จะทำอย่างไรถ้าคุณถูกทรยศ? จะทำอย่างไรถ้าเพื่อนทรยศ

หลังจากอ่านจดหมายของคุณ ฉันเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในจิตวิญญาณของคุณ - จากของคุณ คำของตัวเอง. ขอให้พระคุณลงมาที่คุณ! แต่ตัวคุณเองทำในสิ่งที่ทำได้ - อธิษฐาน อธิษฐานขอสิ่งดี!

การอธิษฐานคือการเคลื่อนไหวเพื่อออกจากป่าพรุ นี่คือความพยายามของเราที่จะเห็นจิตวิญญาณของเราในความสว่างอันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งไม่มีที่สำหรับความมืดที่มักจะล้อมรอบเรา ในการอธิษฐาน วิญญาณจะ "เขย่าตัวเอง" จากความมืดมิดนี้และพูดกับมันว่า: "ไม่!" เมื่อเราสวดอ้อนวอน เรารู้สึกว่าตนเองเป็นลูกของพระเจ้า ลูกของพระบิดาผู้ยิ่งใหญ่ผู้ทรงให้ความกระจ่างแก่ทุกคน ลูกของพระผู้ช่วยให้รอดผู้ทรงเมตตา อยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์คือกุญแจสู่ปีติและความสุข นั่นเป็นเหตุผลที่เราไม่ควรทนกับความท้อแท้และความหดหู่ใจ

สาเหตุของภาวะซึมเศร้าคืออะไร? หากเราไม่ได้พูดถึงการวินิจฉัยทางการแพทย์ (เมื่อก่อนอื่นคุณต้องทำ ยา) จากนั้นความโศกเศร้าของเราพัฒนาจากความไม่พอใจทางวิญญาณอันเป็นผลมาจากความขุ่นเคืองบางอย่าง - ตัวอย่างเช่นการทรยศ

เราเริ่มปรารถนาบางสิ่งที่ไม่เกิดขึ้นด้วยเหตุผลบางอย่าง และดูเหมือนว่าถ้าเราได้รับสิ่งนี้ สภาพของเราจะดีขึ้น “ฉันเป็นโรคซึมเศร้า” เด็กสาวกล่าว “เพราะคนรักของฉันทิ้งฉันไป เขาจากไปเขาทรยศเขาทำให้ฉันขุ่นเคือง ... ” เราคิดว่าเราสูญเสียบางสิ่งและถ้ามันกลับมาหาเราจะไม่มีความซึมเศร้า

แต่มีวิธีอื่นที่จะพูดได้! “ทำไมฉันไม่เอาคืน? ไม่ใช่สิ่งที่ทิ้งฉัน แต่ความรู้สึกที่เกิดขึ้นในตัวฉัน! ที่นี่ชายหนุ่มทิ้งหญิงสาวไว้ เขาเจ็บมาก เขาทรยศเธอ และตอนนี้เธอเริ่มหดหู่

คุณรู้สึกอย่างไรเมื่ออยู่ด้วยกัน? ฉันจะถามคุณ - คุณรู้สึกอิ่ม วิญญาณของคุณเต็มไปด้วยความสุข หัวใจของคุณชื่นชมยินดี อยากมีชีวิต ต่อสู้ ... ชีวิตมีความหมาย คุณมองไปรอบ ๆ และชื่นชมยินดีกับทุกสิ่งรอบตัว คนที่คุณรักเรียกหาคุณ ความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมและความรู้สึก และตอนนี้เขาได้ละทิ้งคุณและร่วมกับเขาที่ยอดเยี่ยมของคุณ สภาพภายใน.

และฉันต้องการเสนอบางอย่างให้คุณ - เช่นเดียวกับความคิด คุณอยากจะลองเอาความรู้สึกนั้นกลับคืนมาไหม? รู้สึกอิ่มเอิบใจ เบิกบาน เบิกบาน เบิกบานใจ - อะไรมาก่อน? แม้ว่าคนที่ทำให้รู้สึกเหล่านี้ไม่ได้อยู่กับคุณในตอนนี้? บางทีเขาอาจเป็นแค่ข้ออ้างสำหรับความสุขที่มักจะอยู่ในตัวคุณที่ทะลักออกมาในตอนนั้น! และบัดนี้บุคคลผู้นี้ "เหตุแห่งความสุข" นี้จากไปแล้ว แต่หาได้แน่นอน โอกาสใหม่ให้รู้สึกถึงความสุขนั้นอีกครั้ง!

เพราะความสุขอยู่ในตัวเรา และไม่ใช่คนที่ทำให้คุณมีความสุขคนนี้ แต่เป็นมนุษย์ธรรมดา คนธรรมดา - ร่างกายวัตถุ กลุ่มเซลล์และโมเลกุล - ไม่สามารถทำให้คนอื่นมีความสุขได้ อะไรทำให้เรามีความสุข? ที่ดำรงอยู่ในตัวเรา และผู้คนและเหตุการณ์ต่าง ๆ เป็นเพียงข้ออ้างสำหรับสภาพภายในที่จะออกมา

พยายามรู้สึกถึงมันผ่านการอธิษฐาน มันจะช่วยให้คุณรู้สึกมีความสุขอย่างที่มันเป็น - โดยปราศจากอิทธิพลของ "สารระคายเคือง" จากภายนอก ให้ความรู้สึกอิ่มเอิบอิ่มเอิบอิ่มเอิบอิ่มเอิบใจเบิกบานใจ ความรัก และความหมายของชีวิต การอธิษฐานช่วยให้เราฟื้นคืนชีพ มันหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณเหมือนน้ำซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่ในอีกโลกหนึ่ง ดูกรภิกษุทั้งหลาย นักพรต! พวกเขากำลังยิ้มอย่างมีความสุข แม้ว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่จะเห็นพวกเขาด้วยตนเอง แต่ชีวิตของพวกเขา หนังสือเกี่ยวกับความรักเป็นพยานถึงสิ่งนี้ ... ผู้คนมาหาพวกเขาและเห็นว่าใบหน้าของพวกเขาร่าเริงอยู่เสมอ...

ชายหนุ่มคนหนึ่งเพิ่งกลับมาจากนิวยอร์กบอกฉันว่า:

“พ่อครับ ผมมีความสุขเหลือเกินที่ได้มานิวยอร์ก!” ฉันอยู่ที่แมนฮัตตัน - มันเหลือเชื่อมาก! ขนาดไหน! ช่างน่าประทับใจเสียนี่กระไร!

