหรือ? สำนึกรับผิดชอบต่อโลก! ไร้สาระสิ้นดี! ไม่ใช่เพื่อตัวคุณเอง - เป็นอันตรายต่อสาเหตุทั่วไป ของดีทั่วไปและสร้างบาดแผลให้กับแสงด้วยความไม่รับผิดชอบของคุณ และคุณยืนยันความสมดุลในนามของฉันและเพื่อประโยชน์ของฉัน เพราะมันจะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ ข้าพเจ้าวิงวอนต่อคนตายไม่ได้ แต่ขอร้องต่อคนเป็น ฉันจะพึ่งพาใครได้ ในช่วงเวลาที่ขัดสนที่สุด ฉันจะพบว่าเขาตื่นอยู่อย่างระแวดระวังขณะลาดตระเวน? คอยดูเพราะเจ้าไม่รู้วันหรือชั่วโมง ฉันพูดว่า.

ปิรามิดที่สวยงามหลายแห่งเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมในเปรู ตัวอย่างเช่น พีระมิดที่ Pahacamac ความสูงของพีระมิดใน Pahacamac นี้คือ 76.2 ม. และฐานสี่เหลี่ยมมีขนาด 152.4 x 121.9 ม. วิหารที่ Tiwanaku ยังเป็นปิรามิดหิน
เมื่อเร็ว ๆ นี้ที่ชายแดนกับที่ราบสูง Nazca นักโบราณคดีได้ค้นพบเมืองโบราณของชาวอินคา จนถึงปัจจุบัน เมืองทั้งเมืองถูกฝังอยู่ในทราย นักวิทยาศาสตร์ได้ขุดยอดปิรามิดเพียงบางส่วนเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าเป็นเมืองที่ค่อนข้างใหญ่ มีบ้านหินขนาดใหญ่และปิรามิดขนาดใหญ่ แม่น้ำไหลออกไปนอกเมือง อีกด้านหนึ่งมีภาพวาดที่มีชื่อเสียงของที่ราบสูงนาซกา
นี่คือสิ่งที่ดรุนวาโล เมลคีเซเดคบอกเกี่ยวกับเมืองนี้: “ประมาณห้าร้อยปีที่แล้ว หมอผีท้องถิ่นรู้ว่าชาวสเปนผู้พิชิตจะมา อารยธรรมทั้งหมดกำลังตกอยู่ในอันตราย และพวกเขารู้ว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นเมื่อใด และพวกเขาจัดพิธีหันหน้าไปทางลมเพื่อซ่อนเมืองนี้ ในระหว่างพิธี ลมแรงขึ้นซึ่งพัดและพัดจนเมืองทั้งเมืองที่มีอาคารทั้งหมดและปิรามิดขนาดใหญ่ถูกซ่อนอยู่ใต้ทรายจนไม่มีใครคิดว่าเขาอยู่ที่นี่ สิ่งมหัศจรรย์คือที่อีกฝั่งของแม่น้ำ เส้นของภาพวาดที่จะมองไม่เห็นหากถมดินอย่างน้อย 2 เซนติเมตรลงไปยังคงไม่บุบสลาย กล่าวคือลมพัดเพียงด้านเดียวของแม่น้ำ