เขามีความสุขเพราะเขาเห็นอะไรมากมายในนิวยอร์ก และมีคนมาเยี่ยมดิสนีย์แลนด์ มีคนไปฟลอริดา หรือที่อื่น - และการเดินทางทั้งหมดเหล่านี้ก็กลายเป็นเหตุผลแห่งความสุข คนเต็มแล้ว อารมณ์เชิงบวก– ขอบคุณท่านอื่นๆ อาคารสวย แหล่งช๊อปปิ้ง อาหารอร่อยทั้งหมดนี้โดยหลักการแล้วไม่ควรถูกประณาม

แค่อยากจะบอกว่าความสุขนั้น คนทั่วไปโดยการเยี่ยมชมแมนฮัตตันด้วยร้านค้าและความสนุกสนาน สถานบันเทิงยามค่ำคืน, นักพรตรู้สึกไม่มีทั้งหมดนี้. และความรู้สึกของมันก็เข้มข้นขึ้นอีกเพราะว่ามันอยู่ได้นานกว่ามาก หลังจากการเดินทางอันแสนวิเศษ เราขึ้นเครื่องบินและพูดกับตัวเองว่า “แค่นั้นแหละ ถึงเวลากลับบ้าน". และเรารู้สึกเศร้าเพราะ อารมณ์ดีกำลังจะจากเราไป และนักพรตรู้วิธีที่จะค้นพบรอยแตกในจิตวิญญาณของเขาซึ่งความสุขและความสุขปรากฏขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า

และสำหรับสิ่งนี้เขาไม่จำเป็นต้องเห็นตึกระฟ้าหรือปีนหอไอเฟล เขาไม่ต้องเดินทางไปไหน เขามีความสุขเพราะคนอื่น และเราต้องค้นหาสิ่งนี้ในตัวเราด้วยเพราะมันอยู่ในตัวเรา ที่มาของความสุขอยู่ในใจของเรา เพราะพระคริสต์อยู่ที่นั่น กล่าวคือ พระองค์เป็นที่มาของความยินดี

และเราเองก็ฆ่าพระคริสต์ในจิตวิญญาณของเรา ไม่ยอมให้พระองค์สำแดงสิ่งสวยงามทั้งหมดที่พระองค์สามารถให้ได้ และถ้าเราไม่เรียนรู้ที่จะชุบชีวิตพระคริสต์ในหัวใจของเรา เราก็จะต้องทนทุกข์ตลอดเวลาและหาเบาะแสไม่ได้ และเราจะมีชีวิตอยู่ใน ความคาดหวังคงที่การเดินทางหรือความสัมพันธ์ครั้งใหม่โดยหวังว่าจะมีความสุขมากขึ้นอีกสักระยะหนึ่ง

และตราบใดที่สิ่งใหม่นี้ยังคงดำเนินต่อไป เราก็ดี แต่พอจบเราก็เริ่มบ้า และถึงแม้จะยังไม่จบ เราก็รู้สึกดีไม่ได้ เพราะเรากลัวที่จะสูญเสียสิ่งนั้นไป นั่นคือ ความรู้สึกวิตกกังวลปะปนกับความสุขของเรา ตัวอย่างเช่น คุณมีความสุขที่คนที่คุณรักอยู่ใกล้ แต่ในขณะเดียวกัน คุณกลัวที่จะสูญเสียเขาไป ดังนั้นคุณจึงคิดว่า:

- ใช่วันนี้เราดีมาก แต่จะนานแค่ไหน? และถ้าพรุ่งนี้เขาจากฉันไป ถ้าเขาทรยศฉัน? เกิดอะไรขึ้นถ้าเขาป่วยและเสียชีวิต? ถ้าเขาจากไป?

ความไม่แน่นอนนี้ทำให้เราไม่มีความสุขกับตัวเองอย่างแท้จริง และเมื่อเราเห็นว่าคนอื่นชื่นชมยินดี เราก็เริ่มอิจฉาพวกเขา และเราคิดว่า:

- ฉันไม่มีคนที่รัก แต่เขามี! ทำไม

และเราเริ่มเปรียบเทียบ อิจฉา โกรธ เพราะเรากลัวที่จะสูญเสียความสุขของเราไป "ฉันจะได้มันไหม" เราให้เหตุผลแบบนี้เพราะความรู้สึกปีติที่เราประสบใน ช่วงเวลานี้ได้รับการสนับสนุนจากภายนอก ความสุขของเราเกิดขึ้นได้ด้วยการบำรุงเลี้ยงนี้เท่านั้น

นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันพูดว่า: พยายามค้นหาความลับของความสุขในตัวเอง เมื่อคนที่คุณรักอยู่ใกล้คุณพูดว่า: "เขามองตาฉันและฉันก็มีชีวิต"

ท่านจึงทราบความรู้สึกของการฟื้นคืนพระชนม์ ยอดเยี่ยม! เป็นไปได้ไหมที่จะรู้สึกโดยไม่มีคนที่รัก? เมื่อเขาไม่มองตาคุณ? ส่องกระจกแล้วพูดว่า

- พระเจ้าขอบคุณ! เพราะฉันคือมนุษย์ เพราะจิตวิญญาณและชีวิตของฉันนั้นสวยงาม เพราะฉันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวบนโลกใบนี้!

ท้ายที่สุดไม่มีคนอื่นในโลกเช่นคุณ! คุณมีเอกลักษณ์. ทุกคนมีเอกลักษณ์ เราทุกคนล้วนมีเอกลักษณ์ และเมื่อจำสิ่งเหล่านี้ได้อย่างน้อยหนึ่งอย่าง คุณจะคิดอย่างแน่นอน:

“ฉันไม่ต้องการใครซักคนมาพูดถึงว่าฉันสวยแค่ไหนและมีความหมายกับเขามากแค่ไหน อย่างแรกเลย ฉันรู้สึกถึงความสำคัญ คุณค่าของตัวเอง แล้วถ้าคนนี้หายไปจากชีวิตฉัน ฉันก็แทบบ้า

ไม่สิ มีคนรักแล้วยิ่งดี! ฉันไม่ได้หมายความว่าพวกเขาไม่มีอยู่จริง และฉันไม่ประมาทความเจ็บปวดหลังจากการเลิกราที่ทำให้คุณซึมเศร้า แต่อย่าพึ่งคนอื่นจนเสียสติไป ใกล้ชิดกับคนที่คุณรัก เปรมปรีดิ์ เพลิดเพลิน แต่จำไว้ว่าถ้าคุณต้องสูญเสียเขาไป คุณมีความลับอยู่เสมอ ต้องขอบคุณสิ่งนี้ที่คุณจะได้รับความสุขกลับคืนมาเมื่อได้ใกล้ชิดกับคนที่คุณรัก

นั่นคือคุณสามารถพูดได้ตลอดเวลา:

- ฉันดีใจที่เราอยู่ด้วยกัน ฉันมีความสุขกับคุณ คุณให้ฉันมาก แต่รู้ว่าฉันจะไม่หลงทางหากไม่มีคุณ และฉันสามารถจัดการได้โดยไม่มีคุณ มีปุ่มในตัวฉัน โดยการกดที่ฉันรื้อฟื้นความหวัง ความนับถือตนเอง รักพระเจ้า และฉันรู้สึกดี ไม่รักฉันแล้วเหรอ? คุณจะออกจาก? คุณทรยศฉัน? พระเจ้ารักฉัน ฉันรู้สึกดี ฉันอธิษฐาน ฉันหวัง และคิดถึงอนาคตที่วิเศษ ไม่ใช่ทุกอย่างที่หายไป ฉันสามารถจัดการได้

มันยากสำหรับคุณที่จะพูดตอนนี้เพราะคุณกำลังประสบอยู่ เจ็บหนัก. ท้ายที่สุดเมื่อหัวใจของเราขาดจากคนอื่นก็มีเลือดออก ความรู้สึกคล้ายๆกันเกิดขึ้นเมื่อบุคคลถูกไล่ออกจากงานเพราะในกรณีนี้ไม่เพียงเกี่ยวกับความเสียหายทางวัตถุเท่านั้น แต่เราสูญเสียความรู้สึกถึงความสำคัญของเราเอง ฉันถูกไล่ออกและฉันพูดกับตัวเอง:

แค่นั้นแหละ ฉันไม่มีค่าอะไรอีกแล้ว ฉันไม่มีประโยชน์

แล้วคุณไม่เสียค่าใช้จ่ายอะไรเลยเหรอ? คุณค่าของคุณขึ้นอยู่กับสถานที่ทำงานหรือไม่? ไม่ คุณมีค่าเสมอ แต่เนื่องจากคุณยึดมั่นในงานของคุณอย่างสุดใจและระบุตัวตนของคุณอย่างเต็มที่ คุณจึงพูดว่า:

งานคือทุกอย่างสำหรับฉัน! ฉันเป็นงานของฉัน

แต่คุณไม่ใช่งานของคุณ และพระเจ้าให้โอกาสคุณที่จะเข้าใจมัน ดูเหมือนเขาจะพูดกับคุณว่า ให้ฉันเอางานของคุณออกไปจากคุณสักครู่ เพื่อที่คุณจะได้มองเห็นความสามารถอื่นๆ ของคุณในที่สุด คุณคิดว่าคุณดึงความแข็งแกร่งจากที่นั่น แต่ฉันต้องการแสดงให้คุณเห็นว่าคุณดูถูกตัวเองต่ำเกินไป และตอนนี้ความสำคัญของคุณยิ่งสูงขึ้น ลูกของฉัน!»

นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันพูดถึงนักพรตผู้ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งไม่มีอะไรเลย และหากพวกเขาเอาของที่มีอยู่ไป พวกเขาจะพูดว่า:

- เอาไป! ฉันไม่ได้ยึดติดกับสิ่งนี้มากจนเป็นที่มาของความสุขอันยิ่งใหญ่สำหรับฉัน ที่นี่ในห้องขังของฉันอยู่ ปากกาที่สวยงามที่ฉันเขียน พาเธอไป!

บางทีคุณอาจเคยอ่านเกี่ยวกับวิธีที่นักพรตคนหนึ่งไล่ตามโจร - ไม่ใช่เพื่อจับพวกเขา แต่เพื่อให้สิ่งที่พวกเขาไม่มีเวลาขโมยแก่พวกเขา เขาวิ่งและตะโกนตามพวกเขา:

“ลูก ๆ ของฉัน คุณลืมอะไรบางอย่าง! เอาไป!

และพวกโจรก็กลัวและพูดกันว่า:

- นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้เห็นสิ่งนี้! อีกคนในที่ของเขาจะโทรหาตำรวจทันที และคนนี้ก็วิ่งตามเรามาเพื่อเอาของเพิ่ม! ทำไม

เพราะนักพรตย่อมรู้อยู่เป็นสุขแม้ไม่มีสิ่งเหล่านี้

ฉันเข้าใจว่ามันยากมาก ดังนั้น ฉันไม่แนะนำให้คุณรับมือกับภาวะซึมเศร้าและความสิ้นหวังในหนึ่งหรือสองวัน ต้องใช้เวลา - เดือน อาจหลายปี

จำเป็นต้องเรียนรู้บทเรียนที่พระเจ้าสอนเรา - ผ่านช่วงเวลาแห่งชีวิต ผ่านการพลัดพราก การจากลา มันเหมือนกับการลอกพลาสเตอร์ออก ขั้นแรกเราจะติดมันที่แผล และเมื่อถึงเวลาลอกออก ก็สามารถทำได้ยากมาก ท้ายที่สุด แผ่นแปะติดแน่นกับผิวหนัง และการกระทำของคุณทำให้เกิดอาการปวดอย่างรุนแรง แต่มันจำเป็นต้องทำ

แปลโดย Elizabeth Terentyeva

ฉันอายุ 19 ปี ผู้หญิง โดยธรรมชาติแล้ว ฉันเป็นคนที่ไว้ใจได้มาก ซึ่งตั้งแต่วัยเด็กอาจถูกกดดันได้ง่าย บรรลุทุกสิ่งที่สะดวกสำหรับที่รัก หลอกลวง และจากไปอย่างสงบ พ่อแม่ของฉันหย่ากันเมื่อฉันอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ฉันไม่อยากเสียใจกับตัวเองและฉันไม่เคยคุยกับใครเรื่องนี้ แต่พูดตามตรง มันยากมากสำหรับฉันที่จะจัดการกับมัน แม่ทิ้งพ่อเพราะ เขาเบื่อเธอและเริ่มต้นชีวิตด้วย กระดานชนวนที่สะอาดเธอพาฉันไปที่บ้านของเธอ แต่ทุก ๆ วันหยุดสุดสัปดาห์ฉันใช้เวลากับพ่อของฉัน แม่มีบุคลิกที่ลำบาก เธอไม่เคยยอมรับความผิดของเธอ ตอนเด็กๆ ฉันมักจะโดนเธอตบบ่อยเพราะ ก็ "เบื่อหน่ายช้า" เกินไป เป็นต้น ฉันจะไม่อธิบายเป็นเวลานานว่าเกิดอะไรขึ้นต่อไป แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือแม่ของฉันมีลูกชายจากการแต่งงานครั้งที่สองของเธอ และพ่อของฉันมีลูกสาวหนึ่งคน และในฐานะที่ฉันพยายามไม่ประสบความสำเร็จก็กลายเป็นกับแม่ของฉันเหมือนพี่เลี้ยงทำอาหารซึ่งถูกตะโกนใส่แม้ว่าเธอจะกินข้าวที่โต๊ะนานเกินไปหรือหลังจากงานนอกเวลาสองชั่วโมงหลังเลิกเรียนก็ไม่วิ่ง ล้างจาน. พ่อมีภรรยาที่อายุน้อยกว่า 14 ปี ที่หึงหวงฉันมาก และพยายามทำทุกวิถีทางที่จะทำลายการเตือนความจำของฉัน ทิ้งรูปถ่ายในวัยเด็กของฉันจนหมดจนเขาเห็น พอฉันมาเยี่ยมเขา เธอตะโกนว่า กำลังรบกวนพวกเขาและอื่น ๆ ฉันถูกปู่ย่าตายายพาไปใช้ชีวิตในชั้นประถมศึกษาปีที่ 10 หลังจากเรื่องอื้อฉาวกับแม่ของฉันอีกครั้ง จากนั้นพวกเขาก็ยกฉันขึ้นจากหัวเข่าของฉัน ถ้าฉันพูดได้ เพราะตอนนั้นฉันเป็นคนขี้ขลาดขี้ขลาดที่เกลียดชังโลกและพร้อมที่จะร้องไห้เมื่อกล่าวถึงพ่อแม่ของฉัน คุณไม่เชื่อหรอก แต่พวกเขาเปลี่ยนฉันมากด้วยความรักและความไว้วางใจ ฉันยังรู้สึกว่าฉันดีขึ้น ใจเย็นขึ้น ใจดีขึ้น ตอนนี้ฉันรู้วิธีปฏิเสธ ฉันคืนดีกับแม่แล้ว ฯลฯ แต่มีปัญหา สำหรับฉัน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เจ็บปวดที่ฉันไม่มี ครอบครัวมีความสุขไม่ว่า. ฉันพบผู้ชายคนหนึ่ง เริ่มออกเดท มันไม่ใช่ความสัมพันธ์ครั้งแรกของฉัน แต่พวกเขาก็กลายเป็นเรื่องที่จริงจังที่สุด ฉันเชื่อใจเขาในทุกสิ่ง ไม่ปกปิดอะไรเลย ฉันเอาชนะความกลัวหลายๆ อย่างที่มีต่อเขา เขายังพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อฉันด้วย เขาเป็นทุกอย่างสำหรับฉัน เขาฝันถึงครอบครัวด้วย แต่แน่นอนว่าไม่ใช่ในอนาคตอันใกล้อย่างที่เราพูด ถ้ามันออกมาดี ในอีก 7-10 ปี แล้วในวันครบรอบปีที่ 2 ของเรา เขาก็ทิ้งฉันไปอย่างกะทันหัน เมื่อถึงเวลานั้น เขามีอพาร์ตเมนต์ของตัวเอง เขาก็รู้สึกเป็นอิสระ จู่ๆ ก็จำได้ว่าเขาเคยสนุกกับเพื่อน ๆ ยังไง เขาได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่งที่เขาตัดสินใจพิชิต ความสนใจด้านกีฬา ฉันไม่หลงกลเขาแล้ว สมมุติว่าเมื่อคืนฉันไม่ได้สะอื้นสะอื้นหมอนและฉันก็ตอบสนองอย่างสงบ สองเดือนต่อมา เขาคลานทั้งน้ำตาเพื่อขอการอภัย กับผู้หญิงคนนี้ ไม่ได้ไปไกลกว่าจีบ เขาเบื่อ ดื่มเหล้าก็เบื่อ ฉันยกโทษให้เขา และทุกอย่างดูเหมือนจะเรียบร้อยเหมือนเมื่อก่อน มีเพียงบางอย่างที่กัดแทะฉันอยู่ข้างใน ฉันไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน รู้สึกเหมือนทุกคนทรยศฉัน ทั้งหมดอยู่ใกล้ พ่อที่เคยเข้าใจและสนิทสนมที่สุด ตอนนี้โทรหาทุกๆ หกเดือน แม่มีความสุขกับพี่ชายของฉัน ให้การศึกษาแก่เขาและไม่สนใจ และเขา. ยังทรยศ ฉันมีชีวิตที่ดี ปู่และย่าของฉันสนับสนุนฉัน ฉันไม่ต้องการมัน แต่บางครั้งความรู้สึกนี้เริ่มทรมานฉันว่าฉันอยู่คนเดียว แม้กระทั่งเขาจากฉันไป ฉันไม่สามารถบังคับตัวเองให้เชื่อใจเขาได้ ฉันสงสัยอยู่ตลอดเวลา ฉันคิดว่าทุกคำพูดของเขาเป็นเรื่องโกหก ความหึงหวงอย่างบ้าคลั่งปรากฏขึ้น การติดบุหรี่ ซึ่งฉันดูถูกเสมอ ความคิดฆ่าตัวตาย ฉันไม่ร้องไห้และไม่บอกใครเกี่ยวกับมัน ดูเหมือนว่าในไม่ช้าฉันจะเอามันอย่างใจเย็นและออกไปนอกหน้าต่าง ฉันจะเอาชนะสิ่งนี้ในตัวเองได้อย่างไร ฉันจะเริ่มไว้วางใจเขาอีกครั้งได้อย่างไร จะฟื้นฟูสิ่งที่เป็นที่รักของฉันได้อย่างไร เขาเห็นทั้งหมดนี้และอดทนต่อโรคจิตของฉัน บอกว่าเขาถูกตำหนิ ว่าเขาพร้อมสำหรับทุกอย่างที่จะแก้ปัญหานี้ เพื่อที่ฉันจะได้เชื่อใจเขาอีกครั้ง แต่ฉันไม่สามารถ! ฉันบังคับตัวเองไม่ได้! ฉันกลัวการทรยศครั้งใหม่จากคนใกล้ตัวที่สุด