ที่น่าสนใจคือ ไม่นานก่อนการค้นพบเมืองโบราณ ในการประชุมที่กรุงโรม มีการประกาศว่ามองเห็นพีระมิดจำนวนมากบนภาพถ่ายดาวเทียมที่ถ่ายในทะเลทรายคาอัวชีในเปรู การค้นพบนี้เกิดขึ้นโดยใช้เทคโนโลยีการสำรวจระยะไกลแบบใหม่ที่ใช้กับดาวเทียมดวงใหม่ Nicola Masini และ Rosa Lasanponara จากสภาวิจัยแห่งชาติอิตาลี (NCR) ศึกษาภาพถ่ายที่ถ่ายโดยดาวเทียม Quickbird ซึ่งพวกเขาใช้ในการสำรวจที่ราบสูงเปรู ด้วยการกรองภาพถ่ายด้วยอินฟราเรดและสเปกตรัม โครงร่างของคอมเพล็กซ์เสี้ยมขนาดใหญ่จึงปรากฏขึ้น ปิรามิดที่ชายแดนกับที่ราบสูง Nazca ซึ่งซ่อนอยู่ในทรายตั้งอยู่บนพื้นที่มากกว่า 10,000 ตารางกิโลเมตร
ปัจจุบันปิรามิดจำนวนมากสูญหายไปในอเมริกาใต้ พวกเขาถูกซ่อนจากการมองเห็น คนสมัยใหม่ความโล่งใจที่ซับซ้อน พืชพรรณเขตร้อนอันเขียวชอุ่ม ความรู้เพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับทวีปนี้ ตัวอย่างเช่น ตำนานโบราณของชนเผ่าอินเดียนแดง Mogulala ในอเมริกาใต้ เล่าถึงความรุ่งโรจน์อันดังของเมืองอาคาฮิมาอันลึกลับ ซึ่งอุปกรณ์ทางเทคนิคของเทพเจ้า ความลับ และความลึกลับของพวกเขายังคงถูกซ่อนอยู่ ใจกลางเมืองมีปิรามิดขนาดใหญ่สามแห่ง (สูงประมาณ 250 เมตร!) หลายคนพยายามค้นหาเมืองนี้ไม่สำเร็จด้วยความกระหายที่จะครอบครองสมบัติและความลับอันแพรวพราวของเทพเจ้า แต่ตำนานของชาวอินเดียกล่าวว่ามีเพียง บริสุทธิ์ใจสามารถย่างเท้าบนแดนศักดิ์สิทธิ์ของมหานครได้ และในช่วงต้นทศวรรษที่ 80 ของศตวรรษที่แล้ว การเดินทางของ Brandão ชาวบราซิลได้ยืนยันตำนานโบราณ หลังจากการเดินทางอันเหน็ดเหนื่อยผ่านป่าอันทุรกันดารของบราซิล นักสำรวจได้รับรางวัลสำหรับความอุตสาหะของพวกเขา - ผ่านพืชพรรณอันเขียวชอุ่มของหุบเขาอันเงียบสงบ ยักษ์สามตนผงาดขึ้นอย่างภาคภูมิ และเนินเขาใกล้เคียงที่มีซากปรักหักพังของ Akahim ที่มีผมหงอก น่าเสียดายที่ภูมิภาคนี้ของบราซิลยังไม่เป็นที่เข้าใจและไม่มีการวิจัยอย่างจริงจัง ดังนั้นพีระมิดขนาดใหญ่จึงยังไม่ได้รับการศึกษาอย่างแท้จริง เช่นเดียวกับปิรามิดอื่น ๆ อีกมากมายที่ "ปลอมตัว" เช่นเดียวกับเนินเขาและยอดเขาที่ยังไม่ถูกค้นพบ