ถามนักจิตวิทยา

ฉันอายุ 35 ปี ฉันกับสามีหย่าร้างมา 3 ปีแล้ว แต่เราอยู่ด้วยกันเพราะเรามีลูกอายุ 9 ขวบและสามีบอกว่าเขาไม่มีใคร (ผู้หญิง) แล้วเขาไม่ต้องการความรัก ในชีวิต (รวมถึงฉันด้วย) ตอนนี้ฉันท้องจากอดีตสามีได้ 8 เดือนแล้ว (ไม่ได้วางแผนไว้) และเมื่อเร็ว ๆ นี้ฉันพบว่าเขารักผู้หญิงคนอื่น (SMS คงที่เขากลับบ้านดึกบอกว่าเมื่อลูกเกิดมาเขาจะไปแยกกัน) . ฉันถูกหักหลังเป็นครั้งที่สอง ฉันไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้ ดังนั้นจำเป็นในตำแหน่งของฉัน เมื่อเห็นความสัมพันธ์เหล่านี้ เด็กก็เริ่มทรุดโทรม คุณต้องให้ยาระงับประสาท โดยทั่วไปฉันไม่ต้องการที่จะมีชีวิตอยู่ฉันต้องการขุดลึกลงไปเพื่อไม่ให้ใครพบ ... เมื่อพ่ออยู่ที่บ้านลูกดีขึ้นเขามีความสุขมากขึ้น แต่ฉันควรทำอย่างไร? ฉันรักเขา ฉันต้องการความเสน่หา ความอ่อนโยน การจุมพิต แต่สิ่งนี้ไม่มีและไม่มีความหวังว่าจะมีเช่นกัน

สวัสดีโอลก้า! สถานการณ์ค่อนข้างยากสำหรับคุณ (ในสภาพของคุณ) และสำหรับเด็ก! อย่างไรก็ตาม คุณเองก็เข้าใจดีว่าสามีของคุณไม่สามารถดูแลคุณได้และ ความสุขในครอบครัวและยิ่งไปกว่านั้น เมื่อรู้ว่าเขาจะไม่อยู่กับคุณ เขาทรยศคุณจริงๆ โดยจงใจปล่อยให้คุณมีลูกสองคนอยู่ในอ้อมแขนของเขาแล้ว ทั้งหมดนี้ไม่ได้พูดถึงความจริงจังและความรับผิดชอบของเขาที่มีต่อคุณและต่อเด็ก ๆ ! อย่างไรก็ตาม ตัวคุณเองควรยอมรับความจริงที่ว่าเขาจะไม่อยู่กับคุณเพื่อไม่ให้ทรมานตัวเองและรอจนกว่าเขาจะกลับมา (และด้วยเหตุนี้จึงไม่อยู่ในสภาวะตึงเครียดซึ่งส่งผลต่อเด็กทั้งสอง)! หากคุณต้องการความช่วยเหลือและการสนับสนุน คุณสามารถติดต่อฉันได้ - เพื่อทำงานผ่านช่วงเวลาที่เสพติดกับสามีของคุณ และปลดปล่อยอารมณ์และความรู้สึกของคุณ ยอมรับพวกเขา และตั้งเป้าหมายใหม่! ตอนนี้มันก็คุ้มค่าที่จะให้ความสนใจกับเด็ก (แก่กว่า) - สำหรับเขามันจะเครียดมากและเป็นการทรยศ (เขาต้องการความช่วยเหลือในการตระหนักถึงความจริงข้อนี้และยอมรับให้ได้มากที่สุด) - ท้ายที่สุดเด็ก ต้องเข้าใจด้วยว่าความรู้สึกที่เขากำลังประสบอยู่คืออะไร และเพื่อให้เข้าใจว่าทำไมสิ่งนี้จึงเกิดขึ้นในครอบครัว - และหากเป็นเรื่องยากสำหรับเด็กที่จะเข้าใจและยอมรับทั้งหมดนี้ คุณยังสามารถจัดการกับเด็กได้ (ฝึกอารมณ์ ทัศนคติที่มีต่อเด็ก) โดยทั่วไปแล้ว พ่อและผู้ชายของเขา และทัศนคติที่มีต่อคุณด้วย - ในแง่ที่ว่าคุณเองก็เช่นกัน คุณต้องการความช่วยเหลือจากเขา เช่นเดียวกับที่คุณต้องการจากเขา ติดต่อฉันฉันยินดีที่จะช่วยคุณ!

คำตอบที่ดี 3 คำตอบที่ไม่ดี 1

Olya ตอนนี้มันยากสำหรับคุณแน่นอน และคุณไม่ต้องการที่จะอยู่และขุดที่ใดที่หนึ่งให้ลึกกว่านั้น บางสิ่งที่ไม่มีใครพบ แต่คุณจำเรื่องนี้ได้ไหม: อะไรที่มักทำกับคนทรยศ? สามีของคุณมีภาพของโลกที่ต่างไปจากคุณและค่านิยมอื่นๆ เล็กน้อย มันเจ็บ แต่เราต้องเข้าใจและยอมรับว่าไม่มีคนทรยศดีกว่าอยู่กับเขา ท้ายที่สุดเขาจะทรยศอีกครั้ง นี่คือลัทธิของเขา เราต้องพยายามจัดการกับอารมณ์ หากไม่มีผู้เชี่ยวชาญก็จะเป็นเรื่องยาก สถานการณ์ก็ยากมากจริงๆ อย่ารอช้า ช่วยตัวเอง ท้ายที่สุดคุณมีเอกลักษณ์สวยงามฉลาด คุณเป็นคนเดียว คนที่สองจะไม่มีวันเป็น จำไว้! เขาคือใคร? คนทรยศและทั้งหมด!

คำตอบที่ดี 4 คำตอบที่ไม่ดี 0

โอลก้าสถานการณ์ไม่น่าพอใจ ... แต่! สิ่งสำคัญคือต้องมองเธอตามความเป็นจริง: คุณหย่าร้างมา 3 (สาม!) ปีแล้ว อยู่อาณาเขตเดียวกัน ไม่ได้แปลว่าเป็นสามีภริยา ความสัมพันธ์แบบ คู่นอน- ใช่หมดสติ (หรือเปล่า) ปรารถนาที่จะ "ผูกมัด" อดีตสามีกับลูก (ความผิดพลาดของผู้หญิงหลายคนอนิจจา) - คือ / เป็น ถ้าผู้ชายหย่าร้างเขาก็มีอิสระที่จะเลือกคู่ชีวิตใหม่จะกล่าวหาว่าเขาทรยศทำไม? เพศระหว่างคุณคือ ซึ่งกันและกัน ความปรารถนาและการกระจายความรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นควรเท่าเทียมกัน คุณมีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธ หรือเห็นด้วย ทุกคนตัดสินใจเลือก

ฉันจะใส่ใจกับคำว่า "ฉันไม่ต้องการมีชีวิตอยู่ฉันต้องการขุดลึกลงไปเพื่อไม่ให้ใครหาเจอ" - นี่บ่งบอกถึงปัญหาบางอย่างที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้กับสามีของคุณอาจเกี่ยวกับคุณ การเกิด, เกี่ยวกับความตายในครอบครัว, เกี่ยวกับการทรยศในประวัติครอบครัว, เกี่ยวกับการคลอดบุตรยาก ...

2. เกิดอะไรขึ้นกับลูกของคุณ คุณเขียนว่าเขาเริ่มมีอาการเสีย เป็นเรื่องน่าเสียดายที่คุณไม่ได้เขียนรายละเอียดเพิ่มเติม: พวกเขาแสดงออกอย่างไรคุณลองคุยกับเด็กแล้วอธิบายว่าเกิดอะไรขึ้น หรือเนื่องจากข้อเท็จจริงที่ว่าคุณไม่มีทรัพยากรเพียงพอสำหรับการสนับสนุนตนเอง จึงยากยิ่งกว่าสำหรับคุณที่จะเลี้ยงดูเด็ก ความสัมพันธ์ของคุณกับลูกของคุณคืออะไร? จากจดหมายของคุณ มีคนรู้สึกว่าเขาสนใจพ่อมากขึ้น หรือคุณรับรู้การสื่อสารของพวกเขาอย่างรวดเร็วซึ่งคุณมีกับ อดีตสามีไม่? บางทีปัญหาเหล่านี้อาจทำให้คุณและลูกของคุณแปลกแยกจากกัน หากเป็นกรณีนี้ เป็นสิ่งสำคัญที่จะไม่เริ่มสถานการณ์ แต่ให้เริ่มสร้างสายสัมพันธ์โดยเร็วที่สุด ท้ายที่สุด เมื่อคลอดลูก สถานการณ์อาจยิ่งแย่ลงไปอีกในแง่ที่ว่าเด็กโตจะสนใจน้อยลงไปอีก และไม่รู้ว่าเขาจะรับมือกับเรื่องนี้อย่างไร

ดีใจที่ได้ให้บริการคุณในการแก้ไขปัญหาของคุณ

ขอแสดงความนับถือ Anastasia Umanskaya

คำตอบที่ดี 4 คำตอบที่ไม่ดี 1

สวัสดีผู้อ่านที่รักของฉัน!

บอกฉันที มีสถานการณ์ในชีวิตของคุณเมื่อคุณถูกหักหลังหรือไม่? เพื่อนรักไม่เข้าข้างคุณ คนที่คุณรักจากไป หุ้นส่วนธุรกิจถูกหลอก และอื่นๆ ถ้าสิ่งนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับคุณ ฉันทำได้แค่แสดงความยินดีกับคุณ - คุณ ผู้ชายที่มีความสุข! แต่บ่อยครั้งที่ผู้คนยังคงประสบกับช่วงเวลาที่คล้ายกันในชีวิตของพวกเขา และในบางช่วงคำถามก็เกิดขึ้น ทำไมผู้คนถึงทรยศ? และทำไมคุณ?

โดยทั่วไปแล้วเหตุการณ์ดังกล่าวมักเกิดขึ้นในชีวิตของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง และนี่เป็นเรื่องปกติ - ความรักได้ผ่านไปแล้ว เพื่อนคนหนึ่งอาจไม่เห็นด้วยกับมุมมองของคุณโดยพื้นฐานแล้ว สถานการณ์ของหุ้นส่วนธุรกิจก็อาจเปลี่ยนไปเช่นกัน และในสถานการณ์ปกติ ผู้คนสามารถตกลงอย่างใจเย็น พูดคุยถึงสถานการณ์และประนีประนอมได้เสมอ

แต่มีคนที่อาจกล่าวได้ว่ามีการหักหลังอย่างต่อเนื่องในชีวิต พวกเขาถูกทอดทิ้ง หักหลัง ถูกหลอกอย่างต่อเนื่อง หินบางตัวไล่ตามโดยตรง! เห็นด้วย เป็นเรื่องยากที่จะอยู่ใน "ความยุ่งเหยิง" ของการทรยศหักหลังเช่นนี้ ทำไมสิ่งนี้จึงเกิดขึ้นและ "คำสาปกรรม" นี้กำหนดไว้สำหรับพวกเขาอย่างไร!