วันเกิดตรงกับวันขึ้น 6 ค่ำ คนเกิดวันเพ็ญเดือน 6 เป็นตัวนำ ผู้ถ่ายทอดพลังงานจักรวาล พวกเขามักจะเป็นนักเทศน์ที่มีตับยาว

เป็นเรื่องยากสำหรับคนเช่นนี้ทุกวันที่ 20 ตามจันทรคติ - ในเวลานี้พวกเขาอ่อนแอลงและทำเพียงเล็กน้อย ความสัมพันธ์กับผู้ที่เกิดในเวลานี้ก็ยากเช่นกัน

คนเกิดวันนี้ โชคชะตาสูงกับงานชีวิตที่สำคัญบางอย่างสำหรับโลกโดยรวม แต่ในชีวิตประจำวันพวกเขากำลังรอความยากลำบากไม่รู้จบ ผู้โง่เขลา แม่ชีเทเรซา ฯลฯ - นี่เป็นเวอร์ชันสุดท้ายของไลฟ์สไตล์ที่เขียนขึ้นในครอบครัวของผู้ที่เกิดในวันนี้

จัดการความเฉื่อยชาในธุรกิจได้ไม่ดี (การรอไม่ใช่จุดแข็งของพวกเขา) ทำให้สมดุลภายในและภายนอก ความยากลำบากในการแสดงความกล้าหาญความภาคภูมิใจ เป็นการยากที่จะได้รับสิ่งที่คุณสมควรได้รับ การแสดงความอ่อนน้อมถ่อมตน การรับรู้ความคิดเห็นและคำแนะนำอย่างเพียงพอ การประเมินตนเองและกิจกรรมของคุณอย่างเป็นกลาง

เด็กที่เกิดวันนี้จะมีอายุยืน ที่ กรณีที่ดีที่สุดตัวนำของพลังงานจักรวาลสามารถเกิดได้: คนที่รู้วิธีเปลี่ยนพลังเหล่านี้ด้วยคำพูด พวกเขาสามารถเป็นนักพูด นักเล่าเรื่อง ครูที่ดีได้ แต่คนสมัยป.6 ในทางกลับกัน ควรเอาใจใส่ต่อสิ่งที่พวกเขาพูดและสิ่งที่พวกเขาบอกเสมอ ถ้าเป็นคนมีน้อย ระดับจิตวิญญาณการพัฒนาเขาต้องได้รับการช่วยให้ตระหนักถึงความเชื่อมโยงระหว่างคำและพลังงานจักรวาล ประการแรกผู้ปกครองและครูที่เลี้ยงดูเด็กในวัยเด็กต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้

คนที่เกิดในวันเพ็ญที่ 6 เป็นตัวนำดั้งเดิมของพลังงานจักรวาล - ทั้งทางจิตใจและทางวาจา นอกจากนี้ พวกเขาควรเอาใจใส่ความคิดและคำพูดของตนเองเป็นพิเศษ เนื่องจากคำพูดของพวกเขามีพลังมหาศาล คนเหล่านี้มักจะกลายเป็นนักคิด นักปรัชญา นักจิตวิทยา พวกเขาได้รับมอบหมายให้ทำนายอนาคต ทำงานกับข้อมูลลับ สัมผัสกับปรากฏการณ์ทางจิตที่ผิดปกติ โอกาสที่จะพัฒนาความสามารถพิเศษทางประสาทสัมผัสในคนเหล่านี้จะเพิ่มขึ้นหลายเท่าหากพวกเขาฝึกฝนตนเอง มีส่วนร่วมในการทำจิตใจให้บริสุทธิ์ ทำสมาธิ และฝึกการหายใจ ตามกฎแล้วคนเหล่านี้ไวต่อกลิ่นมาก สามารถจับเฉดสีและความแตกต่างที่ละเอียดอ่อนที่สุดได้ คนเหล่านี้มักจะรู้วิธีทำงานกับคำด้วยพลังของคำ พวกเขาควรระวังให้มากเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาพูดและกับใคร - สิ่งนี้จะช่วยให้พวกเขาหลีกเลี่ยงปัญหามากมายในชีวิต คนเหล่านี้มักจะมีเสียงที่ชัดเจนและไพเราะทำให้เป็นนักร้องนักแสดงนักดนตรีที่ดี คนในวันเพ็ญที่ 6 มักจะมีอายุยืนยาวและมีสุขภาพที่ดีและจิตใจแจ่มใส

คนเกิดในไตรมาสแรกของรอบจันทรคติ เช้าของเดือน - "อาร์ทิมิส" ฉันรู้จักโลกนี้ ทำความคุ้นเคยกับมัน แก้ปัญหาทางยุทธวิธีและวางแผนยุทธวิธี ตัดสินใจ มองไปรอบ ๆ และเริ่มกระบวนการชีวิตความสัมพันธ์ทั้งหมด

เกิดในไตรมาสที่ 1 - "เด็กเล็ก" วัยก่อนเรียนและพวกเขา งานชีวิต, จุดประสงค์ที่พวกเขาเกิดมานั้นเหมือนกับเด็กทารก - เพื่อทำความรู้จักกับโลกนี้, เรียนรู้ที่จะสื่อสาร, ดูแลตัวเองและ "ประพฤติตนในผู้คน"