นี่ไม่ใช่คำสาป แต่เป็นโปรแกรมทั่วไปของ Betrayal มันมาจากไหน? จากที่เดียวกับโปรแกรมทั่วไปอื่น ๆ ทั้งหมดที่ฉันบอกคุณในบทความก่อนหน้านี้ บรรพบุรุษของคุณบางคนพบเจอในชีวิตของพวกเขาด้วย
การทรยศ เป็นไปได้มากว่าเป็นสิ่งที่ร้ายแรงมากซึ่งเป็นสิ่งที่เขาไม่สามารถอยู่รอดได้และทิ้งไว้ในอดีต บาดแผลรุนแรงนี้ยังคงอยู่ในจิตวิญญาณของเขาไปตลอดชีวิต เขาไม่สามารถให้อภัยและลืมได้

และปรากฎว่าไม่สามารถผ่านพ้นความรู้สึกนี้ไปได้ เขาได้ส่งต่อไปยังลูกหลานของเขา และรายการนี้ได้รับการแก้ไขในครอบครัวของเขา บังคับให้ลูกหลานของเขาดึงดูดเหมือนกัน สถานการณ์ที่ยากลำบาก. ทำไมสิ่งนี้ถึงเกิดขึ้น? เพื่อให้โปรแกรมนี้ทำงานได้หลังจากทั้งหมด คุณสามารถเรียกได้ว่าเป็นกรรมของเผ่า แต่ถ้ามีสถานการณ์ในกลุ่มที่สมาชิกคนหนึ่งของกลุ่มไม่สามารถรับมือได้ (ในที่นี้เรากำลังพูดถึงงานภายใน - การให้อภัย การยอมรับ ความสามารถในการปล่อยวาง เป็นต้น) หน้าที่นี้จึงตกแก่ทายาท

เมื่อตระหนักถึงสิ่งนี้ คุณสามารถตอบคำถามว่าทำไมผู้คนจึงหักหลังคุณตลอดเวลา (หากมีเรื่องเช่นนี้ในชีวิตของคุณ) และเลิกโทษตัวเองในเรื่องนี้ โปรแกรมการหักหลังจำเป็นต้องดำเนินการ เช่นเดียวกับโปรแกรมทั่วไปอื่นๆ เพื่อที่จะทิ้งคุณ

อย่าคาดหวังการทรยศ!

และแน่นอน คุณต้องหยุดรอการทรยศจากผู้คนอย่างต่อเนื่อง เป็นที่แน่ชัดว่าผู้ที่เคยถูกหักหลังอย่างน้อยสองสามครั้งในชีวิตเริ่มรอเหตุการณ์เช่นนี้โดยไม่รู้ตัว ฉันยังเจอความคิดเห็นที่พวกเขาบอกว่าคุณต้องรอสิ่งนี้และคำนวณเหตุการณ์ดังกล่าวเพื่อ "วางหลอด"

เพื่อนของฉัน! นี่เป็นภาพลวงตาที่อันตรายอย่างยิ่ง! ถ้าคุณทำตัว ในทำนองเดียวกันแล้วคุณจะดึงดูดปัญหามากมายเข้ามาในชีวิตของคุณแม้จะไม่มีโปรแกรม Betrayal! ท้ายที่สุดฉันบอกคุณหลายครั้งแล้วว่าความคิดของเราดึงดูดเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับเราเข้ามาในชีวิต! ลองนึกภาพว่าคุณจะดึงตัวเองออกมาอย่างไรถ้าคุณคิดอย่างรอบคอบและถี่ถ้วนเกี่ยวกับสถานการณ์ต่างๆ เมื่อคุณถูกหักหลังและถูกทอดทิ้ง!

อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์อันไม่พึงประสงค์ดังกล่าวเกิดขึ้นในชีวิตของคุณเป็นระยะๆ (คุณถูกหักหลังและถูกหลอก) นี่ไม่ได้หมายความว่าคุณมีอาการทั่วไปเสมอไป
โปรแกรมทรยศ เพื่อกำหนดสิ่งนี้ให้แม่นยำยิ่งขึ้น พยายามวิเคราะห์ความคิดของคุณ - "ภูมิหลังทั่วไป" ของพวกเขา มีความคงที่เช่นนี้หรือไม่ (สามารถไปในเบื้องหลังและไม่ใช่ตามความคิดหลัก) ความคาดหวังของ "กลอุบาย" การหลอกลวง ฯลฯ จากคนรอบข้าง คู่ค้าทางธุรกิจ, คนที่คุณรัก?

หากมีอย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นไปได้มากที่คุณจะดึงดูดปัญหาทั้งหมดเข้ามาในชีวิตของคุณเอง พวกเขาไม่สามารถข้ามคุณได้ - คุณเป็นเหมือนสัญญาณสำหรับพวกเขาเพราะคุณคิดถึงพวกเขาตลอดเวลา! และที่นี่ คุณเพียงแค่ต้องเปลี่ยนความคิด ทัศนคติ ความคาดหวังจากโลกและจากชีวิต แน่นอน คุณต้องการให้ชีวิตของคุณดีขึ้นและสิ่งเช่นการทรยศทิ้งมันไว้

ทุกอย่างอยู่ในมือของคุณเพื่อนของฉัน!

ในส่วนของฉัน ฉันสามารถเสนอหลักสูตรวิดีโอให้คุณ นี่คือสิ่งที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับ - วิธีเปลี่ยนการรับรู้ของโลกทีละขั้นตอนและปรับปรุงชีวิตของคุณผ่านสิ่งนี้ หลักสูตรนี้ใช้งานได้จริงพร้อมการบ้านและเครื่องมือจริงที่คุณสามารถนำไปใช้ในชีวิตของคุณได้

และจำไว้ว่า เราแต่ละคนได้รับชีวิตที่เขาเลือกเองหากคุณกำลังอ่านบทความนี้ แสดงว่าคุณใส่ใจ หมายความว่าคุณได้เข้าใกล้ชีวิตและโชคชะตาของคุณในโลกนี้อย่างมีสติแล้ว และมันวิเศษมาก! นี่เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ในการบรรลุชีวิตในฝันของคุณ! อย่าหยุดบนเส้นทางนี้ ก้าวต่อไปและพัฒนาชีวิตของคุณต่อไป! คุณสามารถ!

Ekaterina ของคุณ

สมัครรับข่าวสารที่น่าสนใจที่สุดของเว็บไซต์ของฉันและรับหนังสือเสียงยอดเยี่ยม 3 เล่มเกี่ยวกับความสำเร็จและการพัฒนาตนเองเป็นของขวัญ!

น่าเสียดายที่ไม่มีคนเพียงคนเดียวที่จะรอดพ้นจากการทรยศ ไม่ว่าเขาจะรักและหวงแหนผู้ที่ตัดสินใจทำตามขั้นตอนดังกล่าวมากเพียงใด ครั้งแรกหลังจากนี้ มันเริ่มดูเหมือนว่ามีใครบางคนล้มลงจากพื้นใต้ฝ่าเท้าของคุณและชีวิตจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป แท้จริงแล้ว หากผู้ทรยศอยู่ใกล้คุณมาก การกระทำของเขาจะไม่ส่งผลกระทบต่อคุณ - ตอนนี้ เป็นไปได้มากว่าคุณจะสงสัยและถอนตัวออกไป อย่างไรก็ตาม คุณต้องเข้าใจว่าวันหนึ่งความเจ็บปวดจากการทรยศจะบรรเทาลง กลายเป็นเพียงประสบการณ์ที่สามารถเรียนรู้บทเรียนบางอย่างได้

ทำอย่างไรเมื่อถูกหักหลัง

ถูกคนรักหักหลัง

ก่อนอื่น พยายามกู้คืนจากเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด ตระหนักว่าตั้งแต่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนที่ถูกโชคชะตาส่งมาหาคุณ แต่เป็นบททดสอบสำหรับคุณ อย่าปิดตัวเองจากเพื่อนและครอบครัวด้วยการจมลงในภาวะซึมเศร้า คุณถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพังกับการทรยศที่เกิดขึ้น และนอกจากนั้น แทบจะไม่มีอะไรในชีวิตคุณอีกเลยในช่วงระยะเวลาหนึ่ง อย่าปล่อยให้สิ่งนี้เกิดขึ้น - ขจัดผู้กระทำความผิดออกจากชีวิตของคุณและเติมเวลาของคุณด้วยงานอดิเรกและการประชุมใหม่ที่จะค่อยๆผลักเรื่องนี้ออกจากรายการ เหตุการณ์สำคัญ. มันไม่ง่ายที่จะทำ - คุณจะไม่มีความปรารถนาหรืออารมณ์ที่จะเป็นผู้นำ ภาพที่ใช้งานชีวิต แต่ในกรณีนี้จำเป็นต้องบังคับตัวเอง เข้าใจว่านี่เป็นวิธีเดียวที่จะช่วยตัวเองให้พ้นจากอดีตอันเลวร้าย

เมื่อคนทรยศเป็นสามีตัวเอง

เมื่อบุคคลนี้ยื่นมือและหัวใจให้คุณ และคุณยินยอม คุณต้องแน่ใจว่าคุณจะไปพร้อมกับเขาตลอดเส้นทางชีวิตของคุณ แน่นอนว่ามันเจ็บปวดมากที่พบว่าในที่สุดคนที่รักตัดสินใจทรยศ แต่ในกรณีนี้ คุณไม่ควรตัดบ่า โดยเฉพาะถ้าลูกๆ เติบโตในครอบครัวของคุณ คุยกับสามีแล้วพยายาม เข้าใจสิ่งที่กระตุ้นให้เขาทำสิ่งนี้ หากคุณเห็นว่าคู่สมรสของคุณกลับใจอย่างจริงใจ และคุณเข้าใจว่าแม้ทุกสิ่งทุกอย่าง คุณยังมีความรู้สึกต่อเขาอยู่ ให้หาจุดแข็งในตัวเองเพื่อให้โอกาสครอบครัวของคุณ อุทิศเวลาตอนเย็นเพื่อพูดถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น ตัดสินใจว่าคุณจะอยู่กับมันต่อไปได้อย่างไร และพยายามอย่ากลับมาคุยเรื่องนี้อีกในอนาคต เพื่อรักษาบรรยากาศที่ดีในบ้าน ถ้าคุณเข้าใจว่า คุณจะไม่มีวันทำได้ ให้อภัยหรือสามีไม่แสดงความเสียใจกับการกระทำดังกล่าวมากนักก็ควรพิจารณายุบการแต่งงาน ดีแล้ว ชีวิตครอบครัวด้วยตัวเลือกดังกล่าว มันอาจจะใช้งานไม่ได้

การทรยศโดยเพื่อนสนิท

การทรยศต่อเพื่อนบางครั้งอาจทำร้ายไม่น้อยกว่าการทรยศของญาติหรือสามี ถ้าเพื่อนมีจริง แน่นอน คุณเชื่อใจเขาด้วยความลับส่วนตัวของคุณ สนับสนุนเขามากกว่าหนึ่งครั้งในสถานการณ์ที่ยากลำบาก สถานการณ์ชีวิตและปรึกษาหารือกันหลายเรื่อง ตอนนี้มันจะไม่ง่ายสำหรับคุณที่จะจินตนาการถึงชีวิตของคุณโดยไม่มีคนนี้ แต่สิ่งสำคัญคือต้องตระหนักว่าหากสิ่งนี้เกิดขึ้นก็จะไม่มีมิตรภาพอีกต่อไปและถึงเวลาแล้วที่เส้นทางของคุณต้องไป ข้อยกเว้นสามารถเป็นได้เฉพาะในกรณีที่ เพื่อนหรือแฟนสาวถูกบังคับให้ทำขั้นตอนนี้ ไม่ใช่โดยสมัครใจหรือทำผิดพลาดอย่างโง่เขลา โดยทั่วไปแล้ว คุณต้องให้โอกาสคนๆ นั้นในการอธิบายตนเอง และถ้าคุณรู้ว่าสามารถหลีกเลี่ยงการหักหลังได้ ให้หยุดการสื่อสารของคุณชั่วคราวเพื่อให้ทุกคนคิดใหม่ว่าเกิดอะไรขึ้น หลังจากผ่านไปหลายเดือน ตัวคุณเองจะสามารถเข้าใจได้ว่าคุณต้องการคืนเพื่อนให้กลับมามีชีวิตอีกครั้งหรือไม่

คุ้มไหมที่จะให้อภัยการทรยศของคนที่รัก

แต่ละคนมีความคิดของตัวเองเกี่ยวกับการทรยศ - บางคนเชื่อว่าเป็นเพียงการทรยศ แต่สำหรับบางคนก็เพียงพอแล้ว คนใกล้ชิดเข้าข้างฝ่ายตรงข้ามในข้อพิพาทบางอย่าง หากคุณเข้าใจตัวเองว่าโดยทั่วไปแล้วไม่มีอะไรเลวร้ายเกิดขึ้นคุณไม่ควรทรมานคนที่คุณรัก - พูดคุยกับเขาและตกลงกัน อธิบายว่าเหตุใดจึงสำคัญสำหรับท่านว่าสิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก หากมีคนขุ่นเคืองใจท่านแต่ไม่ขอการอภัย ก็ต้องพยายามลืมเขาและเข้าใจตัวเองว่าเรื่องนี้เกินความจำเป็นในชีวิตและมัน เป็นการดีกว่าที่จะอุทิศเวลาของคุณโดยไม่คิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เป็นการดีกว่าที่จะอุทิศเวลาให้กับความประทับใจใหม่ๆ และกับผู้อื่น มันยากกว่ามากถ้าคนๆ หนึ่งกลับใจ และคุณต้องการสร้างความสัมพันธ์กับเขา น่าเสียดายที่ความพร้อมสำหรับการให้อภัยไม่ได้รับประกันว่าจะเกิดขึ้นเสมอไป คุณอาจต้องการสิ่งนี้ แต่ที่จริงแล้ว ความแค้นจะไม่หายไปไหน และความขัดแย้งจะปะทุขึ้นระหว่างคุณครั้งแล้วครั้งเล่า เป็นเรื่องที่ควรค่าแก่การพยายามยกโทษให้กับบุคคลที่ยอมรับความผิดพลาดของเขา แต่จงเตรียมพร้อมสำหรับความจริงที่ว่า แม้ว่าคุณจะต้องการ คุณยังคงไม่สามารถเปิดหน้านี้ในความคิดของคุณได้ เพราะไม่ช้าก็เร็วคุณจะต้องเลิกกับ ผู้กระทำความผิด