เกิดในไตรมาสแรก รอบจันทรคติ- "เด็กก่อนวัยเรียน" นิรันดร์คนที่มีจิตวิญญาณบริสุทธิ์ซึ่งยังไม่ได้รับประสบการณ์มากนัก พวกเขาก็เหมือนเด็กอายุต่ำกว่าสามขวบที่รู้น้อย แต่เรียนรู้และรับข้อมูลได้ง่ายกว่าคนอื่นๆ พวกเขานอนหลับมากและร่างกายและจิตวิญญาณเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะตื่นขึ้น พวกเขาต้องการการพักผ่อนมากกว่าคนอื่นๆ เพราะทุกวันพวกเขาเหมือนเด็กเล็ก ๆ ได้รับความประทับใจจากชีวิตมากกว่า "ผู้ใหญ่"

มันเหมือนว่าทุกอย่างเป็นเรื่องใหม่สำหรับพวกเขา พวกเขาทำทุกอย่างตามมูลค่า มันง่ายกว่าสำหรับพวกเขาที่จะเปิดโลกทัศน์และคนอื่น ๆ

พวกเขาดึงพลังจากโลก เช่นเดียวกับเด็กทารกจากแม่ พวกเขาต้องการการดูแลทางกาย ความสะดวกสบาย ความอบอุ่น เช่นเดียวกับเด็กทารก เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว "ทารก" ของเรายังคงได้รับอาหารจากโลก พวกเขาได้รับพลังจากการเดินทางสู่ธรรมชาติ พวกเขาได้รับความช่วยเหลือมากกว่าคนอื่นๆ จากพิธีกรรมทุกประเภท เช่น "ยืนพิงต้นเบิร์ช" จำไว้ว่าเด็ก ๆ และทุกอย่างจะชัดเจนสำหรับคุณ

ผู้ที่เกิดในระยะที่ 1 จะได้รับอนุญาตมากมายและมากกว่าคนอื่นๆ

คุณภาพชีวิตของผู้ที่เกิดในไตรมาสแรกเช่นเดียวกับคุณภาพชีวิตของเด็กในทุกสิ่งขึ้นอยู่กับ "พ่อแม่" - ในสภาพแวดล้อมที่พวกเขาอาศัยอยู่ หากคนที่คุณรักดูแลพวกเขาอย่างดีทั้งชีวิตของพวกเขาจะกลายเป็น "ความสุขและ วัยเด็กที่ไร้กังวล". หากคุณไม่โชคดีกับสิ่งแวดล้อม มันเป็นเรื่องยากที่สุดที่จะรับมือกับความยากลำบากของทุกคน - ชีวิตในโหมด "วัยเด็กของเด็กจรจัด" อาจเป็นเรื่องยากที่สุดในบรรดาทั้งหมด ตัวเลือก. เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของคุณ ผู้ที่เกิดในไตรมาสแรกจำเป็นต้องหา "พ่อแม่" ที่เอาใจใส่อย่างดี

คู่ชีวิตและคู่ชีวิตที่ดีที่สุดสำหรับคนที่อยู่ในช่วงที่หนึ่งของดวงจันทร์คือคนที่เกิดในช่วงที่สาม ข้างขึ้นข้างแรม. เหมือนกัน" พ่อแม่ที่ห่วงใย” มักพบมากในผู้ที่เกิดในไตรมาสที่ 3 เกิดใน “ผู้ใหญ่” มีหน้าที่ใช้ชีวิตแบบผู้ใหญ่ ทำงาน เลี้ยงลูก ดูแลพ่อแม่ ฯลฯ

ใกล้ช่วงเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ไตรมาสที่สอง 6-8 วันจันทรคติเป็นคนที่มีชะตากรรมที่ยากลำบาก: ลูกของเรา "ไปโรงเรียน" พร้อมกับผลที่ตามมาทั้งหมดสำหรับเขา