เป็นไปได้ไหมที่จะให้อภัยการนอกใจกับผู้หญิงคนอื่น

ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ หากไม่มีลูกในครอบครัวคุณจะตัดสินใจได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังควรให้ความสนใจกับปัจจัยต่าง ๆ เช่นการกลับใจของคนที่ได้รับเลือกและไม่ว่าผู้หญิงคนอื่นจะเป็น นายหญิงอย่างต่อเนื่องหรือความสัมพันธ์ของทั้งสองกลับกลายเป็นเพียงชั่วครู่ เกิดขึ้น ที่ชายคนหนึ่งจงใจมีชีวิตอยู่เป็นเวลาหลายเดือนหรือหลายปีในสองครอบครัวไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าใครเป็นที่รักของเขา ในกรณีนี้ เป็นการดีกว่าที่จะบรรเทาความเจ็บปวดจากการเลือกและเริ่มมองหาคู่ชีวิตที่คุณจะได้เป็นผู้หญิงที่รักเพียงคนเดียว ถือเป็นกรณีที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงหากคนรักของคุณถูกล่อลวงหรือเขาไปค้างคืนกับผู้หญิงคนอื่นหลังจากนั้น ทะเลาะกับคุณ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ การให้อภัยบุคคลนั้นไม่ง่ายเช่นกัน แต่ถ้าเขากลับใจจากการกระทำของเขาอย่างจริงใจ คุณก็สามารถพยายามเข้าใจเขา เป็นไปได้มากว่าการเชื่อมต่อนี้จะหายวับไปและไม่มีความหมายต่อชายผู้นี้ แน่นอน อย่าแสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นทันที - ขอให้พวกเขาให้เวลาคุณสองสามวันเพื่อคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น หลังจากนั้นบอกคนรักของคุณว่าคุณให้อภัยเขา แต่ถ้าเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นอีกคุณจะไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ ในช่วงเวลาแห่งการไตร่ตรองของคุณผู้ชายแน่นอนว่าคุณรักเขามากแค่ไหนและเขาไม่อยากเสียคุณไปมากแค่ไหนและต่อมาจะให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ของคุณมากขึ้นแน่นอนถ้าคุณเข้าใจว่าแม้เพียงชั่วครู่ เรื่องชู้สาวมากเกินไปสำหรับคุณ และคุณไม่เคยทนกับเธอ คุณจะต้องจบนิยาย ไม่ช้าก็เร็วคุณจะเข้าสู่การตัดสินใจแบบเดียวกันหากผู้ถูกเลือกไม่รู้สึกผิดในสิ่งที่เกิดขึ้นและทำให้เกิดความสงสัยตามสมควรว่าจะถูกทรยศใหม่โดยพฤติกรรมของเขาเป็นระยะ ๆ หากคุณไม่ได้อยู่ด้วยกันนานเกินไปและยังไม่ได้สร้าง ครอบครัวแล้วคุณควรคิดว่าคุณต้องการเห็นบุคคลดังกล่าวในชีวิตของคุณหรือไม่ ผู้ชายที่ตัดสินใจหักหลังไม่น่าจะชื่นชมคุณอย่างสูง อย่างไรก็ตาม หากคุณเห็นว่าเขาอารมณ์เสียมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น และคิดว่านี่เป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ คุณสามารถลองให้โอกาสเขาอีกครั้งและไม่ทำอีกต่อไป

ครอบครัวของคุณมีลูกหรือไม่? ในสถานการณ์เช่นนี้ คุณต้องคิดไม่เพียงแต่เกี่ยวกับตัวคุณเท่านั้น แต่ยังต้องคิดเกี่ยวกับพวกเขาด้วย หากการทรยศโดยคู่สมรสของคุณเกิดขึ้นอย่างเป็นระบบ ซ้ำแล้วซ้ำเล่าทำให้คุณอารมณ์เสีย กังวล และร้องไห้ ครอบครัวของคุณย่อมครอบงำครอบครัวของคุณอย่างไม่ต้องสงสัย บรรยากาศทางจิตใจซึ่งไม่ดีสำหรับเด็ก แทนที่จะให้เวลากับลูก คุณกำลังยุ่งอยู่กับการคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นในความสัมพันธ์ของคุณกับสามี การให้อภัยคนทรยศครั้งแล้วครั้งเล่าคุณไม่ได้ช่วยครอบครัวเลย - เหลือเพียงรูปลักษณ์ของมันเท่านั้น การทำเช่นนี้คุณบ่อนทำลายสุขภาพและอารมณ์เสีย ทำให้ลูกไม่สามารถสื่อสารกับแม่ที่มีความสุขได้ สถานการณ์ที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงคือถ้าคู่สมรสสะดุดหนึ่งครั้ง ตระหนักถึงความผิดพลาดของเขาและไม่ต้องการเสียคุณไป พูดคุยกับสามีของคุณ อธิบายให้กระจ่างว่าเหตุใดจึงเกิดขึ้น และคุณจะฟื้นฟูความไว้วางใจได้อย่างไร บอกเขาว่าสิ่งนี้ไม่ควรเกิดขึ้นอีกถ้าเขาต้องการเป็นหัวหน้าครอบครัวที่เป็นมิตรและมีความสุข อาจจะต้องไปเที่ยวด้วยกัน นักจิตวิทยาครอบครัวหากคุณพบว่าตัวเองไม่สามารถจัดการกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ สำหรับคนที่เสียใจกับการกระทำของเขา การทรยศของเขาเองรวมถึงคุณถือเป็นความเครียดที่ร้ายแรง ลองพักจากความตึงเครียดในครอบครัวสักพักด้วยการไปเที่ยวด้วยกันหรืออย่างน้อยก็ใช้เวลาช่วงสุดสัปดาห์ในสถานที่ที่น่าสนใจ

วิธีลืมคนทรยศ

พยายามจิตใจ อย่างน้อยก็พยายามให้อภัยเขา และตระหนักว่าการทรยศเท่านั้นคือ คนอ่อนแอที่ยังไม่เติบโต เข้าใจว่าด้วยเหตุนี้เขาจะต้องเผชิญกับปัญหามากกว่าหนึ่งครั้งในชีวิตและดีใจที่คุณจะไม่อยู่ใกล้ ๆ ในเวลานั้น เข้าใจก่อนว่าตอนนี้คุณต้องดูแลความสบายทางวิญญาณของคุณ . เกิดขึ้นกับคุณอย่างสุดซึ้ง สถานการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ให้เป็นบทเรียนชีวิตที่สำคัญ ลองนึกถึงสิ่งที่คุณสามารถเรียนรู้จากบทเรียนนี้ - ตอนนี้คุณจะแข็งแกร่งขึ้นและบางทีคุณอาจจะสามารถเข้าใจผู้คนได้ดีขึ้น การตัดสินใจตัดใครซักคนออกจากชีวิตไม่ใช่เรื่องง่าย แต่จริงๆ แล้วยากกว่ามาก ทำมัน. หากคุณได้ตัดสินใจอย่างชัดเจนแล้วว่าไม่ต้องการคนแบบนี้ และคุณคู่ควรกับความสัมพันธ์แบบอื่นๆ อย่างแรกเลย ให้ตัดการติดต่อกับคนทรยศ และอย่าเริ่มการประชุม สนทนา และโต้ตอบกับเขาด้วยตัวเอง อย่าติดตามชีวิตของเขาผ่าน สังคมออนไลน์และอย่าถามถึงเรื่องของเขาผ่านคนรู้จัก - เรียนรู้ว่าคุณต้องทิ้งคนๆ นั้นไว้ในอดีตโดยสมบูรณ์ หากคุณมีเวลาที่จะเรียนรู้ว่าชีวิตประจำวันของคนที่หักหลังคุณเป็นอย่างไร คุณก็ต้องหาสิ่งที่น่าสนใจและให้ผลมากกว่าสำหรับคุณอย่างชัดเจน เริ่มต้นด้วย กำหนดช่วงเวลา (เช่น เดือน) ระหว่าง ซึ่งคุณจะไม่แสดงความสนใจในชีวิตของคนที่คุณอยากจะลืม และจะไม่ตอบสนองต่อความพยายามของเขาในการติดต่อ ในเวลานี้ มันจะยากมากที่จะทำตามการตัดสินใจของคุณ แต่คุณจะทำให้ง่ายขึ้นสำหรับตัวคุณเอง ถ้าคุณพบงานอดิเรกใหม่ ไปเที่ยวต่างประเทศหรือเมืองอื่น เข้าใจว่ายิ่งการเชื่อมต่อที่เจ็บปวดนี้ถูกทำลายเร็วเท่าไหร่ สิ่งใหม่และดีก็จะเข้ามาในชีวิตคุณได้เร็วเท่านั้น

คำแนะนำของนักจิตวิทยา: จะทำอย่างไรถ้าถูกหักหลังและจะอยู่อย่างไรต่อไป